แย่ก็มี ดีก็เพียบ

อาร์เซน่อล เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้หวุดหวิด 3-2 เก็บชัยต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-0 และกลางสัปดาห์ในยูโรปา ลีก ที่บุกเชือด โอลิมเปียกอส 1-0 

ชัยชนะนัดล่าสุดมีจุดดีมากมายที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องปรบมือให้ลูกทีม เช่นเดียวกับจุดที่ต้องปรับปรุง 

เริ่มจากจุดที่ควรถูกตำหนิก่อน ปืนใหญ่เสีย 2 ประตูในนัดนี้ค่อนข้างง่ายและเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ดีคือตั้งแต่นาทีแรกของเกมและก่อนพักเบรกที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจพอสมควร 

ก่อนลงสนามเมื่อวันอาทิตย์ เกมรับของ อาร์เซน่อล ในยุค อาร์เตต้า ทำได้ดีขึ้นเก็บคลีนชีต 3 นัดหลังสุด และ 5 นัดจาก 9 นัดหลัง นอกจาก 2 นัดที่พบ เชลซี เหย้า-เยือนแล้ว ไม่มีนัดใดที่โดนเจาะเกิน 1 ประตู และไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่ขึ้นปี 2020 เป็นต้นมา 

แต่ 2 ประตูที่เสียนัดนี้มีข้อผิดพลาดเหมือนกันคือ ไม่สามารถจัดการกับลูกโด่งของแก๊งทอฟฟี่ได้ รวมถึงอีกหลายจังหวะที่เกือบโดนเล่นงาน

แก๊งทอฟฟี่ทำได้ดีในจังหวะเทกตัวโหม่งแย่งบอลในเขตโทษ แต่ที่ดียิ่งกว่าคือ "ความตื่นตัว" ในการเล่นจังหวะสอง

เอฟเวอร์ตันได้ 2 ประตูจากการเล่นจังหวะสองทั้งหมด อาร์เซน่อล เคลียร์บอลไม่ขาดในจังหวะแรก และไม่ตื่นตัวพร้อมจะเล่นจังหวะสอง เช่นเดียวกับการประกบตัวที่หละหลวม หลายคนชะงักยืนนิ่งกระจุกกันเป็นกลุ่ม 

โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน จึงมีเวลาได้กระโดดตีลังกาฟาดลูกบอลเข้าประตู ขณะลูกสองของ ริชาร์ลิซอน ก็ยืนรอลูกโขกเช็ดมาให้ของ เยร์รี่ มีน่า แบบโล่งๆ ไม่มีแข้งปืนอยู่ใกล้

ริชาร์ดลิซอน ได้เล่นจังหวะสองโล่งๆ

อาร์เตต้า ยอมรับว่าการเสียประตูแบบนี้และช่วงเวลาทั้งต้นเกมและจบพักเบรกส่งผลต่อความมั่นใจนักเตะ และปฏิกิริยาที่ ดาวิด ลุยซ์ โต้เถียงกับ ชโคดาน มุสตาฟี่ ก็เป็นอีกสัญญาณที่ไม่ดี

แต่ประตู 3-2 ของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่เอาคืนเอฟเวอร์ตันในนาทีแรกของครึ่งหลังก็ทำให้สถานการณ์เจ้าบ้านกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง ทั้งที่โมเมนตัมตอนเริ่มเกมควรอยู่ฝั่งผู้มาเยือนมากกว่า 

ประตูนี้และอีกประตูในครึ่งแรกจากสไตล์การยิงแบบ เธียร์รี่ อองรี บ่งบอกอีกครั้งว่า โอบาเมย็อง สำคัญต่อทีมจริงๆ  และอาร์เซน่อลก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งตัวให้อยู่กับทีมต่อไปท่ามกลางข่าวหลายทีมใหญ่พร้อมรุ่มแย่งตัวในช่วงซัมเมอร์นี้

โอบาเมย็อง ถูกคาดหวังมากขึ้นในนัดนี้หลัง อาร์เตต้า เลือกปรับทีมแบบเซอร์ไพรส์ไม่น้อยที่ดร็อป อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ซึ่งกำลังคืนฟอร์มด้วยผลงานยิง 2 นัดติด เพื่อให้เจ้าหนู เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้ลงก่อน

หัวหอกทีมชาติกาบองทำได้อย่างที่คาดหวังกับ 2 ประตู รวมถึงมีส่วนร่วมกับทีมหลายจังหวะ เกมรุกลุยริมเส้นฝั่งซ้ายและหาจังหวะสอดเข้าในอยู่ตลอด เชื่อมเกมอย่างขยันขันแข็งทั้งสร้างโอกาสให้เพื่อนและจบสกอร์เอง 

ขณะที่เกมรับก็ช่วยวิ่งไล่ลงมาสุดในหลายครั้งเพราะตัวรุกเอฟเวอร์ตันต่างมีความเร็วและคล่องตัวมาก ปล่อยภาระให้แบ็กซ้ายทั้ง เซอัด โคลาเซนัช ที่ลงแล้วเจ็บรวมถึงตัวสำรองอย่าง บูคาโย่ ซาก้า รับมือตามลำพังไม่ไหว 

มาตรฐานการเล่นของ โอบาเมย็อง ยังคงดีเยียมและขึ้นนำดาวซัลโวร่วมของพรีเมียร์ลีกเท่ากับ เจมี่ วาร์ดี้ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ 17 ประตูเป็นที่เรียบร้อย

เอ็นเคเทียห์ ซัดให้ทีมตีเสมอ 1-1

อีกคนที่ได้โอกาสแล้วก็คว้าโอกาสของตัวเองเอาไว้ได้คือ เอ็นเคเทียห์ กับ 1 ประตูสุดสวยที่ทำให้หลายคนนึกถึงประตูสุดท้ายในสีเสื้อ อาร์เซน่อล ของ เธียร์รี่ อองรี ที่ยิงซันเดอร์แลนด์ในแบบนี้ 

ดาวยิงวัย 20 ปีได้ลงตัวจริงพรีเมียร์ลีกนัดแรกในสัปดาห์ก่อนกับนิวคาสเซิ่ล แต่โชคไม่ดีตวัดบอลชนคานอย่างจัง แต่นัดนี้สามารถส่งบอลตุงตาข่ายได้สำเร็จ และเกือบเบิ้ลอีกลูกที่ปั่นเน้นๆ ชนคานครึ่งหลัง

แบบนี้หากเป็นในยุคของ อูไน เอเมรี่ ที่เสีย 2 ประตูในลักษณะแบบนี้คงยากจะกลับมาชนะได้และอาจโดนลูก 3-4 เพิ่มด้วยซ้ำในครึ่งหลัง

แต่ มิเกล อาร์เตต้า พาทีมเอาตัวรอดสำเร็จซึ่งสมควรได้รับเครดิตไม่น้อยเช่นเดียวกับการตัดสินใจเลือกทีม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำได้ดีหลายครั้ง

เซอัด โคลาซินัช บาดเจ็บอีกรอบทั้งที่เพิ่งฟิตกลับมาเป็นเรื่องโขคร้าย แต่เจ้าหนูซาก้าที่ลงมาแทนก็เป็นคนเปิดให้ เอ็นเคเทียห์ ยิงประตู  

ดาวิด ลุยซ์ ที่น่าจะทำได้ดีกับจังหวะเสียประตูแรกก็แก้ตัวแอสซิสต์สุดเพอร์เฟกต์ให้ โอบาเมย็อง หลุดไปยิงประตู

นิโกล่าส์ เปเป้ เลี้ยงติดบ้าง ผ่านบ้าง ดูแล้วมะริ่งกิ่งก่องสะระน๊องก่องแก่งบอกไม่ถูก แต่ก็ยังหาจังหวะเปิดเข้าหัว โอบาเมย็อง โหม่งประตูชัย

โอบาเมย็อง มี 2 ประตูในนัดนี้

ทุกจังหวะ ทุกโอกาสจะไม่เกิดขึ้นหากไม่ผ่านการฝึกซ้อมเคี่ยวกรำร่วมกันอย่างหนักระหว่าง อาร์เตต้า และนักเตะทุกคนจนทำให้ อาร์เซน่อล กลับมาเล่นได้อย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง 

การต่อบอลรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น บอลขึ้นหน้ามากกว่าเดิม การขยับหาพื้นที่ว่างรอรับบอลก็ดูแล้วเต็มสนาม ไม่เหลือพื้นที่ว่างโหรงเหรง ทุกคนช่วยกันวิ่งช่วยกันไล่ ไม่ยึดติดว่าเป็นหน้าที่หลักของตัวเองหรือไม่

ชัยชนะเหนือ เอฟเวอร์ตัน 3-2 อาจทำให้แฟนบอลนั่งลุ้นตัวเกร็งมากกว่า 2 นัดก่อนหน้า แต่ อาร์เตต้า ก็มองภาพรวมจากนัดนี้ว่า "ทีมตอบสนองได้ดีมากๆ นี่คือการตอบสนองที่ผมอยากเห็นเมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่ผิดหวัง"

"นี่คือส่วนหนึ่งของเกม มันมีสิ่งที่เราไม่สามารถคอนโทรลได้ สักวันสิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการต้องเล่นเพียง 10 คน หรืออีกวันก็อาจเป็นเรื่องผู้ตัดสิน..." 

"แต่เราต้องลุยต่อ พยายามต่อไป เราเริ่มทำในสิ่งที่ได้คุยกัน และสร้างโอกาสรวมถึงรูปเกมให้เป็นแบบที่เราต้องการ"

อาร์เตต้า ทำให้ผู้เล่นหลายคนนึกถึงความเป็น "ทีม" มากขึ้น นั่นทำให้พร้อมจะเล่นเพื่อทีม ลุยทุกจังหวะ สู้ทุกชอต ผู้เล่นเกมรุกลงมาช่วยเกมรับ ผู้เล่นเกมรับพร้อมดันเกมรุก ทุกคนต่างช่วยกัน

อย่าลืมว่าเจอเอฟเวอร์ตันชั่วโมงนี้ไม่เคยเป็นเกมที่ง่ายอยู่แล้ว รูปแบบการเล่นและความมั่นใจของนักเตะต่างจากเดิมมากหลังได้ "อันเช่" มาคุมทีม 

แต่ อาร์เซน่อล ผ่านได้แม้ช่วง 20-25 จะออกอาการจนเกือบโดนตีเสมอก็ตามที ทอฟฟี่ ทำได้ดี แต่ปืนใหญ่ก็มีดีเหมือนกันและคู่ควรกับ 3 คะแนนสำคัญ 

จริงอยู่ว่าอาจจะยังไม่สามารถสลัด "คราบ" ที่ย่ำแย่มาหลายปีออกไปได้หมดจด แต่ทำได้ขนาดนี้ก็ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมแล้ว เช่นเดียวกับเป้าหมายลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไม่เกินเอื้อม