:::     :::

ราบคาบ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาลงเอยด้วกยารที่ อาร์เซน่อล แพ้ แมนฯ ซิตี้ แบบราบคาบ ไม่มีทางสู้ และไม่สมศักดิ์ศรีด้วยประการทั้งปวง

แมนฯ ซิตี้ ทำได้เหนือกว่าทุกอย่างและเล่นอย่างที่ยอดทีมควรเล่น แม้โอกาสป้องกันแชมป์ในฤดูกาลนี้มืดมด แต่ทุกครั้งที่ลงสนามก็เต็มที่เสมอ 

ตรงกันข้ามกับ อาร์เซน่อล โดยสิ้นเชิง

ทีมปืนใหญ่แทบไม่มีอะไรดีขึ้นหลังปลด อูไน เอเมรี่ ออกจากตำแหน่ง เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก พาทีมชนะได้เพียงนัดเดียวใน 5 นัดที่ขัดตาทัพ

นัดล่าสุดกับ แมนฯ ซิตี้ ไม่ต้องเล่นกันถึง 90 นาทีด้วยซ้ำเพราะแค่ 45 นาที อาร์เซน่อล ก็หมอบคาสนามแล้ว

โลกโซเชียลแซวกันขำๆ ว่า แมนฯ ซิตี้ ท่าทางจะรวยจริงเพราะสามารถเช่าสนาม อาร์เซน่อล และเชิญเจ้าถิ่นมาเป็นคู่ซ้อมได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

มันเหมือนการซ้อมทีม มากกว่าที่จะเป็นการแข่งขันจริงๆ เหมือนเด็กเล่นกับผู้ใหญ่ เหมือนบอลที่ไม่ได้ซ้อมเจอทีมที่ทำทุกอย่างออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเพราะผ่านการฝึกอย่างหนักหน่วงมาไม่รู้กี่ร้อยพันครั้ง

อาร์เซน่อล ไม่สามารถสู้กับ แมนฯ ซิตี้ ได้เลยไม่ว่าจะพิจารณาในแง่มุมใด ยิ่งเล่นยิ่งเห็นความแตกต่าง

แมนฯ ซิตี้ ต่อบอลแม่นยำ มีแบบแผน นักเตะรู้หน้าที่บทบาทตัวเอง วิ่งสอดประสานกันลงตัว โชว์คำว่าทีมเวิร์กออกมาให้เห็น

ขณะที่อาร์เซน่อลไม่ใกล้เคียงแม้แต่นิดที่จะให้ได้แบบนั้น แนวรุกแทบหาจังหวะประสานงานกันไม่ได้ ทุกการเคลื่อนที่ถูกปิดช่องปิดพื้นที่ไปหมด


เป๊ป วางแท็กติกให้ เควิน เดอ บรอยน์ ขยับขึ้นสูงกว่าเดิมไปเล่นร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ กาเบรียล เชซุส 

เรือใบใช้แค่ 3 คนนี้ในการเล่นเกมรุกแต่สามารถเจาะแนวรับอาร์เซน่อลได้สบาย

ความสามารถชั้นยอดของ เดอ บรอยน์ สร้างความแตกต่างได้อย่างมาก ดาวเตะทีมชาติเบลเยียมเป็นนักเตะคุณภาพอยู่แล้ว วันไหนเล่นได้เข้าฟอร์มตัวเองก็ยากที่จะหยุดได้ 

นี่คืออีกนัดที่ เดอ บรอยน์ เล่นเต็มตามศัภกยภาพตัวเองและทำ 2 ประตูสุดสวยบวกอีก 1 แอสซิสต์ให้ทีมปิดจ๊อบตั้งแต่ครึ่งแรก

การเล่นของ เดอ บรอยน์ ทรงพลังและครบเครื่องจริงๆ เล่นได้หมดทั้งลุยไปคนเดียวหรือประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม ดึงจังหวะเร็ว-ช้า และรู้ว่าจะโจมตีจุดอ่อนคู่แข่งได้อย่างไร

เกมรับอาร์เซน่อลย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งมาเจอ เดอ บรอยน์ ในวันที่เล่นท็อปฟอร์มแบบนี้ก็ไม่มีทางหยุดได้

แนวรับอาร์เซน่อลเหมือนไม่รู้ว่าต้องเล่นเกมรับกันอย่างไร ใครต้องชน ใครต้องซ้อน การยืนตำแหน่ง การรับมือในเวลาคู่แข่งโต้กลับ ทุกอย่างมั่วซั่วไปหมด

มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่นัดนี้แต่เป็นมาตั้งนานแล้ว อันที่จริงต้องว่ากันถึงช่วงท้ายของ อาร์แซน เวนเกอร์ ต่อด้วยยุคของ อูไน เอเมรี่ 

เวลาเปลี่ยน แต่เกมรับอาร์เซน่อลไม่เคยเปลี่ยน 

ลุงเบิร์ก อาจโชคร้ายเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานโดยเฉพาะแบ็ก 2 ข้างทั้ง คีแรน เทียร์นี่ย์ และ เอคตอร์ เบเยริน แถม เซอัด โคลาซินัช ก็ยังมาเจ็บเพิ่มอีก 

แต่ต่อให้ทุกคนอยู่ครบ อาร์เซน่อลก็ใช่ว่าจะเล่นเกมรับได้ดีกว่านี้เพราะปัญหาคือพวกเขาไม่รู้วิธีการเล่น

เมื่อเทียบกับการเล่นเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ จะเห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจน


แมนฯ ซิตี้ ใช้แบ็ก 2 ข้างดันปีกของอาร์เซน่อลทั้ง นิโกล่าส์ เปเป้ กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จนถึงริมเส้นด้านข้าง โดยมี โรดรี้, อิลคาน กุนโดกัน และเซนเตอร์ฮาล์ฟ สลับเข้าซ้อน

ยิ่งตัวรุกอยู่ห่างเขตโทษมากเท่าไหร่ ความอันตรายก็ยิ่่งลดลง เปเป้ กับ  มาร์ติเนลลี่ จึงไม่สามารถเล่นรวมกับ โอบาเมย็อง ได้เลย

สถิติในครึ่งแรกที่ โอบาเมย็อง ได้จับบอลเพียง 8 ครั้งและ 3 จาก 8 เป็นการเขี่ยบอลเปิดเกม อธิบายทุกอย่างครบถ้วน 

ส่วนการเจาะตรงกลางที่นำโดย เมซุต โอซิล ก็ทำได้ลำบากเพราะต้องผ่านทั้ง กุนโดกัน และ โรดรี้ 

โอซิล ไม่ได้มีพลังทะลุทะลวงแบบ เดอ บรอยน์ พอโดนรุมเข้าหน่อยก็เสียบอลแล้ว จากนั้นก็เล่นไม่ออกและถูกเปลี่ยนตั้งแต่ยังไม่ครบหนึ่งชั่วโมง

อาร์เซน่อลแพ้ แต่คนที่แพ้ที่สุดในสนามคือ โอซิล เพราะยิ่งเมื่อเทียบกับตำแหน่งเดียวกันอย่าง เดอ บรอยน์ ก็คนละชั้นกับสิ่งที่ทำในสนาม

พอโดนเปลี่ยนตัวออกก็ยิ่งไปทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมเตะถุงมือทิ้งต่อหน้าซุ้มม้านั่งสำรอง

โอซิล ได้โอกาสกลับมาลงเล่นอย่างเต็มที่ในยุค ลุงเบิร์ก หลังถูกดองไปพักใหญ่ในช่วงท้ายยุค เอเมรี่ ทว่ากลับไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับทีมได้เลย และทำตัวไม่เหมาะสมอีกต่างหาก

ในครึ่งหลังที่ ลุงเบิร์ก เลือกเปลี่ยนดาวรุ่งอย่าง เอมิล สมิธ โรว์ และ โจ วิลล็อค ลงสนามทั้งที่มีดาวยิงประสบการณ์อย่าง อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ก็ยิ่งดูราวกับว่าอาร์เซน่อลโยนผ้าขาวยอมแพ้


ลุงเบิร์ก อาจถูกวิจารณ์ว่าเลือกส่งแต่เด็กลงเล่นเพราะคุ้นเคย มีกองหน้าดีๆ ในทีมกลับไม่ให้โอกาส

แต่ความเป็นจริงก็คือ ต่อให้มีอีก 3 ลากาแซ็ตต์ อาร์เซน่อล ก็ยากจะพลิกกลับมาชนะได้

แบบนี้สู้ให้เด็กลงไปเก็บประสบการณ์ไม่ดีกว่าหรือ ลุงเบิร์ก คงคิดแบบนั้น 

ลุงเบิร์ก ทำเต็มที่แล้ว แต่ก็อย่างที่หลายคนเห็นสีหน้าและแววตาที่ข้างสนาม กุนซือมือใหม่อย่างเขาก็คงไม่ไหวเพราะภารกิจตรงนี้ก็หนักเกินไป 

ทันทีที่จบเกม ลุงเบิร์ก ก็ให้สัมภาษณ์ฝากถึงสโมสรรีบตัดสินใจเรื่องกุนซือใหม่เสียทีจะเอายังไง

ไร้ความชัดเจนแบบนี้ตัวเองก็ทำงานลำบาก ทีมงานก็มีเพียงหยิบมือ ปัญหาตรงหน้าก็มหึหา 

ต่อให้เป็นสโมสรที่รักและเคยประสบความสำเร็จมามายในอดีต แต่แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน 



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด