ของขวัญวันปีใหม่
มิเกล อาร์เตต้า พาทีมเก็บชัยชนะนัดแรกในยุคของตัวเองได้ในนัดที่ 3 ของการคุมทีมหลัง 2 นัดแรกเสมอ บอร์นมัธ 1-1 ต่อด้วยแพ้คาบ้านต่อ เชลซี 1-2
อาร์เตต้า ยังคงยึดระบบ 4-2-3-1 เหมือนใน 2 นัดแรก แต่เปลี่ยนตัวจริง 4 ตำแหน่ง โดยได้ผู้เล่นที่มีอาการเจ็บก่อนหน้านี้ฟิตกลับมาลงตัวจริงทั้ง โซคราตีส, กรานิต ชาคา และที่เซอร์ไพรส์สุดคือ เซอัด โคลาซินัช
นิโกล่าส์ เปเป้ เป็นอีกคนที่กลับมาเป็นตัวจริงและทำให้แฟนบอลได้เห็น 4 ประสานที่อยากเห็นมากที่สุดในฤดูกาลนี้ลงเล่นด้วยกันเป็นครั้งแรก
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, เมซุต โอซิล และ นิโกล่าส์ เปเป้
สิ่งที่เห็นได้ชัดมากในยุคของ มิเกล อาร์เตต้า คือความมุ่งมั่นตั้งใจในการเล่น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อาร์เซน่อล มีปัญหาสภาพจิตใจอย่างมากเนื่องด้วยปัญหารุมเร้าหลายอย่าง ยิ่งเมื่อผลงานของทีมย่ำแย่ต่อเนื่องยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง
แข้งปืนโตกลับมาเล่นได้คู่ควรกับการเป็นทีมใหญ่ เล่นอย่างสมศักดิ์ศรีซึ่งมันเกิดขึ้นใน 2 นัดที่เจอคู่แข่งพิกัดเดียวกันอย่าง เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด
แต่ละคนวิ่งกันจนแทบหมดแรง โคลาซินัช กัดฟันลุยทั้งที่สภาพร่างกายไม่เต็มร้อย ลูคัส ตอร์เรยร่า ก็ต้องเสริมเจลให้พลังงานในช่วงท้าย ลากาแซ็ตต์ น้ำลายเหนียวคอเต็มทนกว่าจะถูกเปลี่ยนออกไปพัก
แม้กระทั่งคนที่ถูกวิจารณ์ว่า ขี้เกียจสุดๆ อย่าง เมซุต โอซิล ก็ยังวิ่งจนหยดสุดท้ายจนกลายเป็นทำระยะทางได้มากสุดในทีม
รูปแบบการเล่นของ อาร์เซน่อล คล้ายกับวันเจอ เชลซี แต่สิ่งที่แตกต่างคือไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นและได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
แข้งปืนโตใช้การเพรสซิ่งเร็ว ช่วยกันรุมแย่งบอล 2-3 คน ผู้เล่นเกมรุกช่วยไล่ตั้งแต่แดนบน ลากาแซ็ตต์ วิ่งเข้าป้วนเปี้ยนการเปิดบอลของแนวรับผีแดง ขณะที่ โอบาเมย็อง ที่ปิดการเติมเกมรุก อาร่อน วาน-บิสซาก้า เช่นเดียวกับสลับเข้าไปข้างใน ส่วน เปเป้ ก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวบีบจน ลุค ชอว์ ไม่สามารถเติมเกมได้
แดนกลางที่นำโดย กรานิต ชาคา และ ลูคัส ตอร์เรยร่า เก็บกินได้หมด เป็นวันที่ทั้งคู่ทำผลงานได้สุดยอดมาก นอกจากนี้ยังหาพื่้นที่ว่างได้ดีเพื่อช่วยให้กองหลังออกบอลได้ง่าย
การเล่นโดยรวมไม่มากจังหวะ ทำกันเร็ว มีความแม่นยำและมั่นใจการต่อบอล ยืนตำแหน่งเต็มพื้นที่ แทบไม่มีปล่อยว่างจนกลายเป็นจุดที่ถูกผีแดงโจมตี
ทุกคนตื่นตัวในทุกการเล่น มีสมาธิในเกมตลอด ไม่หลุด บางจังหวะแมนฯ ยูไนเต็ด เล่นฉาบฉวยวางบอลยาวหรือเล่นโต้กลับ แต่แนวรับก็ชิงจังหวะเล่นได้ก่อนเกือบทุกครั้ง
ในเกมกับเชลซี อาร์เซน่อล เล่นได้ดีมากใน 45 นาที นัดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทำได้ดีอีกครั้งในครึ่งทางแรกและน่าจะนำห่าง 4 ประตูด้วยซ้ำ
การได้ผู้เล่นหลายคนที่ฟิตกลับมาช่วยทีมไม่ว่าจะเป็น โซคราตัส, โคลาซินัช, ชาคา มีส่วนในชัยชนะอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการลงตัวจริงครั้งแรกในยุค อาร์เตต้า ของ เปเป้
ประตูแรก โคลาซินัช จ่ายแฉลบให้ เปเป้ ยิง ประตูที่ 2 ลูกเตะมุมของ เปเป้ ลงเอยที่ ดาบิด เด เคอา ปัดบอลไปโดนพวกเดียวกันก่อนลอยนิ่มๆ ให้ โซคราตีส หวดเสยตาข่าย ส่วน ชาคา ก็คุมแดนกลางได้อยู่หมัด
เมื่อเทียบกับ 3 ดาวรุ่งที่ได้เป็นตัวจริงในเกมกับ เชลซี ทั้ง บูคาโย่ ซาก้า, รีสส์ เนลสัน และ มัตเตโอ เก็นดูซี่ กลุ่มผู้เล่นประสบการณ์สูงที่ลงตัวจริงล่าสุดทำผลงานได้ดีกว่าชัดเจน
ร็อบ โฮลดิ้ง กับ ดานี่ เซบายอส กลับมามีชื่อสำรองได้แล้ว กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กับ เอคตอร์ เบเยริน น่าจะกลับมาได้ในเอฟเอ คัพ กับ ลีดส์ สัปดาห์หน้า ขณะที่ คีแรน เทียร์นี่ย์ ต้องพักอีกประมาณ 3 เดือนหลังเข้าผ่าตัดหัวไหล่
ที่เสียหายมากสุดคือ คาลั่ม แชมเบอร์ส ซึ่งเอ็นหัวเข่าฉีกจากเกมกับ เชลซี จนต้องผ่าตัดและปิดเทอมยาว 6-9 เดือน เป็นข่าวร้ายสุดๆ และทำให้ อาร์เตต้า ต้องปรับแผนในการเสริมทัพตลาดหน้าหนาวในเดือนมกราคมนี้
นัดนี้ แข้งอาร์เซน่อลหลายคนกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งและคนที่แฟนบอลพูดถึงมากที่สุดคือ เมซุต โอซิล
อาร์เตต้า รู้จักฝีเท้าของ โอซิล ดีอยู่แล้วเพราะเคยเล่นด้วยกันถึง 3 ฤดูกาล เขาให้อดีตเพื่อนร่วมทีมเล่นในตำแหน่งที่ถนัดสุดคือ จอมทัพตรงกลางที่คอยบัญชาการเกมรุก ไม่ต้องถูกขยับออกด้านข้างในบางนัดเหมือนในยุค อูไน เอเมรี่
โอซิล เล่นได้เด่นตั้งแต่เกมกับ เชลซี การเล่นมีชีวิตชีวามากขึ้น ได้ปลดปล่อยศักยภาพที่มีออกมาเรื่อยๆ แม้อาจจะยังไม่พีคสุดอย่างที่เคยทำได้ในอดีต แต่ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่เคยถูกปิดกั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้อีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น ลูคัส ตอร์เรยร่า,กรานิต ชาคา และ ดาวิด ลุยซ์ รวมไปถึง นิโกล่าส์ เปเป้ ก็ต่างยกระดับการเล่นขึ้นมาได้อย่างมาก
อีกคนที่แฟนบอลอยากเห็น อาร์เตต้า ช่วยงัดฟอร์มออกมาให้ได้มากสุดคือ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่เจอความกดดันและถูกตั้งคำถามมาโดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาด้วยค่าตัวสถิติสโมสร
นัดนี้ เปเป้ มีส่วนแทบทุกจังหวะของเกมรุก เขาคือทำประตูแรก และมีจุดเป็นเริ่มต้นประตูที่เตะมุม ผ่านบอลให้ โอบาเมย็อง, ตอร์เรยร่า และ ลากาแซ็ตต์ ได้ยิง แถมเก็บตกหน้าเขตโทษแล้วปั่นชนเสาเกือบเป็นอีกประตู
นอกจากนี้ บรรยากาศในสนามก็ดีมากๆ อีกด้วย หลายคนน่าจะได้ยินเสียงแฟนบอลตะโกนเชียร์กันดังทีเดียว นี่คือสิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า ร้องขอกับแฟนบอลตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา
เมื่อนักเตะเล่นได้แบบนี้ เสียงเชียร์ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทุกคนรอคอยบรรยากาศแบบนี้อยู่แล้ว รอที่จะได้เห็น อาร์เซน่อล ในแบบ อาร์เซน่อล ที่พวกเขาเคยรู้จัก
นี่คือวันที่แฟนบอลอาร์เซน่อลกลับมามีความสุขในการเชียร์ทีมรักอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นทั้งฟอร์มการเล่น ผลการแข่งขัน ความทุ่มเทของนักเตะ และบรรยากาศที่แฟนบอลมีส่วนร่วมกับทีมอย่างมาก
คงไม่มีของขวัญในวันปีใหม่ที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT