ภารกิจเร่งด่วนของ อาร์เตต้า
อาร์เตต้า รับงานคุมทีมเต็มตัวครั้งแรกในวัย 37 ปีหลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะ "มือขวา" ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนฯ ซิตี้ นาน 3 ปีครึ่ง
อาร์เซน่อล แต่งตั้ง อาร์เตต้า เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ จากนั้นกุนซือป้ายแดงก็เดินทางไปชมเกมนัดเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน ปาร์ค ก่อนเริ่มคุมทีมซ้อมครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์
อดีตกองกลางชาวสเปน มีภารกิจหลายอย่างที่ต้องทำในการคุม อาร์เซน่อล แต่ที่ต้องรีบทำให้เร็วที่สุดมีอยู่ 6 ภารกิจด้วยกัน
1. แก้ปัญหาเกมรับ
อาร์เซน่อล มีปัญหาเกมรับมาตั้งแต่ช่วงท้ายของยุค อาร์แซน เวนเกอร์ ต่อเนื่องถึงยุคของ อูไน เอเมรี่ ที่ฤดูกาลล่าสุดทำท่าว่าจะแย่หนักยิ่งกว่าเดิม
ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เสียไปแล้ว 27 ประตูจาก 18 นัด มากกว่าทีมอย่าง คริสตัล พาเลซ, บอร์นมัธ, ไบรท์ตัน, นิวคาสเซิ่ล และเชฟฯ ยูไนเต็ด
นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังเป็นทีมที่ปล่อยให้คู่แข่งได้โอกาสลุ้นทำประตูมากเป็นอันดับต้นๆ ในลีก หากไม่ได้ แบรนด์ เลโน่ ช่วยเซฟในหลายต่อหลายครั้ง สถิติการเสียประตูจะยิ่งเลวร้ายกว่านี้
2. หาแท็กติกการเล่นและ 11 ตัวจริงให้ได้
ในยุคของ อูไน เอเมเรี่ อาร์เซน่อล เปลี่ยนแท็กติกเป็นว่าเล่นในแทบทุกนัดทำให้ทีมไม่สามารถรักษาระดับการเล่นได้
มิเกล อาร์เตต้า ต้องประเมินศักยภาพของผู้เล่นอาร์เซน่อลให้ออกและตัดสินใจว่าควรจะเล่นระบบแบบไหนถึงจะเหมาะสม
หากไม่สามารถหาระบบการเล่นให้กับทีมได้ก็ไม่มีทางที่จะเลือกผู้เล่นตัวหลักเพื่อเป็น 11 ตัวจริงของทีม
3. รวมใจนักเตะเข้าด้วยกันอีกครั้ง
ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา สภาพจิตใจของนักเตะ อาร์เซน่อล ย่ำแย่อย่างหนักด้วยการที่ทีมมีเรื่องในทางลบทั้งในและนอกสนาม
ผลงานในสนามน่าผิดหวัง กระแสกดดันเกิดขึ้นต่อเนื่อง สโมสรไม่มีความชัดเจนและเด็ดขาดในการตัดสินใจโดยเฉพาะช่วงก่อนปลด อูไน เอเมรี่
หลายคนในทีมจึงเหมือนขาดแรงกระตุ้นในการลงสนาม ไม่มีความรู้สึกว่าจะต้องแบกความรับผิดชอบเพื่อพาทีมไปถึงเป้าหมายให้ได้ อาการเหมือนลงเล่นให้เสร็จๆ ไป
สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่น่าห่วง มิเกล อาร์เตต้า ต้องพยายามพูดคุยและสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อทำให้ทุกคนในทีมมีความกระหาย และมีความมุ่งมั่นในการลงเล่น
อาร์เตต้า เป็นกุนซือหนุ่มที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ตรงนี้เป็นข้อเสียเปรียบที่ต้องพิสูจน์ตัวเองพอสมควรเพื่อสร้าความศรัทธาให้เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่จะรวมใจนักเตะให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้
4. เอายังไงกับ โอซิล ?
