มันจบแล้ว

อาร์เซน่อล ลงสนามนัดล่าสุดเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 แต่ประเด็นใหญ่ไม่ใช่เรื่องการพลาดชัยชนะในบ้าน หากเป็นวีรกรรมของกัปตันทีมอย่าง กรานิต ชาคา ที่ตอบโต้แฟนบอลในแบบที่หลายคนรับไม่ได้

หลังจากถูกแฟนบอลโห่เพราะไม่รีบเดินออกจากสนามหลังถูกเปลี่ยนตัวออก สิ่งที่ ชาคา ทำคือด่ากลับแฟนบอลพร้อมยกมือยกไม้ท้าทาย และทำท่าป้องหูอีกด้วย 

เท่านั้นไม่พอ จังหวะที่ถอดปลอกแขนกัปตันทีมส่งให้เพื่อนก็โยนให้อย่างไม่ใยดีจน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ต้องก้มเก็บบนพื้น ก่อนปิดท้ายด้วยการถอดเสื้ออาร์เซน่อลออกแล้วเดินเข้าห้องแต่งตัวแบบไม่สนใจใครทั้งที่ควรกลับไปนั่งรวมบนม้านั่งสำรอง

แฟนบอลอาร์เซน่อลมีภาพลบกับ ชาคา เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งเรื่องฟอร์มการเล่นที่ย้ายมาเป็นฤดูกาลที่ 4 แต่ยังไม่มีผลงานจับต้องได้ อีกทั้งก่อความผิดพลาดให้เห็นซ้ำซากทั้งเข้าบอลโฉ่งฉ่าง ฟาวล์แบบอ่อนหัด ไม่มีชั้นเชิง เสียบอลง่าย ฯลฯ 

ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่กลับได้โอกาสลงสนามตลอด แถมได้รับเลือกให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกต่างหาก

เมื่อรวมกับวีรกรรมล่าสุดก็เลยทำให้กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เผชิญกับเสี่ยงโห่ที่อื้ออึงไปทั่วเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และตอนนี้ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างจาก "หมาหัวเน่า" ที่แฟนบอลสาบส่งไล่ให้พ้นสโมสร 

จริงอยู่ว่า แฟนบอลที่โห่ใส่ ชาคา อาจทำเกินเหตุเพราะไม่ควรโห่นักเตะตัวเองแบบนั้น นักเตะทุกคนต่างต้องการกำลังใจมากกว่าเสียงด่าทอ และการกระทำแบบนี้ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

ถ้าไม่นับผลงานที่ผ่านมาและดูเฉพาะนัดนี้อย่างเดียว ชาคา ไม่ได้เล่นผิดพลาดอะไร อาจมีถูกตำหนิบ้างในจังหวะที่ควรป้องกัน เจมส์ แม็คอาเธอร์ ไม่ได้เปิดบอลจากฝั่งซ้ายลอยมาเข้าหัว จอร์แดน อายิว จนโหม่งตีเสมอ 2-2

สิ่งที่ชาคารู้สึก ณ วินาทีนั้นคือ แฟนบอลตั้งธงด่าตัวเองแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เมื่อโดนหนักๆ เข้าก็เลยตอบโต้ออกไปแบบนั้น 

แต่อย่างไรก็ตาม กรานิต ชาคา ก็ไม่ควรตอบโต้แฟนบอลแบบนั้นเพราะสถานการณ์ทำนองเคยเกิดขึ้นกับนักฟุตบอลหลายต่อหลายคน การตอบโต้รุนแรงกลับไปไม่เคยส่งผลดีแม้แต่รายเดียว 

สิ่งสำคัญคือต้องก้าวผ่านไปให้ได้ ใช้ฝีเท้าสยบเสียงวิจารณ์ ตอบโต้ด้วยการกระทำในสนาม ใช้ฝีเท้าพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ไม่ใช่ด่ามาด่ากลับ 

ยิ่งคนที่เป็นกัปตันทีมยิ่งต้องแสดงออกซึ่งภาวะผู้นำมากกว่านักเตะทั่วไป ไม่ใช่หัวเสีย สมาธิหลุดได้ง่าย แล้วแบบนี้จะไปนำใครได้

ถามว่าเรื่องนี้ใครผิดมากกว่าระหว่าง แฟนบอล กับ กรานิต ชาคา

ตอบแบบกลางๆ ก็ต้องบอกว่าผิดด้วยกันทั้งสองฝ่าย เข้าทำนองเพราะสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงเกิด

แต่หากจะมองหาต้นเหตุที่แท้จริงก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่า อูไน เอเมรี่ มีส่วนด้วยและมีส่วนอย่างมากทีเดียว 

เอเมรี่ คือคนที่ตัดสินใจเลือกทีมลงเล่น และเขาก็คือคนที่ตัดสินใจคนสุดท้ายในการเลือกกัปตันทีมโดยดูจากผลโหวตของนักเตะในทีมประกอบการตัดสินใจ

ชาคา อยู่ยากแล้วหลังทำพฤติกรรมล่าสุด

ชาคา ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เลยทั้งในการเป็นนักเตะอาร์เซน่อล แต่โอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า และถูกเลือกให้เป็นกัปตันทีมอีกต่างหาก

สิ่งที่เอเมรี่ปฏิบัติต่อชาคาเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อีกเช่นกันที่แฟนบอลต้องนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของ เมซุต โอซิล

โอซิล หลุดจากทีมของเอเมรี่เป็นนัดที่ 6 ติอต่อกันทั้งที่ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร ลงซ้อมก็ซ้อมกับทีมตลอด แต่กลับไม่มีชื่อเลยแม้กระทั่งสำรอง

เอเมรี่ให้โอกาสคนหนึ่งอย่างมากมาย แต่อีกคนกลับทำเหมือนไม่มีตัวตน การกระทำแบบนี้ทำให้แฟนบอลมองเอเมรี่ในด้านลบพอสมควร เพราะกุนซือชาวสเปนไม่เคยอธิบายชัดเจนตรงประเด็นเลยว่าทำไม โอซิลถึงไม่มีชื่อในทีม

เมื่อไม่สามารถเคลียร์ประเด็นสงสัยกับแฟนบอลได้ มันก็เป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะตั้งข้อสังเกตว่า เอเมรี่ มีอคติและเรื่องที่รักมักที่ชัง ไม่มีความเป็นผู้นำที่คุณสมบัติสำคัญหนึ่งอย่างที่ต้องมีความยุติธรรม 

เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาหมักหมกที่มีมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วที่โอซิลก็ถูกดองไปหลายนัด 

หากจะมองว่า กรานิต ชาคา เหมือนเป็น ''แพะ'' ก็พอจะมองได้นั่น เพราะเขาคือคนที่เอเมรี่ส่งเสริมอย่างเต็มที่ ทว่ากลับไม่สามารถทำในสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังได้

การประท้วงเอเมรี่ของแฟนบอลอาร์เซน่อลเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง ป้าย ''EmeryOut'' ถูกชูกันสลอนบนอัฒจันทร์ 

แต่พอชาคามีพฤติกรรมแบบนั้น หลายคนจึงพุ่งเป้าไปที่กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เพราะการที่ชาคาได้เล่นได้อยู่ในสนามก็เพราะการตัดสินใจของเอเมรี่ 

เอเมรี่รู้ทั้งรู้ว่าแฟนบอลไม่ได้ชื่นชอบ กรานิต ชาคา แต่ก็ให้ลงสนามทุกนัดทั้งที่ผลงานในสนามก็พึ่งพาจริงๆ  จังๆ ไม่ได้ แถมคนที่เป็นขวัญใจแฟนบอลอย่าง เมซุต โอซิล กลับไม่ได้เล่น

สิ่งที่เอเมรี่ทำเป็นการท้าทายแฟนบอลมากเกินไป เขามั่นใจในตัวเองเกินเหตุ และ ''อยู่ไม่เป็น'' ไม่รู้จักหลบเลี่ยงการเผชิญหน้าที่ไม่จำเป็น 

เอเมรี่ ควรถูกตำหนิไม่แพ้กัน

ลำพังผลงานในสนามที่น่าผิดหวังก็เป็นเรื่องหนักอกหนักใจพออยู่แล้ว การจัดตัว การเลือกแท็กติก และการบริหารจัดการก็ออกมาขัดหูขัดตาแฟนบอลไปหมด 

มีเสียงวิจารณ์ทั้งรุนแรง และแนะนำด้วยความหวังดี แต่เอเมรี่ก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนความคิดตัวเอง เป็นคนที่มีอีโก้สูงในทางที่ผิด

การด่าทอหรือโห่ใส่นักเตะตัวเองไม่ได้หมายความว่าแฟนบอลมีสิทธิ์ทำได้ เพราะในความเป็นจริงมีแต่ทำให้สถานการณ์แย่ลง แต่มันก็เป็นสิ่งสะท้อนถึงปัญหาต่างๆ นานาของอาร์เซน่อลที่มีมาหลายปีก่อนระเบิดออกมาในที่สุด  

ในหลายปีหลัง อาร์เซน่อลดำเนินงานหลายอย่างผิดพลาดไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสัญญานักเตะที่ไร้ประสิทธิภาพจนเสียตัวหลักไปหลายคนทั้งที่ไปแบบไร้ค่าตัวและแทบไม่ได้อะไรติดมือ ความสำเร็จในสนามแทบไม่มี แต่ค่าตั๋วชมเกมแพงหู่ฉี่ และก็เป็นแบบนี้หลายปี 

แฟนบอลที่จงรักภักดีก็ยังสนับสนุนทีมมาตลอด ค่าตั๋วแพงแค่ไหนก็กัดฟันจ่าย เกมยุโรปไกลๆ ต้องเสียค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากินค่าอยู่บานตะไท แต่ก็ยอมกระเป๋าฉีก

ดังนั้นแฟนบอลก็ย่อมคาดหวังกับผลงานในสนาม คาดหวังถึงโค้ชที่สามารถพาทีมก้าวไปข้างหน้าได้ และคาดหวังถึงความทุ่มเทของนักเตะ ไม่ใช่งอแงออกอาการได้ง่ายแบบนี้   

สิ่งที่อาร์เซน่อลต้องทำต่อจากนี้คือปลด กรานิต ชาคา ออกจากตำแหน่งกัปตันทีมสถานเดียว เพราะเห็นได้ชัดแล้ว่าไม่มีวุฒิภาวะที่จะเป็นผู้นำแม้แต่นิด และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมากล่าวขอโทษแฟนบอล 

สถานการณ์ของ ชาคา กับ แฟนบอลอาร์เซนอล ณ ตอนนี้เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดไปแล้ว และเป็นไปได้ยากที่จะกลับมาสานต่อกันได้ 

ชาร์ลี นิโคลัส อดีตแข้งอาร์เซน่อล ฟันธงว่าอนาคตของกองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์กับอาร์เซน่อลดับวูบลงแล้ว "ผู้จัดการทีมปล่อยให้นักเตะรับผิดชอบกันไป (ในการเลือกกัปตันทีม) และมันก็เห็นชัดว่าอาร์เซน่อลมีปัญหาในการหาผู้นำโดยธรรมชาติ"

"พฤติกรรมที่เราเห็นเมื่อวันอาทิตย์เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ชาคา อาจเป็นกัปตันทีมคนปัจจุบัน แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะได้เป็นกัปตันทีมอีกหลังจากสิ่งที่เขาทำเมื่อสุดสัปดาห์ เขาไม่ได้ออกมาขอโทษในทันทีทันใดเกี่ยวกับพฤติกรรมของตัวเอ"

"สิ่งที่เขาทำเลวร้ายมาก และผมก็ไม่คิดว่าเขาจะมีอนาคตที่สโมสรอีกต่อไป"