ทำแล้วต้องรับผิดชอบ
ในเกมที่เสียประตูให้คู่แข่งไปก่อน การฮึดตีเสมอได้และเป็นเกมนอกบ้านแบบนี้ถือว่าน่าพอใจ แม้ว่าจะไม่สามารถปลดล็อกบุกชนะผีแดงได้เลยเป็นปีที่ 13 ติดต่อกันก็ตาม
อูไน เอเมรี่ กลับมาใช้งานผู้เล่นชุดใหญ่อีกครั้งหลังใช้สำรองกับดาวรุ่งลงสนามในคาราบาว คัพ ที่ชนะ ฟอเรสต์ 5-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และถ้าเทียบกับเกมพรีเมียร์ลีกที่แซงชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2 ตัวจริงก็เปลี่ยนไป 2 ตำแหน่ง
ดานี่ เซบายอส กับ เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ หลุดเป็นสำรองเพื่อหลีกทางให้ ลูคัส ตอร์เร่า กับ คาลัม แชมเบอร์ส ลงเล่น
ตอร์เร่า ได้ลงเล่นแดนกลางร่วมกับ กรานิต ชาคา และ มัตเตโอ เก็นดูซี่ เพื่อเน้นแดนกลางในระบบ 4-3-3 ส่วน แชมเบอร์ส ที่เด่นมากใน 2 นัดหลังสุดก็ได้โอกาสก่อนลุยแบ็กขวาแม้ว่า เมทแลนด์-ไนลส์ จะพ้นโทษแบนมาแล้วก็ตาม
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวดีได้ทั้ง ปอล ป็อกบา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ผ่านความฟิตลงเล่นได้ ทว่ากลับไม่มี อาร่อน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาตัวหลักที่ป่วย แอชลี่ย์ ยัง จึงต้องโยกมารับผิดชอบแทน ขณะที่ฝั่งซ้ายที่ ลุค ชอว์ ยังเจ็บอยู่ก็เป็น อักเซล ตวนเซเบ้ ได้โอกาสตัวจริง
ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกทั้งสองทีมค่อนข้างระวังกันพอสมควรทำให้โอกาสลุ้นประตูมีน้อยมาก อีกทั้งเกมรุกก็ต่างขาดคุณภาพในการกดดันกองหลังของอีกฝ่าย
ชาคา ถูกวิจารณ์ในจังหวะนี้
การส่งกองกลางเชิงรับลงพร้อมกัน 3 คนทำให้อาร์เซน่อลขาดตัวสร้างสรรค์เกมรุก ตัวริมเส้นสองฝั่งมีเพียง บูคาโย่ ซาก้า เจ้าหนูดาวรุ่งวัย 18 ปี 25 วันที่ทำสถิติอายุน้อยสุดที่ลงเล่นในเกมระหว่างแมนฯ ยูไนเต็ดกับอาร์เซน่อล ทำเกมได้ลุ้นมากกว่า
ทว่าอีกฝั่งที่เป็นพื้นที่ของ นิโกล่าส์ เปเป้ กลับมีผลงานน่าผิดหวัง เกมนี้โอกาสยิงโล่งๆ 2 ครั้งแต่ซัดข้ามคานและยิงเบาติดเซฟง่ายดาย ส่วนจังหวะอื่นก็หนักไปทางทำบอลเสียและแทบไม่ได้สร้างความอันตรายใดๆ
เปเป้ ได้โอกาสยิงประตูจากจุดโทษในเกมชนะวิลล่าที่ โอบาเมย็อง เปิดทางให้ยิงเพื่อเรียกความมั่นใจ แต่ผลงานในเกมกับผีแดงก็ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่ามีความมั่นใจที่ดีกว่าเดิม เกมนี้ถูกดาวรุ่งอย่าง ซาก้า กลับรัศมีโดยสิ้นเชิง
ท้ายครึ่งแรก เกมสนุกมากขึ้นเพราะทั้งสองทีมพยายามโจมตีกันด้วยจังหวะฉาบฉวย ก่อนเป็น แมนฯ ยูไนเต็ดที่ได้ประตูนำจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
กองกลางเด็กปั้นผีแดงยิงได้สวยงามหมดจน แบรนด์ เลโน่ ไม่ต้องขยับกันเลย แต่จุดที่ถูกพูดถึงคือจังหวะการบล็อกของ กรานิต ชาคา
ในบางมุม ลักษณะการก้มหัวของกัปตันทีมคนใหม่เหมือนตั้งใจหลบลูกยิงของ แม็คโทมิเนย์ จนทำให้แฟนบอลปืนทั่วโลกรุมตำหนิว่าไร้ซึ่งความกล้าหาญ ไม่มีความเป็นผู้นำที่แสดงออกถึงหัวจิตหัวใจนักสู้ มีอย่างที่ไหนก้มหัวหลบบอล
แต่บางมุมก็เหมือนว่า ชาคา ตั้งใจจะใช้หัวบล็อกลูกยิงอยู่แล้ว แต่บอลไปแฉลบตัว โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส ที่ยืนข้างหน้าเสียก่อนทำให้เปลี่ยนทางเล็กน้อย วิถีของบอลก็เลยไม่ตรงกับหัวของ ชาคา และทำให้ดูเหมือนตั้งใจมุดหลบ
ตั้งใจหลบ หรือ ตั้งใจโหม่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนคือการเป็นกัปตันทีมของ กรานิต ชาคา ถูกตั้งคำถามอย่างมากเพราะเสียงของแฟนบอลส่วนใหญ่ต่างมองว่าไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม
ดังนั้นในเหตุการณ์ก่ำกึ่งและบางภาพก็ชวนชี้นำไปอีกทาง เสียงวิจารณ์จึงเซ็งแซ่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทางเดียวที่กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์จะลบเสียงวิจารณ์ได้ก็คือทำผลงานโดยรวมให้ดีขึ้น หากทำได้แค่ "ทรงๆ" และมีจังหวะผิดพลาดให้เห็น ยังไงก็หนีคำวิจารณ์ไม่พ้น
ในครึ่งหลังอาร์เซน่อลได้ประตูตีเสมอได้เร็วจาก โอบาเมย็อง ซึ่งต้องขอบคุณ ''วีเออาร์'' ที่ช่วยยืนยันว่าเป็นประตูที่ขาวสะอาดไม่ได้ล้ำหน้าแต่อย่างใด
จังหวะนี้ผู้ช่วยผู้ตัดสินพลาดอย่างไม่น่าเชื่อที่ยกธงล้ำหน้าทั้งที่เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังคนสุดท้ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยืนต่ำสุดและต่ำกว่า โอบาเมย็อง ราว 2 ช่วงตัว
หากไมได้วีเออาร์มาช่วยพลิกคำตัดสิน อาร์เซน่อลจะเสียประตูอย่างมากจากจังหวะที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับการล้ำหน้าแม้แต่นิด
อาร์เซน่อลเกือบไม่ได้ประตูที่ขาวสะอาดลูกนี้
หลังจากนั้น เกมเปิดมากขึ้น ทั้งสองทีมมีโอกาสได้ประตูที่สองพอๆ กัน แต่ก็ขาดความเฉียบขาดและแม่นยำซึ่งสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าคุณภาพในเกมรุกของผีแดงและปืนใหญ่เป็นอย่างไร
อาร์เซน่อลเอาตัวรอดได้หลายต่อหลายนัดเพราะ โอบาเมย็อง ยิงต่อเนื่อง ประตูล่าสุดคือประตูที่ 17 จาก 17 นัดหลังสุดกับทีม ผลงานสุดยอดเหลือเกิน
แต่ในอีกมุม โอบาเมย็อง ก็แบกทีมคนเดียวจนเกินไป ตัวที่น่าจะเป็นความหวังได้อย่าง เปเป้ ก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ และไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกมากน้อยเพียงใดในการปรับจูนการเล่นในพรีเมียร์ลีก
อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ก็มีปัญหาบาดเจ็บ จะกลับมาได้อีกทีคือหลังเบรกทีมชาติปลายเดือนตุลาคม ขณะที่ เมซุต โอซิล ก็หลุดโผครั้งแล้วครั้งเล่า
การหลุดทีมของ โอซิล เป็นสิ่งที่หาคำอธิบายไม่ได้ว่านักเตะที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกและรับค่าเหนื่อยมากสุดในสโมสร ไม่ดีพอแม้กระทั่งเป็นสำรองก็ยังไม่มีชื่อ
อูไน เอเมรี่ ตอบแบบไม่เม้มว่า โอซิล ไม่เหมาะกับแท็กติกที่เลือกใช้ก็เลยไม่ได้เล่น สุดท้ายต้องมาฝากความหวังกับเด็กอายุเพียง 18 ปีอย่าง บูคาโย่ ซาก้า
เด็กปั้นจากอะคาเดมี่ปืนใหญ่ ''สอบผ่าน'' กับการเล่นต่อหน้าแฟนบอลมากกว่าเจ็ดหมื่นเป็นครั้งแรกในชีวิต สามารถเล่นงานแนวรับผีแดงได้หลายจังหวะรวมถึงเรียกใบเหลือง ประตูของ โอบาเมย็อง ก็มาจากการตัดบอลได้ของ ซาก้า ที่ตวัดทันทีให้หัวหอกรุ่นพี่หลุดไปยิงตีเสมอ
ซาก้า ก้าวขึ้นมาอย่างน่าจับตามอง แต่ด้วยความที่อายุเพียงเท่านี้ ก็ไม่ควรไปฝากความหวังกับเจ้าตัวมากนัก ต้องค่อยเป็นค่อยไป และตัวซาก้าเองก็ต้องพิสูจน์ฝีเท้าอีกพอสมควร ตอนนี้มีแวว แต่ระยะยาวต้องดูกันไปเรื่อยๆ
การตัด โอซิล ออกจากทีม และให้ เซยาบาส เป็นสำรองทำให้การสร้างสรรค์เกมรุกของอาร์เซน่อลด้อยประสิทธิภาพลงไป
และการที่ไม่รู้จะใช้ประโยชน์อย่างไรกับผู้เล่นอย่าง โอซิล และ เซบายอส ก็บ่งบอกถึงคุณภาพโค้ชอย่าง เอเมรี่ ได้เช่นกัน
ถ้าผลงานของ เอเมรี่ ติดลมบนแบบลิเวอร์พูล ย่อมไม่มีใครวิจารณ์อะไรได้มากนักกับการใช้หรือไม่ใช้นักเตะบางคน แต่เมื่อผลงานสามวันดีสี่วันไข้แบบนี้ เอเมรี่ ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าแท็กติกของตัวเองเยี่ยมยอดแล้ว
ทว่าความจริงก็คือ เอเมรี่ ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เลย มิหนำซ้ำกลับเพิกเฉยต่อคำแนะนำ เสียงติติงรอบข้าง ยึดมั่นถือมั่นในการตัดสินใจของตัวเองจนเกินไป
หากท้ายที่สุดแล้ว ผลการแข่งขันในสนามไม่เป็นไปตามเป้า อูไน เอเมรี่ ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะไม่สายเกินไป
ผ
ผลงานของ เอเมรี่ กับ โซลชา ยังไม่น่าประทับใจทั้งคู่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT