:::     :::

แซร์ช นาบรี้ : ดาวที่เลือกจรัสแสงด้วยตัวเอง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แซร์ช นาบรี้ ปีกทีมชาติเยอรมันของ บาเยิร์น มิวนิค สร้างผลงานนัดล่าสุดได้อย่างลือลั่นจนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ หลังยิงคนเดียว 4 ประตูพาทีมบุกชนะ สเปอร์ส ขาดลอย 7-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

4 ประตูของดาวเตะวัย 24 ปีเป็นการยิงในครึ่งเวลาหลังทั้งหมด ขณะที่ เลกิ๊ป สื่อดังฝรั่งเศส ให้คะแนนผลงาน 10 เต็ม 10 ซึ่งเป็นเพียงคนที่ 11 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่ได้คะแนนเต็ม 

ด้วยการที่เคยเป็นเด็กเก่าอาร์เซน่อล และยิงสเปอร์สไส้แตกแบบนี้ แฟนบอลทั่วไปจึงอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าทำไมอาร์เซน่อลจึงปล่อยเพชรเม็ดงามหลุดไปแบบนี้ 

ทว่าในความเป็นจริงนั้น อาร์เซน่อล ไม่ได้ต้องการปล่อยตัว แซร์ช นาบรี้ ออกจากทีม เพียงแต่เป็น นาบรี้ ต่างหากที่เลือกเส้นทางเดินของตัวเองก่อนกลายเป็นสตาร์ดวงใหม่ที่เจิดจรัสทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ 

นาบรี้ เคยเป็นเด็กฝึกของ สตุ๊ตการ์ท ก่อนย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในปี 2011 ซึ่งในฤดูกาลแรก เจ้าตัวลงเล่นในทีมเยาวชนเป็นหลัก สลับกับทีมสำรอง 

อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซืออาร์เซน่อลกล่าวถึงดาวรุ่งจากเยอรมันตอนย้ายมาร่วมทีมแรกๆว่า "แซร์ช นาบรี้ เป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่สำหรับอนาคต ผมประเมินเขาไว้สูงทีเดียว"

"หากว่าเขาพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ผมคิดว่าเขาจะก้าวขึ้นชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ ในตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องทำคือหมั่นฝึกซ้อมและดูแลร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์"

นาบรี้ สอบผ่านฉลุยกับการเล่นให้ทีมเยาวชนของอาร์เซน่อล ทำให้ได้ประเดิมพรีเมียร์ลีกในเดือนกันยายนปี 2013 และก็ทำประตูแรกได้ตั้งแต่นัดสองที่เป็นตัวจริงในเกมบุกชนะสวอนซี 2-0 


นาบรี้ (ขวา) ได้รับการฟูมฟักจาก เวนเกอร์ ก่อนเลือกทางเอง

อดีตดาวรุ่งสตุ๊ตการ์ทได้ลงเล่นอีก 11 นัดซึ่งนัดล่าสุดก็คือการพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ เมื่อเดือนมีนาคม 2014 ก่อนได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกจนต้องพักยาวเกือบปี

ด้วยการที่มีผู้เล่นริมเส้นขวางหน้าอยู่ทั้ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อเล็กซิส ซานเชซ, ธีโอ วัลค็อตต์ และ ลูคัส โพดอลสกี้ โอกาสแทรกตัวลงเล่นของ แซร์ช นาบรี้ หลังหายเจ็บกลับมาจึงเป็นไปได้ยาก อาร์แซน เวนเกอร์ จึงเลือกปล่อยให้ เวสต์บรอมวิช ยืมใช้งานในฤดูกาล 2015/16  

แต่การยืมตัวที่เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ก็ไม่ได้โอกาสมากนัก โทนี่ พูลิส ส่ง แซร์ช นาบรี้ ลงเล่นพรีเมียร์ลีกเพียงนัดเดียวในฐานะสำรอง และประเมินว่าดาวรุ่งชาวเยอรมันไม่มีคุณภาพมากพอสำหรับการเล่นลีกสูงสุดอังกฤษ อาร์เซน่อล จึงเรียกตัวกลับกลางฤดูกาลเพราะไร้ประโยชน์ที่จะอยู่ต่อไป 

พูลิส กุนซือเดอะ แบกกี้ส์ ในตอนนั้นให้สัมภาษณ์ว่า "แซร์ช มาที่นี่เพื่อลงเล่น แต่เขาไม่ได้อยู่ในระดับที่จะเล่นได้ เขามาจากระดับเยาวชนและไม่ได้เล่นเกมลีกมากนัก ฟุตบอลระดับเยาวชนเป็นการเตรียมความพร้อมนักเตะสำหรับการเล่นในลีกจริงๆ แล้วหรือไม่?" นี่เรากำลังพูดถึงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอยู่นะ"

"ในฐานะผู้จัดการทีม คุณต้องเลือกทีมที่ดีที่สุดลงสนามเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้ คุณจะไม่ดร็อปนักเตะออกจากทีมด้วยเหตุผลเพราะไม่ชอบขี้หน้า หรืออะไรก็แล้วแต่"

ช่วงซัมเมอร์หลังจบฤดูกาล นาบรี้ ติดทีมชาติเยอรมันชุดทำศึก โอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิลก่อนระเบิดฟอร์มคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ 6 ประตู ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็พยายามต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป ทว่า แซร์ช นาบรี้ ตัดสินใจเลือกกลับไปเล่นในบ้านเกิดเยอรมันด้วยการเซ็นสัญญากับ แวร์เดอร์ เบรเมน 


แจ้งเกิดกับ แวร์เดอร์ เบรเมน 

เวนเกอร์ กล่าวว่า "เราไม่ได้อยากโละ นาบรี้ เลย เราต้องการเก็บเขาเอาไว้ แต่ว่าเขาเหลือสัญญาปีสุดท้าย เราใกล้ที่จะต่อสัญญาเขาได้ แต่ท้ายที่สุด เขาเปลี่ยนใจและเลือกไป แวร์เดอร์ เบรเมน"

"อย่างไรก็ตาม ผมก็คิดว่าเราได้สอนสิ่งต่างๆ กับเขามากมาย และหากไปถามเขา เขาก็คงพูดในทำนองเดียวกัน"

ขณะที่ นาบรี้ ก็เปิดใจถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญว่า "มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ผมต้องการลงสนามมากขึ้น อาร์เซน่อล ต้องการรั้งตัวผมเอาไว้ แต่ผมจำเป็นต้องคำนึงถึงการพัฒนาตัวเอง"  

นาบรี้ ทำผลงานได้น่าประทับใจในฤดูกาลแรกกับ เบรเมน ที่กดไป 11 ประตูจาก 27 นัดในลีก และในระหว่างนั้นก็ถูกเรียกติดธงชุดใหญ่ของ โยอัคคิม เลิฟ ก่อนสร้างความฮือฮากระหน่ำแฮตทริกได้ในนัดแรกที่ลงสนามช่วยทีมบุกถล่ม ซาน มาริโน่ 8-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 

บาเยิร์น มิวยิค ยักษ์ใหญ่ของเยอรมันไม่รอช้าจัดการเจียดเงิน 8 ล้านยูโรคว้าตัว แซร์ช นาบรี้ เข้าทีมและปล่อยให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ยืมใช้งานทันทีซึ่งดาวรุ่งจากสตุ๊ตการ์ทก็ปล่อยของได้อีกเช่นเคยยิงไป 10 ประตู พาฮอฟเฟ่นไฮม์จบอันดับ 3 คว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ 


กดคนเดียว 4 ประตูในเกมถล่ม สเปอร์ส 7-2 

ฤดูกาลที่แล้วจึงเป็นฤดูกาลแรกที่ แซร์ช นาบรี้ ได้เล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค เขาไม่ทำให้แฟนบอลเสือใต้และกุนซือ นิโก้ โควัช ต้องผิดหวังเมื่อโชว์เพลงแข้งสุดประทับใจพร้อมซัดไป 13 ประตูจาก 45 นัดในทุกรายการ พาทีมได้แชมป์บุนเดสลีกาและคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรไปครอง 

ด้วยการอำลาทีมในซัมเมอร์ล่าสุดของทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน และ ฟร้องค์ ริเบรี่ บทบาทในเกมรุกของ แซร์ช นาบรี้ ฤดูกาลนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขามีความสำคัญต่อทีมไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแนวรุกคนอื่นแต่อย่างใด 

4 ประตูล่าสุดในเกมระดับแชมเปี้ยนส์ ลีก และเป็นการลั่นไกใส่ทีมรองแชมป์ถึงบ้าน รวมถึงผลงานในระดับชาติที่ตัวเลข 10 นัด 9 ประตู เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนว่า แซร์ช นาบรี้ ตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วกับการเลือกเส้นทางให้ตัวเอง

แฟนปืนใหญ่อาจตั้งสมมุติฐานที่เกิดขึ้นพร้อมความรู้สึกเสียดายว่าหากอยู่กับทีมในตอนนี้ เกมรุกของทีมคงอันตรายอย่างยิ่ง และอาจไม่ต้องเสียเงินเป็นสถิติสโมสร 72 ล้านปอนด์ไปดึงตัว นิโกล่าส์ เปเป้ มาด้วยซ้ำ

แต่สมมุติฐานก็คือ "สมมุติฐาน" ไม่ใช่สิ่งการันตีว่าหาก แซร์ช นาบรี้ ยังเล่นอยู่กับอาร์เซน่อลต่อไป ชีวิตค้าแข้งของเขาจะเป็นอย่างที่เป็นในวันนี้ 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})