อนาคต'โอบา'
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีมกำลังถูกโฟกัสถึงเรื่องอนาคตมากยิ่งขึ้นด้วยการที่เหลือสัญญาในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพียงปีเศษเท่านั้น
โอบาเมย็อง คือหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญ หรืออาจจะเรียกได้ว่าสำคัญที่สุดของสโมสรในตอนนี้ก็ว่าได้หากวัดจากผลงานที่แสดงให้เห็นนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในต้นปี 2018
ผลงานของ โอบาเมย็อง ในช่วง 2 ปีเศษกับทีม "จับต้อง" ได้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถิติ 61 ประตูจาก 96 นัดในทุกรายการ มากกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมถึงตำแหน่งดาวซัลโวร่วมของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ที่นำร่วมบนชาร์จอีกครั้งแม้มีช่วงที่ถูกแบนไปถึง 3 นัดก็ตาม
ตำแหน่งกัปตันทีมที่ได้รับมอบหมายเป็นการย้ำให้เห็นอีกครั้งว่า โอบาเมย็อง คือหัวใจสำคัญที่ผลการแข่งขันของทีมต่างกันอย่างมากระหว่าง "มี" กับ "ไม่มี" เขาอยู่ในสนาม
ทว่าด้วยสัญญาฉบับปัจจุบันที่เวลาถึงเพียงซัมเมอร์หน้า และไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในการที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไป อนาคตของ โอบาเมย็อง จึงถูกจับตามองอย่างมากว่าจะเป็นอย่างไรในช่วงซัมเมอร์นี้
ดาวยิงวัย 30 ปี ต้องการดูปลายทางสุดท้ายในฤดูกาลนี้ว่า อาร์เซน่อล จะสามารถคว้าตั๋วกลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ได้หรือไม่
การได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็คือสุดยอดปรารถนาของนักฟุตบอลเกือบทุกคนเพราะคือการแข่งขันระดับสูงสุดของสโมสรทั่วยุโรป เป็นแหล่งรวมสุดยอดแข้งที่พร้อมแสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่เพื่อพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้
โอบาเมย็อง ยังไม่เคยเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ อาร์เซน่อล เพราะย้ายมาในช่วงที่ทีมป้วนเปี้ยนอยู่แค่เพียงยูโรปา ลีก
ในวันที่ อาร์เซน่อล พ่าย โอลิมเปียกอส คาบ้าน 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบ 32 สุดท้ายยูโรปา ลีก โดยที่ โอบาเมย็อง พลาดโอกาสสำคัญในวินาทีสุดท้ายและทรุดตัวนอนแผ่หราด้วยความเสียใจและสิ้นหวัง สะท้อนได้อย่างดีว่าเขาต้องการพาทีมกลับไปเล่นในถ้วยใหญ่แชมเปี้ยนส์ ลีก มากเพียงใด
ดังนั้น หากจบฤดูกาลนี้ที่ อาร์เซน่อล ยังวืดตั๋วกลับไปแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกปีซึ่งเหลือโอกาสเดียวคือต้องติดท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีก (ในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ อุทธรณ์ผ่าน และโควตาไม่ได้หล่นมาถึงอันดับ 5) โอกาสที่ โอบาเมย็อง จะไม่ต่อสัญญาก็มีสูงมาก
ยิงได้ทุกรูปแบบ
ในช่วงซัมเมอร์ โอบาเมย็อง จะอายุครบ 31 ปี (เกิด 18 มิถุนายน 1989) และเหลือสัญญาเพียงปีเดียว เงื่อนไงตรงนี้จะ "บีบ" ให้ อาร์เซน่อล ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกปล่อยหัวหอกตัวเก่งออกจากทีม หรือให้อยู่ค้าแข้งจนครบสัญญาแล้วย้ายแบบไร้ค่าตัว
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือปืนโต้กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของ โอบาเมย็อง ว่าต้องการเคลียร์ให้จบก่อนจบฤดูกาล
"เราจำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนจบฤดูกาล เราจะประเมินความมุ่งมั่นตั้งใจที่เรามี ความมุ่งมั่นตั้งใจของเขา จุดที่เราอยู่ในตอนนั้น มันยากที่จะคาดการณ์ได้ในตอนนี้ แต่สำหรับส่วนตัวผม มันง่ายมากๆ เลย ผมต้องการให้เขาอยู่ต่อไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม"
ในมุมของ อาร์เตต้า เขาไม่ต้องการให้เรื่องสัญญานักเตะคาราคาซังยาวไปถึงฤดูกาลสุดท้ายของสัญญาเพราะจะเป็นผลดีต่อสโมสรที่เสียอำนาจในการต่อรองหลายอย่าง
ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล บริหารจัดการสัญญานักเตะได้น่าผิดหวังและต้องเสียตัวหลักออกจากทีมโดยที่ได้ค่าตัวน้อยนิด หรือไม่ได้อะไรติดมือเลย
เธียร์รี่ อองรี, แอชลี่ย์ โคล, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อเล็กซิส ซานเชซ และรายล่าสุด อารอน แรมซี่ย์ ที่ควรต้องมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ ไม่ใช่หมดสัญญาแยกทางกันเป็นฟรีเอเยนต์
อาร์เซน่อล ทำตัวเองให้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกับการปล่อยให้สัญญานักเตะเหลือปีสุดท้าย หลายต่อหลายคนจึงไม่มั่นใจท่าทีสโมสรและตัดสินใจเลือกที่จะไปหาอนาคตที่อื่น
เช่นเดียวกับผลงานของทีมที่ตกต่ำในหลายปีหลังก็ไม่ได้เป็นแรงดึงดูดให้นักเตะอยากฝากอนาคตไว้กับทีม การย้ายไปร่วมทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า (รวมถึงค่าเหนื่อยมากกว่า) คือวิถีของนักฟุตบอลอาชีพที่ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กำลังจะเป็นรายต่อไปหาก อาร์เซน่อล ไม่สามารถจัดการเรื่องสัญญาใหม่
ประเมินจากตรงนี้ ยังมองไม่เห็นจุดที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้ และโฟกัสหลักก็ยังเป็นการพยายามทำภารกิจที่เหลืออยู่ให้สำเร็จเสียก่อน
โอบาเมย็อง ต้องการดูว่าทีมจะได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือไม่ซึ่งแน่นอนว่าอาจต้องลุ้นจนถึงจบฤดูกาล ขณะที่ อาร์เตต้า ต้องการให้เรียบร้อยก่อนจบฤดูกาล
ความเป็นไปได้ที่สถานกาณ์จะลากยากถึงจบฤดูกาลมีสูงมากซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็ต้องดูว่า อาร์เซน่อล จะได้ตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก จริงๆ หรือไม่
หากเป็นกรณีเลวร้ายอกหักเป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกัน โอบาเมย็อง คงไม่ต่อสัญญาออกไปแน่นอน
ด้วยฝีเท้าและฟอร์มในตอนนี้ โอบาเมย็อง จึงหวังจะเก็บเกี่ยวความสำเร็จในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งเป็นการทิ้งทวนซึ่งหากรักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ ก็น่าจะเล่นได้ 2-3 ปีด้วยคุณภาพที่ไม่ได้ดร็อปลงไปมากเพราะเป็นนักเตะที่ดูแลร่างกายดีอยู่แล้วและแทบไม่ได้ปัญหาบาดเจ็บรบกวน
ผิดหวังสุดขีดกับการตกรอบยูโรปา ลีก
บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่จากสเปนเป็นทีมที่ให้ความสนใจ โอบาเมย็อง มานานมากเพราะมองว่านี่คือตัวแทนที่เหมาะสมในการล่าตาข่ายต่อจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่บาดเจ็บบ่อยครั้งในช่วงหลังและอายุเริ่มโรย
เอริก อบิดัล ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์ซ่ายอมรับเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าดาวยิงอาร์เซน่อล คือหนึ่งในแข้งเป้าหมายที่ต้องการดึงตัวมาเสริมทัพ
"แน่นอนอยู่แล้วว่า จะต้องมีผู้เล่นเบอร์ 9 ย้ายเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ เรารู้ดีว่า ซัวเรซ จะกลับมาอย่างแข็งแกร่ง แต่คุณต้องดึงนักเตะระดับท็อปเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ด้วย"
"เราไม่รู้ว่าจะเป็นนักเตะที่ยังหนุ่มหรือมีประสบการณ์ เรามองแค่เรื่องความสามารถเท่านั้น เพราะเราต้องคิดด้วยว่า นักเตะระดับท็อปบางคนย้ายเข้ามาและปรับตัวได้ไม่ดี”
"สำหรับ โอบาเมย็อง ผมรู้จักเป็นอย่างดี เขามีโปรไฟล์ดี่เยียม เป็นนักเตะสำคัญในทีมของเขา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องดีที่จะดึงนักเตะแบบนี้เข้ามาร่วมทีม และสามารถช่วยทีมคุณได้ เดี๋ยวเราจะได้เห็นกันว่าเกิดอะไรขึ้น"
นั่นคือการส่งสัญญาณเตือนแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อมของ บาร์เซโลน่า ที่พร้อมดูดแข้ง อาร์เซน่อล ไปร่วมทีมเหมือนเช่นในอดีตที่เคยทยอยขึ้นยานไม่ว่าจะเป็น มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, เอ็มมานูเอล เปอตีต์, เธียร์รี่ อองรี, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, โธมัส แฟร์มาเล่น ฯลฯ
โอบาเมย็อง มีโอกาสย้ายทีมสูงมากหากไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปเพราะ อาร์เตต้า ก็อาจตัดใจและมองหาความหวังใหม่เข้ามาเป็นอนาคตระยะยาว ไม่ใช่ร่วมงานกันอีกเพียงฤดูกาลเดียวก็แยกทาง
แต่ก่อนที่ แฟนบอลปืนใหญ่จะกังวลว่า โอบาเมย็อง ยอมฝากอนาคตกับทีมด้วยการต่อสัญญาหรือไม่ สิ่งที่ต้องคิดหนักมากกว่าคือ ทีมจะสามารถคว้าตั๋วกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จหรือไม่
ถ้าไม่ได้ก็นับถอยหลังช่วงเวลาของ โอบาเมย็อง รวมถึงอีกหลายต่อหลายคนในทีมได้เลย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT