ตัวละครลับ "คัลล์สตรอม"

คิม คัลล์สตรอม ย้ายจาก สปาร์ตัค มอสโก มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมตัวในตลาดหน้าหนาวของปี 2014 ทว่าต้องรอถึง 54 วันกว่าจะได้ประเดิมสนามเพราะดันมีอาการบาดเจ็บที่หลังติดตัวมาด้วย

อาร์เซน่อล ตอนนั้นมีปัญหาผู้เล่นแดนกลางบาดเจ็บและติดโทษแบน ทำให้ต้องเสริมทัพแก้ปัญหาระยะสั้นก่อนลงเอยด้วยอดีตกองกลางทีมชาติสวีเดน 

คัลล์สครอม เล่าถึงการพูดคุยกับเอเยนต์ที่แจ้งเรื่องให้ทราบว่ามีทีมพรีเมียร์ลีกสนใจ ขณะที่ตัวเองอยู่บนรถบัสของทีมที่กำลังมุ่งหน้าไปสนามซ้อมในช่วงปรีซีซั่นที่ อาบูดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

เอเยนต์ : "นายอยากไปเล่นพรีเมียร์ลีกด้วยสัญญายืมตัวมั้ย?"

คัลล์สตรอม : "ไม่, ก็ไม่เชิง คือมันก็น่าสนุกนะที่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ผมไม่สนใจย้ายไปแบบยืมตัว"

เอเยนต์ : "นายแน่ใจนะ?"

คัลล์สตรอม : "แน่อยู่แล้ว ผมจะอยู่ที่นี่จนถึงช่วงซัมเมอร์ จากนั้นเดี๋ยวมาดูกันว่าเอาไง"

อีก 10 นาทีถัดมา

เอเยนต์ : "คิม นายแน่ใจนะว่าไม่ต้องการไป พวกเขาต้องการเซ็นสัญญายืมตัวกับนายจริงๆ นะ"

คัลล์สตรอม : "ไม่อ่ะ บอกพวกเขาด้วยผมไม่อยากไป ผมต้องการอยู่ที่นี่"

จากนั้นอีก 1 ชั่วโมง เอเยนต์ โทรหาอีกครั้ง ขณะที่ คัลล์สตรอม ก็เริ่มจะรำคาญ!

เอเยนต์ : "แน่ใจนะไม่ต้องการไป?"

คัลล์สตรอม : "ได้โปรดอย่าโทรมาอีก ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น"

เอเยนต์ : "อาร์เซน่อลนะ"

คัลล์สตรอม : "โอเค งั้นผมไป!"

คัลล์สตรอม ตัดสินใจรับข้อเสนอพร้อมเผยว่า "ผมเปลี่ยนใจ จากนั้นก็โทรหาภรรยา บอกเธอไปว่าเราจะไปอยู่ในอังกฤษสักราว 2 เดือน สำหรับเรา มันถือว่าเป็นประสบการณ์นะ เรารู้ว่าเราไม่ได้อยู่ถาวร ดังนั้นเราจะทำให้ 2 เดือนนี้เป็น 2 เดือนที่ดีที่สุดและสนุกกับชีวิตที่ลอนดอนและที่สโมสร" 

"ผมต้องขึ้นเครื่องตอนเที่ยงคืน ไม่ได้ร่ำล่าเพื่อนร่วมทีมด้วยซ้ำเพราะพวกเขากำลังนอนหลับกันอยู่ มันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วมากๆ เช่นเดียวกับการที่ผมผ่านการตรวจร่างกาย!"

คัลล์สตรอม มาพร้อมอาการบาดเจ็บที่หลังและรอเกือบ 2 เดือนก่อนได้ลงเล่นนัดแรกในเกมพรีเมียร์ลีกพบ สวอนซี วันที่ 25 มีนาคม ที่ลงเป็นสำรองในนาที 79 

แฟนบอลหลายคนต่างไม่เข้าใจว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องดึงตัวนักเตะที่ร่างกายมีปัญหามาร่วมทีมทำไมเพราะในทีมก็ขึ้นชื่อเรื่องอาการเดี้ยงมากพออยู่แล้ว

คัลล์สตรอม อธิบายถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองว่า "หลายคนมักบอกว่ารู้เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของผม แต่ผมจะเล่าความจริงให้ฟังนะ มันเป็นเรื่องน่าอายนิดๆ นะ ตอนนั้นผมกำลังฝึกซ้อมที่ชายหาด ก็เป็นการซ้อมทั่วไปของทีมในช่วงปรีซีซั่น ผมบอกไปว่าเป็นชายหาด แต่มันเหมือนถนนคอนกรีตมากกว่า เราแบ่งข้างกันซ้อมและผมก็พลาดล้มลงบนก้อนหินเล็กๆ"

"หินโดนแผ่นหลังจนผมรู้สึกเจ็บ เดิมทีผมต้องกลับไปมอสโกหลังจากวันนั้น ผมจึงไม่ได้ตรวจอะไรเพิ่ม (ที่อาบูดาบี) และอาการเจ็บก็ไม่ได้มากนัก"

"เราแจ้ง อาร์เซน่อล ไปในทันทีว่าผมมีปัญหาที่หลัง และก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเพียงแค่บอกว่าให้เดินทางไปก่อน" 

"มันเป็นช่วงนาทีท้ายๆ ของตลาดซื้อขาย ดังนั้นมันเลยเป็นดีลที่พวกเขาเซ็นสัญญากับผมด้วยความโชคร้าย หรือไม่ก็พวกเขาหาใครไมได้อีกแล้วเพราะเหลือเวลาไม่มาก พวกเขาก็เลยต้องคว้าผมไว้ก่อน ทว่าในตอนจบทุกอย่างก็ออกมาโอเค"

คิม คัลล์สตรอม มีช่วงดีสุดในอาชีพค้าแข้งตอนเล่นให้ โอลิมปิก ลียง ในช่วงที่ลียงยังได้ชื่อว่า "ลียงลงเป็นยิง" ผูกขาดความยิ่งใหญ่ในฝรั่งเศสถึงยุคเงินถุงเงินถึงของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

คัลล์สตรอม สร้างชื่อกับ แรนส์ ในลีก เอิง ก่อนย้ายไปเล่นให้ ลียง 6 ฤดูกาล ระหว่างปี 2006 ถึง 2012 พาทีมได้แชมป์ลีก เอิง 2 สมัย และแชมป์เฟร้นช์ คัพ 2 สมัย ก่อนย้ายร่วมทีม สปาร์ตัค มอสโก 

แม้การย้ายมาในฐานะนักเตะยืมตัวจะทำให้ความรู้สึกต่างจากการย้ายถาวรเพราะถูกมองว่าเป็นแค่อะไหล่ แต่พรีเมียร์ลีกและอาร์เซน่อลก็ไม่ใช่โลกใบใหม่สำหรับ คัลล์สตรอม ไปเสียทั้งหมด

"มีนักเตะฝรั่งเศหลายคนและแน่นอนรวมถึงเจ้านายด้วย หลายคนที่สโมสรพูดฝรั่งเศสได้ ผมพูดฝรั่งเศสได้เพราะเคยอยู่กับ ลียง ซึ่งก็ช่วยได้มาก ผมสร้างชื่อในฝรั่งเศส ดังนั้นจึงง่ายเลยที่พวกเขาจดจำผมได้"

"นอกจากนี้ก็มี นิคลาส เบนท์เนอร์ อยู่ด้วย ผมสามารถพูดสวีดิชและเดนิชกับเขาได้ เหล่านี้ช่วยให้ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วมาก" 

"ผมอยู่รายล้อมนักเตะอย่าง ซานติ กาซอร์ล่า, เมซุต โอซิล พวกเขามีทักษะสุดยอด มันดีเลยที่ได้เห็นพวกเขาซ้อมทุกวัน พวกเขามืออาชีพ"

"ผมเคยเล่นเคียงข้าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มานานและเขาก็เป็นมืออาชีพตัวจริง แต่พอผมมาที่นี่และได้เห็นความเป็นมืออาชีพของ มิเกล อาร์เตต้า....ว้าว เขามุ่งมั่นในเกมมากและมีส่วนร่วมอย่างดี ผมได้เรียนรู้มากมายจากการเฝ้ามองเขา"

คัลล์สตรอม ลงสนามให้ อาร์เซน่อล ทั้งหมดเพียง 4 นัด เขาเผยความรู้สึกจริงๆ ว่า "ผมมองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาเหล่านั้นด้วยความรัก แต่เมื่อไตร่ตรองในตอนนี้ ผมไม่รู้สึกเลยว่าได้เป็นนักเตะ อาร์เซน่อล ผมจำได้ถึงการฉลองแชมป์เอฟเอ คัพ และก็รู้สึกว่าเหมือนเป็นคนนอกที่มองเข้าไปข้างใน ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่ก็ไม่ใช่จริงๆ"

ถ้าจะมีสักนัดที่แฟนบอลอาร์เซน่อลจดจำ คัลล์สตรอม ได้ก็ต้องเป็นเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกที่พบ "แชมป์เก่า" วีแกน ที่สนามเวมบลีย์  

อดีตแข้งลีงถูกส่งลงแทน อาร่อน แรมซี่ย์ ในช่วงต่อเวลานาที 113 ซึ่งใน 120 นาทีจบด้วยสกอร์ 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสินหาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 

"ผมคาดหวังที่จะได้อยู่ในทีมเพราะคนอื่นมีอาการบาดเจ็บ เมื่อคุณได้อยู่ในทีม อะไรก็เกิดขึ้นได้ จากนั้นเจ้านายก็ส่งผมลงในช่วงต่อเวลาพิเศษ" คัลล์สตรอม กล่าว 

"เจ้านายเดินมาผมและพูดเป็นภาษาฝรั่งเศส 'นายจะยิงจุดโทษมั้ย?' ผมตอบไปว่า 'เอาสิ่ ผมจะยิง' ก่อนเขาจะตอบกลับว่า 'โอเค งั้นนายยิงเป็นคนที่สอง"

"ในตอนนั้นผมไม่ได้เข้าใจถึงความสำคัญในเกมนี้มากนักเพราะ อาร์เซน่อล ก็เป็นทีมที่คว้าแชมป์ได้ตลอดอยู่แล้ว ผมรู้ถึงทีมชุดไร้พ่ายและยุคของ เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก ดังนั้นจึงจำไม่ได้นักว่าแชมป์ครั้งล่าสุดของทีมคือเมื่อไหร่ ความกดดันมันมากจริงๆ เห็นชัดได้ว่าโค้ชทุกคนต่างรู้สึก แต่ผมไม่รู้จริงๆ ในตอนนั้น"

"ผมเพียงอยู่ถูกที่ถูกเวลาเพราะผมคิดว่าการที่พวกเขา (วีแกน) พลาดไปในคนแรกและคนที่สอง ทำให้เป็นเรื่องง่ายในการยิงจุดโทษเพราะคู่แข่งพลาดไปแล้ว แต่สิ่งที่ผมจดจำได้เสมอคือตอนที่เดินจากกลางสนามเข้าไปยิง"

"มันแปลกนะ ผมคุยกับตัวเองว่า นี่มันโคตรเพี้ยน"

"คนมักถามผมว่าผมยิ้มทำไมตอนเดินไปยิงจุดโทษเพราะไม่มีใครยิ้มกันหรอกนะ แต่คุณต้องเข้าใจว่าผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นคนยิงจุดโทษให้ อาร์เซน่อล ในสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

"แต่ผมก็ทำ ยิงเข้าไป และเราชนะ"

คัลล์สตรอม ทำหน้าที่ของตัวเองได้สมบูรณ์แบบ เขาส่งบอลซุกก้นตาข่ายได้เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง มิเกล อาร์เตต้า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ซานติ กาซอร์ล่า

อาร์เซน่อล ชนะจุดโทษไป 4-2 ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศก่อนเอาเชือด ฮัลล์ ซิตี้ อย่างบีบหัวใจ 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้คว้าแชมป์แรกในรอบ 9 ปีได้สำเร็จ 

"จุดโทษลูกนั้นเปลี่ยนประสบการณ์ของผมไปอย่างมาก ผมมาที่นี่พร้อมอาการบาดเจ็บและไม่ได้เล่นมากนัก แต่นั่นก็คือส่วนหนึ่งของเกม แต่เมื่อคุณยิงประตูจากจุดโทษ อย่างน้อยก็ได้มีส่วนร่วม มันเป็นแชมป์สำคัญสำหรับสโมสร มันยอดเยี่ยมเลยสำหรับผม" 

คิม คัลล์สตรอม สรุปช่วงเวลากับ อาร์เซน่อล เอาไว้สั้นๆ ว่า 

"ผมเดินลงไป ยิงจุดโทษ จากนั้นทีมได้แชมป์ แล้วผมก็เดินออกไปอีกครั้ง"

"ใครจะไปคิดล่ะ คนที่มาพร้อมอาการหลังหัก"