เมซุต โอซิล เป็นผู้เล่นที่พรสวรรค์สูงที่สุดในทีมและรับค่าเหนื่อยมากสุดอีกด้วย แต่ในช่วงที่ผ่านมา เขายังไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่แฟนบอลคาดหวังโดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่ถูกดร็อปบ่อยครั้ง
โอซิล เป็นนักเตะที่ค่อนข้างศิลปิน บางครั้งเล่นดีก็ดีใจหาย บางครั้งก็แทบไม่มีส่วนร่วมในการเล่นเลย ยิ่งเมื่อเข้าๆ ออกๆ ในทีมก็ยิ่งเป็นเรื่องยากในการเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้
นอกจากนี้ โอซิล ยังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นล่าสุดที่เตะถุงมือตัวเองหลังจากโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมกับแมนฯซิตี้ จนทำให้ เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก ถึงกับเอ่ยปากว่าต่อให้ไม่เจ็บก็จะไม่ใส่ชื่อในทีมนัดเยือนเอฟเวอร์ตันล่าสุด
อาร์เตต้า คงต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกับกองกลางตัวรุกรายนี้ มีข่าวว่าบอร์ดบริหารต้องการโละเขาออกจากทีมในช่วงมกราคมนี้เนื่องจากต้องการลดค่าเหนื่อยที่แสนแพง
5. เคลียร์สัญญากับ โอบาเมย็อง
มีข่าวลือมาตลอดช่วงหลังว่า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีมไม่ต้องการต่อสัญญาที่เหลืออยู่อีก 18 เดือนออกไป และต้องการย้ายทีม
โอบาเมย็อง เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมที่ทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ดอร์ทมุนด์ ในต้นปี 2018 เขาคว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลล่าสุด เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ที่นำเป็นดาวซัลโวของทีม
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่ โอบาเมย็อง ต้องการย้ายทีม แต่คนเป็นกุนซืออย่าง อาร์เตต้า ย่อมวางใจกับสถานการณ์นี้ไม่ได้แน่นอนเพราะยิ่งเวลาผ่านไป สถานการณ์ของสโมสรก็จะยิ่งเสียเปรียบเหมือน
ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ล้มเหลวในการบริหารจัดการสัญญานักเตะจนสุดท้ายจำต้องปล่อยตัวหลักออกไปในแบบไม่คุ้มค่าทั้งเสียฟรีหรือไม่ก็ได้ค่าตัวน้อยนิด
อาร์เตต้า ต้องหาทางพูดคุยกับ โอบาเมย็อง เพื่อโน้มน้าวให้ต่อสัญญาออกไปให้ได้ แต่หากหัวหอกทีมชาติกาบองตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ฝากอนาคตไว้กับทีม อาร์เตต้า และอาร์เซน่อล ก็ต้องรีบดำเนินการบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำร้อยกับหลายๆ ดีลในอดีต
6. อนาคตที่ไม่แน่นอนของหลายคน
นอกจาก ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่อนาคตไม่แน่นอนแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องรีบเคลียร์ให้ชัดเจนว่าจะเอายังไงต่อไป
กรานิต ชาคา, ลูคัส ตอร์เรร่า, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ฯลฯ ล้วนมีข่าวย้ายทีมต่อเนื่องโดยเฉพาะรายแรกที่มีปัญหากับแฟนบอลและแม้กลับมาลงเล่นให้ทีมอีกครั้ง แต่ความสัมพันธ์ก็ยากจะประสานให้เป็นดั่งเดิม
นอกจากนี้ ชโคดาน มุสตาฟี่ ส่วนเกินที่ตกทอดมาจากยุคของ อูไน เอเมรี่ ก็เป็นอีกคนที่ อาร์เตต้า ต้องตัดสินใจว่าจะเก็บไว้ใช้งานหรือหาทางปล่อยออกไป
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตลาดหน้าหนาวจะเกิดทำการอีกครั้ง นี่คือช่วงเวลาสำหรับ มิเกล อาร์เตต้า ในการ "เซต" ทีมที่ตัวเองต้องการซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งได้ผู้เล่นใหม่เข้ามา และปล่อยผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนออกไป
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT