:::     :::

เรียนรู้จากความผิดพลาด

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมชาติไทยในยุค อากิระ นิชิโนะ เป็นนัดแรกเสียแล้วในเกมสำคัญของฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก

ทัพ "ช้างศึก" พลาดท่าพ่ายต่อ มาเลเซีย ในเกมที่ขึ้นนำก่อนตั้งแต่ต้นเกม แต่เล่นไปเล่นมาก็ต้องยอมรับว่า ทัพ "เสือเหลือง" ทำผลงานได้ดีกว่าและคู่ควรกับการเป็นผู้ชนะ 

แข้งจากแดนสยามเริ่มต้นได้แล้วกับการขึ้นนำเร็วจาก "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จบสกอร์ได้ยอดเยี่ยม โชว์สัญชาตญาณในการยิงเร็วในสถานการณ์ที่ถูกประกบ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมก็ต่อบอลกันมาได้สวยและจ่ายมาให้โดย เอกนิษฐ์ ปัญญา

การได้ประตูนำเร็วเป็นการออกสตาร์ทที่เยี่ยมสำหรับทุกทีม โดยเฉพาะการไปเล่นนัดเยือน ทว่าเรากลับไม่สามารถบวกเพิ่มลูกที่ 2 ได้ และกลับกันเป็นฝ่ายถูกตีเสมอ

เกมรับของไทยนัดนี้เป็นจุดอ่อนชัดเจน อากิระ นิชิโนะ ปรับถึง 3 ตำแหน่งจาก 4 แนวรับ มีเพียง  มานูเอล ทอม เบียรห์ ที่เป็นตัวจริงจากเกมชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 เมื่อเดือนที่แล้ว

สถานการณ์บีบให้ นิชิโนะ ต้องปรับแบ็กซ้าย เนื่องจากการติดโทษแบนของ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ขณะที่การลงสนามของ  เอเลียส ดอเลาะ ลงเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟ และ ทริสตอง โด ในตำแหน่งแบ็กขวา เป็นการปรับแท็กติก 

เอเลียส ดอเลาะ ได้ลงเพราะรูปร่างใหญ่ น่าจะเป็นประโยชน์ในการรับมือผู้เล่นมาเลเซีย ตอนแรก นิชิโนะ ประเมินว่าด้วยสภาพสนามที่แฉะ การต่อบอลบนพื้นทำได้ลำบาก ทัพเสือเหลืองต้องเน้นโยนแน่นอน 

นอกจากนี้ นิชิโนะ ยังเลือกใช้ประสบการณ์ในเกมระดับนานาชาติของ โด ที่มีมากกว่า นิติพงษ์ เสลานนท์ ที่ได้รับคำชมอย่างมากในนัดกับยูเออี 

มาเลเซีย พยามหาโอกาสครอสบอลจริงในช่วงแรก แต่พอไม่ได้ผลก็ปรับแท็กติกรวดเร็วเป็นเน้นการต่อบอลบนพื้น และบางจังหวะก็อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากลุยไปเอง 

ต้องยอมรับเลยว่ากองหลังของเล่นได้น่าผิดหวังมาก แบ็ก 2 ข้างจัดการตัวรุกริมเส้นของมาเลเซียไม่ได้เลย โดนโยกซ้ายทีขวาทีก็หัวหมุน และประกบห่างเกินไป ปล่อยให้คู่แข่งได้เล่นง่าย

ขณะที่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ มานูเอล ทอม เบียรห์ ไม่ได้มีข้อผิดพลาดมาก หลายจังหวะช่วยสกัดไว้ได้ แต่คู่หูอย่าง เอเลียส ดอเลาะ ถือว่าสอบไม่ผ่านกับการเป็นตัวจริงในนัดนี้

เซนเตอร์จากการท่าเรือจัดการลูกโด่งได้ แต่การป้องกันลูกภาคพื้นมีปัญหาอย่างมากเพราะไม่ใช่ผู้เล่นที่มีความเร็วเป็นจุดเด่นแต่ไหนแต่ไร ผู้เล่นมาเลเซียจึงเลี้ยงจี้เข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า 

การยืนตำแหน่งค่อนข้างหลวม จังหวะที่ควรสกัดให้เด็ดขาดเป็นการตัดเกมเพื่อกลับมาเป็นฝ่ายครองบอลก็เลือกที่จะยืนคุมเชิง ปล่อยให้ผู้เล่นมาเลเซียได้เล่นมากเกินไป 


ทั้งแบ็ก 2 ข้าง และการป้องกันของคู่เซนเตอร์โดยเฉพาะ ดอเลาะ ที่ทำได้ย่ำแย่ เป็นการเปิดโอกาสให้มาเลเซียโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า และยิงเข้ากรอบมากกว่าไทยเกินเท่าตัว

จังหวะเสียทั้ง 2 ประตูคือตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างมากในเรื่องคุณภาพการเล่นเกมรับของแผงแนวรับชุดนี้ที่ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน  

ประตูแรก แบรนดอน กัน คนยิงตีเสมอให้เวียดนามได้ยิงง่ายๆ ไม่มีใครกดดันเลยทั้งที่มีผู้เล่นไทยถึง 4 คนล้อมหน้าล้อมหลัง 

เช่นเดียวกับประตู 2-1 ของทัพเสือเหลือง ทั้ง ทอม เบียรห์ และ ดอเลาะ ก็ควรสื่อสารกันให้ดีกว่านี้เพราะต่างวิ่งเข้าหา แบรนดอน กัน พร้อมกัน แข้งมาเลย์ฯ จึงตวัดจัหวะเดียวข้ามหัวไปถึง ซูมาเรห์ หลุดไปวอลเล่ย์เต็มข้อโล่งๆ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โดนจ่อๆ แบบนั้น ยังไงก็ทุบทิ้งไม่ทัน

ตลอด 3 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนเอเชีย ที่ผ่านมา ไทยเรายังไม่เคยตกเป็นรองคู่แข่งก่อนเลย นัดนี้นำก่อนและโดนแซงจนกลายเป็นตามหลังครั้งแรก และก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์คืนมาได้เลย 

นิชิโนะ กล่าวถึงการปรับเกมรับในนัดนี้ว่า "เหตุผลที่เปลี่ยนแบ็กโฟร์จากเกมที่แล้วถึง 3 คน ซึ่งจากความรู้สึกของผม ทั้ง 3 คนทำงานอย่างหนัก และทำอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เนื่องจากยังไม่คุ้นเคยกันมาก ทำให้การประสานงานยังไม่ลงตัว บวกกับปัจจัยเรื่องสนามด้วย จึงอาจจะกดดัน และทำได้ไม่ดีเท่าที่คาดหวัง แต่ยังเชื่อว่าทั้ง 3 คนนี้ ยังสามารถเล่นดีกว่าวันนี้ได้"

ส่วนเกมรุกของไทยวันนี้ก็ไม่สามารถเล่นได้อย่างเคย ส่วนหนึ่งเพราะเกมรับเราโดนกดดัน โดนบุกเข้าใส่มากเกินไป เมื่อไม่สามารถตัดบอลหรือเก็บบอลมาครองได้ การเล่นเกมรุกของเราก็สะดุด ไม่มีความต่อเนื่อง 


สารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ไม่โดดเด่นเหมือนในเกมกับ ยูเออี เพราะต้องยอมรับว่าแดนกลางของมาเลเซียขยันวิ่งมากกว่า และเล่นตามเสียงเชียร์ในสนามที่ปลุกเร้าได้ค่อนข้างดี 

มาเลเซียเตรียมตัวมาดีมาก ใช้การเข้าบอลถึงตัว เข้าหนัก เข้าชัวร์ ตัดแบบเด็ดขาดโดยเฉพาะเวลาที่ "เจ-ชนาธิป" จะได้เล่น ตัวรุกอื่นของไทยก็โดนประชิดตัวเร็ว ทำให้เล่นยาก

เราอาจคาใจนิดๆ กับหลายจังหวะที่ปะทะกันแล้วเราฝ่ายเสียฟาวล์เป็นส่วนใหญ่ และในทางตรงกันข้าม มาเลเซีย ก็ตัดฟาวล์หนัก แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร 

หญ้าในสนามที่ใช้หญ้าใบใหญ่ซึ่งนักเตะไทยไม่คุ้นเคย ก็อาจเป็นข้อเสียเปรียบอย่างหนึ่ง ยิ่งโดนฝนแล้วเปียก การแฉลบของลูกบอลยิ่งทำให้คอนโทรลได้ยาก แต่มันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราอยู่แล้วว่าต้องเจอกับการเป็นทีมเยือน ในเวลาที่เราเป็นเจ้าบ้านก็มีปัจจัยด้านอื่นให้เราได้เปรียบเช่นกัน 

ว่ากันในภาพรวม มาเลเซีย เล่นได้ดีกว่าจริงทั้งเกมรุกและเกมรับ ทัพเสือเหลืองสมควรได้ 3 คะแนนล้ำค่าที่ทำให้โอกาสลุ้นเข้ารอบเปิดกว้างขึ้นมากยิ่งขึ้น 


ส่วนไทยเราก็ตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการเสียตำแหน่งจ่าฝูงเพราะเวียดนามที่แข่งในเวลาไล่เลี่ยกัน สามารถเปิดบ้านชนะ ยูเออี ได้ 1-0 และหนีไทยเป็น 3 คะแนน 

นั่นหมายความว่า นิชิโนะ ต้องนำทีมชาติไทยบุกชนะเวียดนามให้ได้ในวันอังคารนี้เพื่อทำคะแนนขึ้นไปทาบ และเราจะได้เปรียบทันทีในเรื่องเฮด ทู เฮด 

นั่นคือโจทย์ และความคาดหวังที่ดีที่สุดที่เราตั้งไว้ แต่ในความเป็นจริงย่อมไม่ง่ายและหากผลการแข่งขันลงเอยอีกอย่าง สถานการณ์ของเราจะยิ่งเสียหายเพราะนักเตะสกุลเหงียนจะหนีเราไปถึง 6 คะแนนเลยทีเดียว 

"ทีมในกลุ่มนี้ เราคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีการแข่งขันกันสูง ซึ่งตอนนี้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว 3 นัดแรกเราทำผลงานได้ดีระดับหนึ่ง แต่มาสะดุดในเกมนี้ หลังจากนี้เราต้องฟื้นฟูร่างกาย ให้พร้อมสำหรับนัดถัดไปให้เร็วที่สุด"

"เนื่องจากโปรแกรมการแข่งขันไม่หยุดรอให้เรา ดังนั้นเราต้องพยายามฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้เร็วที่สุด ซึ่งจุดนี้เราต้องดูแลพวกเขาให้มากๆ" นิชิโนะ กล่าวก่อนนำทีมบุกเยือนเวียดนาม 

นิชิโนะ ต้องเรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองที่เกิดขึ้นในนัดล่าสุด ตำแหน่งแบ็กซ้ายจะได้ "อุ้ม-ธีราทร" พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม ขณะที่ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ และแบ็กขวาก็ควรต้องปรับเช่นกัน 

คนทำงานมีโอกาสผิดพลาดได้ แต่หากรู้แล้วก็ควรต้องปรับปรุงและไม่ก่อความผิดพลาดให้เกิดขึ้นอีก 



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด