กำลังเสริมชั้นดี

ขุมกำลังของอาร์เซน่อลในตอนนี้เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วก็ว่าได้หลังจากแกนหลักหลายคนที่เจ็บไปนาน ทยอยกลับมาลงสนามเป็นที่เรียบร้อย

ในเกมคาราบาว คัพ ที่ไล่เฆี่ยน น็องติ้งแฮม ฟอเรสต์ 5-0 พร้อมกรุยทางเข้ารอบ 4 อย่างไม่ยากเย็น (แต่ดันยากเพราะจับสลากเจอ ลิเวอร์พูล นี่แหละ!!) 3 ผู้เล่นสำคัญที่แฟนบอลปืนใหญ่รอคอยต่างลงเล่นได้หมด

ร็อบ โฮลดิ้ง, เอคตอร์ เบเยริน และ คีแรน เทียร์นี่ย์ 

โฮลดิ้ง เจ็บหนักจากเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวจนถึงปัจจุบัน  

เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 24 ปี ผ่านเกมเรียกความฟิตมาถึง 4 เกมก่อนได้ลงเป็นตัวจริงในเกมคาราบาว คัพ พร้อมกับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมช่วยทีมเก็บคลีนชีต และขึ้นมาโหม่งพังประตูอีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นการคัมแบ็กที่สุดยอดเหลือเกินเพราะ โฮลดิ้ง ไม่ได้เล่นในเกมทางการมา 293 วันหรือ 9 เดือนเต็ม แต่ยิงประตูได้ทันทีในนัดแรกที่กลับมา 

"เป็นขั้นตอนที่ยาวนานและเป็นเวลาหลายวันในโรงยิม ผมคงไม่สามารถขีดเขียนเรื่องราวให้ออกมาได้ดีกว่านี้แน่นอน  สิ่งที่เกิดขึ้นยอดเยี่ยมเหลือเกิน"

"เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดในโลก เป็นเกียรติที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม เพื่อนร่วมทีมก็ทำผลงานได้สุดยอดในคืนนี้" โฮลดิ้ง กล่าว 

ในวินาทีที่อดีตดาวรุ่งโบลตันโขกพังประตู เจ้าตัวได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมด้วยเพราะรับหน้าที่ต่อจาก เมซุต โอซิล ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในไม่กี่วินาทีก่อนหน้า

โฮลดิ้ง คัมแบ็กรอบ 9 เดือนด้วยการทำประตูทันที

เป็นเรื่องบังเอิญสำหรับ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่เกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกที่กำลังจะได้โอกาสลงเล่นหลังจากหายเจ็บกลับมาคือการไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด คู่แข่งทีมเดิมและที่สนามเดิม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เหมือนวันที่เจ้าตัวถูกหามใส่แปลออกจากสนาม 

แฟนปืนใหญ่ก็ได้แต่หวังว่าคราวนี้จะแต่เรื่องดีเกิดขึ้น เช่นเดียวกับ โฮลดิ้ง ที่คงต้องการลบภาพฝันร้ายเมื่อปีก่อนให้ได้ด้วยการพาทีมบุกชนะเก็บ 3 คะแนนกลับออกมา 

ขณะที่ เอคตอร์ เบเยริน ก็เจ็บไปนานใกล้เคียงเพราะพักมาตั้งแต่เกมพรีเมียร์ลีกในบ้านที่ชนะ เชลซี 2-0 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมแล้วหายหน้าไปนาน 8 เดือนเต็ม

เบเยริน กลับมาซ้อมหลัง โฮลดิ้ง และผ่านเกมยู-23 เพื่อเรียกความฟิตเพียงเกมเดียวเท่านั้น ทำให้ได้ลงเล่นในฐานะสำรอง ทว่าเป็นการลงสนามที่เรียกเสียงฮือฮาไม่แพ้กันเพราะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีที่เท้าเหยียบผืนหน้าในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เบเยริน ก็แอสซิสต์ โจ วิลล็อค ยิงได้ทันที

เพื่อนร่วมทีมทุกคนจึงวิ่งเข้ารุมล้อมยินดีกับเจ้าตัวไม่แพ้คนทำประตูเพราะต่างรู้ดีว่าทั้ง เบเยริน และ โฮลดิ้ง ต้องอดทนและพยายามมากแค่ไหนในการเรียกความฟิตกลับมาลงสนามอีกครั้ง 

ไม่มีอะไรทรมานมากกว่านับวันรอเพื่อได้ทำในสิ่งที่รักอีกแล้ว ดังนั้นเกมนี้จึงมีความหมายต่อทั้งคู่อย่างมาก 

โฮลดิ้ง กับ เบเยริน อดทนซ้อมและเรียกฟิตมาด้วยกัน

ส่วนคนสุดท้ายที่ได้รับเสียงปรบมือไม่แพ้ ร็อบ โฮลดิ้ง และ เอคตอร์ เบเยริน คือ คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายคนใหม่ที่ลงสนามเป็นนัดแรกนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เซลติก ก่อนปิดตลาดซัมเมอร์

เทียร์นี่ย์ คือเป้าหมายแรกที่ อูไน เอเมรี่ พยายามดึงตัวมาร่วมทีมให้ได้ แต่กว่าจะประสบความสำเร็จก็รอจนถึงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายเพราะใช้เวลาในการเจรจากับ เซลติก หลายรอบก่อนตกลงกันได้ที่ 25 ล้านปอนด์

แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่ก่อนย้ายมาแล้ว ทำให้แทบไม่มีส่วนร่วมในช่วงปรีซีซั่นกับ เซลติก เช่นเดียวกับยังไม่ได้ลงสนามให้อาร์เซน่อลเลยตลอดหนึ่งเดือนครึ่งนับตั้งแต่เซ็นสัญญา

เกมคาราบาว คัพ จึงเป็นโอกาสเหมาะสมสำหรับการลงสนามนัดแรกเพราะการได้เล่นในบ้านและเจอคู่แข่งจากลีกรอง ไม่หินโหดเท่ากับเกมพรีเมียร์ลีก 

ตลอด 77 นาทีในสนามก่อนถูกเปลี่ยนให้ เบเยริน ลงเล่น เทียร์นี่ย์ ทำผลงานได้น่าประทับใจอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมรับที่ดุดัน เข้าบอลหนักแน่น เติมเกมรุกได้ทุกจังหวะ และสามารถเปิดบอลแบบได้ลุ้นไม่ว่าจะเป็นลูกเรียดหรือครอสโด่งเข้าเขตโทษ 

เทียร์นี่ย์ เกือบมีแอสซิสต์เช่นกันใน 2 จังหวะที่ลากถึงสุดเส้นก่อนเปิดให้ โอซิล ยิงติดบล็อก และอีกครั้งที่หยอดโด่งให้ เอมิล สมิธ โรว์ ขึ้นโหม่งติดเซฟซึ่งจังหวะนี่เองที่ สมิธ โรว์ โดนกระแทกที่ศีรษะทำให้เล่นต่อไม่ไหวและถูกเปลี่ยนตัวออก 

อูไน เอเมรี่ พอใจผลงานในนัดแรกของแนวรับวัย 22 ปีอย่างมากเช่นเดียวกับแฟนบอลอาร์เซน่อลที่อุ่นใจได้มากกว่ากับตำแหน่งแบ็กซ้ายเพราะในฤดูกาลนี้ นาโช่ มอนเรอัล ก็ย้ายกลับไปบ้านเกิดสเปน ขณะที่ เซอัด โคลาซินัช ก็ฟอร์มไม่คงเส้นคงวา 

หากเรียกความฟิตให้เต็มถังได้มากกว่า และรักษาฟอร์มการเล่นได้แบบที่ทำได้เหมือนนัดแรก โอกาสยึดตัวจริงในเกมรับฝั่งซ้ายของ คีแรน เทียร์นี่ย์ มีสูงมาก 

คีแรน เทียร์นี่ย์ เล่นได้น่าประทับใจอย่างมากในนัดแรก

การกลับมาของ 3 ผู้เล่นแนวรับทำให้กลุ่มผู้เล่นบาดเจ็บเหลือเพียง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ กองหน้าชาวฝรั่งเศสที่คาดว่าหลังเบรกทีมชาติเดือนตุลาคมก็น่าจะกลับมาลุยได้ 

ส่วน เอมิล โรว์ ที่ศีรษะกระแทกกับผู้เล่นฟอเรสต์ ก็ไม่เป็นรุนแรงเพียงแต่ เอเมรี่ ต้องเปลี่ยนออกทันทีเพราะไม่ต้องการเสี่ยง เจ้าตัวจะกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือกในเร็วๆ นี้  

เอเมรี่ กล่าวถึงภาพรวมความพร้อมของลูกทีมว่า "เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก มันน่าทึ่งที่ได้เห็นปฏิกิริยาของแฟนบอลที่มีต่อ ร็อบ โฮลดิ้ง, คีแรน เทียร์นี่ย์ และ เอคตอร์ เบเยริน ที่ได้ลงเล่นในช่วง 15 นาทีสุดท้าย"

"มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม เราสามารถเป็นทีมที่สามารถต่อสู้กับทีมอื่นได้ดีขึ้น สำหรับเรา การมีผู้เล่นทุกคนพร้อมลงเล่นเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบ"

"ตอนนี้ เราขาดผู้เล่นเจ็บเพียง 2 คือ ลากาแซ็ตต์ กับ สมิธ โรว์ และหวังว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า พวกเขาจะกลับมาซ้อมและลงเล่นได้" 

อาร์เซน่อลจะต้องลงเล่นอีก 3 นัดก่อนเบรกทีมชาติในเดือนตุลาคมซึ่ง ลากาแซ็ตต์ กับ สมิธ โรว์ จะไม่พร้อมช่วยทีม แต่น่าจะพร้อมหลังโปรแกรมทีมชาติเสร็จสิ้นแล้วกลับมาลุยกันต่อในระดับสโมสร

ถึงตอนนั้น อูไน เอเมรี่ น่าจะได้ขุมกำลังแบบเต็มร้อยเสียทีในช่วงโปรแกรมโหดที่ต้องลงเล่นถึง 7 นัด ในรอบ 20 วัน (21 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน) ก่อนถึงเบรกทีมชาติของเดือนพฤศจิกายนอีกที

ด้วยขุมกำลังที่พร้อมมากกว่าเดิม อูไน เอเมรี่ คงพาทีมผ่านช่วงโปรแกรมหนักไปได้แบบไม่สะบักสะบอมจนเกินไปนัก