:::     :::

จากวันนั้นถึงวันนี้ของ "อาร์เตต้า" ตอน 2 (จบ)

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มิเกล อาร์เตต้า นับเป็นกุนซือหนุ่มที่ได้รับการจับตามองอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อรับงานคุมทีมเต็มตัวครั้งแรกในตำแหน่งกุนซือ อาร์เซน่อล ที่สุดท้าทาย

(ต่อเนื่องจากตอนที่ 1)

"เรนเจอร์ส เป็นสโมสรใหญ่ที่แข่งขันใน แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขามี โรนัลด์ เดอ บัวร์, เคลาดิโอ คานิกเกีย, เฟร์นานโด ริคเซ่น สโมสรเสนอเงินก้อนโตให้ผมและผมก็ตัดสินใจไป มันเป็นสะพานเชื่อมต่อที่ดีก่อนจะลุยพรีเมียร์ลีก"

"ครอบครัวและพี่สาวผมไปอยู่ด้วย นั่นเป็นประสบการณ์เหมือนฝันและสวยงามเลย พวกเราไม่มีใครพูดอังกฤษ แต่ตอนนี้เราพูดกันในสำเสียงกลาสโกว์ ส่วนผมก็ผสมสเก๊าซ์ไปด้วย เราได้ทริปเปิ้ลแชมป์ที่เป็นครั้งแรกในรอบ...ผมก็ไม่รู้ว่ากี่ปีนะ"

"เราไปที่โรงเรียนสอนภาษา พี่สาวผมเริ่มทำงานให้กับ บีบีซี เราช่วยกันเปิดศูนย์ภาษาและรู้จักเพื่อนใหม่ทั่วโลก เรามีคนโมร็อกโก, เลบานอส, กรีซ มาร่วมทานมื้อเย็นที่บ้านด้วย ผสมปนเปไปหมด เราอุทิศให้กับสิ่งนี้อย่างเต็มที่"


ช่วงหนึ่งแห่งความเรียนรู้กับ เรนเจอร์ส

"แนวคิดเรื่องฟุตบอลที่นั่นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าคุณจะไปไหน คุณจำเป็นต้องมองโลกตามจริงและรู้ว่าคุณไม่สามารถคาดหวังให้ทุกคนคิดเห็นเหมือนคุณได้ ผมอาจเป็นคนมองแง่ลบได้เลยกับสิ่งที่เจอ ความผิดเพี้ยนของสภาพอากาศ ลมแรง ความเหน็บหนาว ฝนตก รวมถึงการเล่นบอลยาวในสนามเล็กๆ แต่ผมมองสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นแบบทดสอบของชีวิต"

"สิ่งแรกคือทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการจากคุณอยู่เสมอ จากนั้นก็เรียนรู้นักเตะที่เล่นร่วมกับคุณให้ได้มากที่สุด หากคุณทำในสองสิ่งนี้ได้ ชีวิตนักฟุตบอลของคุณก็จะไม่ก้าวพลาดมากนัก"

อาร์เตต้า ผ่านการเล่นในดาร์บี้แมตช์สำคัญๆ มาหลายที่ไมว่าจะเป็นเล่นให้ เรนเจอร์ส พบ เซลติก, เล่นให้ เรอัล โซเซียดาด พบ แอธเลติก บิลเบา, เล่นให้ เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล และที่ อาร์เซน่อล พบ สเปอร์ส ...ดาร์บี้แมตช์ใดเดือดดาลที่สุด?

"กลาสโกว์!" อาร์เตต้า ตอบอย่างหนักแน่นแบบไม่ต้องคิด "เมื่อคุณพูดถึงบรรยากาศ เกมระหว่าง เรนเจอร์ส - เซลติก ทำเอาตะลึงงันได้เลย ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันเต็มไปด้วยพาสชั่น ความก้าวร้าว และประวัติศาสตร์ ในห้องแต่งตัวตึงเครียด บนอัฒจันทร์ก็ตะโกนและลุกขึ้นยืนอยู่ตลอดเวลา มันช่างตื่นตาตื่นใจ ผมจดจำครั้งแรกที่เล่นในดาร์บี้แมตช์นี้ได้อย่างดี"

อาร์เตต้า ถอนหายใจก่อนเล่าต่อ "มันเหมือนราวกับว่ากำลังอยู่ในเครื่องซักผ้าที่หมุนด้วยความเร็วหนึ่งพันไมล์ต่อชั่วโมง ผมเป็นนักเตะที่พยายามควบคุมเกม แต่ในเกมนั้น ผมทำไม่ได้เลย ทำอะไรไม่ได้ เกมมันไม่หยุดเลย จับบอลจังหวะแรกโดนเสียบ! จับอีกอีกจังหวะก็โดน! คือลุยใส่กันตลอด เดี๋ยวปะทะ เดี๋่ยวยิงประตู เดี๋ยวเตะมุม มันบ้ามากๆ"

ผ่านมา 18 ปีหลังมาถึงสกอตแลนด์ อาร์เตต้า ยังคงทำงานในสหราชอาณาจักร มีกลับไปสเปนเพียงปีเดียวตอนเล่นให้ทีมบ้านเกิด เรอัล โซเซียดาด ในฤดูกาล 2004/05 จากนั้น อาร์เตต้า เล่นให้ เอฟเวอร์ตัน 6 ฤดูกาล ต่อด้วย อาร์เซน่อล 5 ฤดูกาล แขวนสตั๊ดเป็นโค้ชที่ซิตี้ 3 ฤดูกาล ก่อนกลับมาคุม อาร์เซน่อล เมื่อปลายปี 2019

เส้นทางลูกหนังในอังกฤษของ อาร์เตต้า ประสบความสำเร็จอย่างมากจนเกือบทำให้เขาได้กลายเป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษ


ดวลกับ เชส สมัยเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน

ในปี 2010 อาร์เตต้า หมดหวังไปแล้วกับการลุ้นติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ และตอนนั้นได้รับการติดต่อจาก ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทัพสิงโตคำราม

ภายใต้กฎหมายของยุโรป อาร์เตต้า สามารถขอเป็นพลเมืองอังกฤษได้หลังอยู่ในประเทศครบ 5 ปี สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมชาติอังกฤษพยายามผลักดันเรื่องนี้ เขากล่าวว่า "ไม่มีอะไรดีกว่าไปได้เห็น มิเกล เป็นตัวเลือกสำหรับทีมชาติอังกฤษ คุณต้องการลงเล่นกับนักเตะที่เก่งๆ อยู่แล้ว"

"อันที่จริงผมรู้สึกว่าเป็นอังกฤษส่วนหนึ่ง แต่ก็ผมรู้สึกในความเป็นคนบาสก์อยู่ตลอดด้วยเช่นกัน ผมพร้อมนะตอน คาเปลโล่ ติดต่อเข้ามา" อาร์เตต้า กล่าว "มีการคุยกันอย่างจริงจัง แต่พอเรื่องไปถึงระดับกฎระเบียบทางการ มันมีความยุ่งยากเกิดขึ้น ผมรู้สึกว่าเป็นคนอังกฤษและเอาด้วย แต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นไปได้ไม่เพราะติดกฎของฟีฟ่า"

"ผมภูมิใจในวงการฟุตบอลอังกฤษ การแข่งขันยกระดับขึ้นอย่างมาก ตอนผมมาแรกๆ มันดูห่างไกลจากสิ่งที่นักนักกีฬาระดับท็อปในสเปนคาดหวัง มันเป็นแบบเดียวเลยคือเอาแต่โยนบอลและปะทะกันหนักๆ"

มุมมองในเกมลูกหนังของ มิเกล อาร์เต้า ถูกเปิดให้กว้างมากยิ่งขึ้นตอนย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในปี 2011 เขาได้ร่วมงานกับ อาร์แซน เวนเกอร์ หนึ่งในคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาอย่างมาก 


แลกเปลี่ยนมุมมองลูกหนังกับ เวนเกอร์  

ในช่วงนั้น อาร์เซน่อล อยู่ในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลง พวกเขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันกดดันหลังออกไปโดน แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่มยับเยิน 8-2 และทีมก็เสียแกนหลักอย่าง เชส ฟาเบรกาส กับ ซามีร์ นาสรี่ ออกไป 

มิเกล อาร์เตต้า คือหนึ่งในนักเตะที่ เวนเกอร์ ดึงมาแก้วิกฤตให้ทีมเช่นเดียวกับอีกหลายคนที่ย้ายเข้ามาในช่วง 2 วันสุดท้ายก่อนตลาดปิดไม่ว่าจะเป็น แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, ยอสซี่ เบนายูน, อันเดร ซานโต๊ส และ ปาร์ค ชู-ยอง หัวหอกเกาหลีใต้ 

กุนซือหนุ่มกล่าวถึงการย้ายร่วมทีม "ปืนใหญ่" เมื่อ 9 ปีก่อนว่า "ผมชื่นชมสโมสรแห่งนี้มาตลอดตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ผมชื่นชอบสไตล์การเล่นและสิ่งที่พวกเขาถ่ายทอดออกมา เมื่อ อาร์แซน เวนเกอร์ มอบโอกาสให้ผม มันก็เป็นไฮไลท์สำคัญของชีวิตผม จากนั้นเป็นต้นผม ผมก็รักสโมสรแห่งนี้ ผมมีความรู้สึกต่อสโมสรมากๆ"  

เป็นช่วงเวลา 5 ปีในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เตต้า ไม่เพียงเป็นแกนหลักของ อาร์เซน่อล แต่ยังทำหน้าที่กัปตันทีมด้วย เขาได้เรียนรู้อย่างมากมายและทำให้ความคิดในการเดินบนเส้นทางโค้ชหนักแน่นมากยิ่งขึ้น 

อาร์เตต้า เริ่มเก็บประสบการณ์ในตำแหน่งมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนฯ ซิตี้ โดยได้ร่วมงานเคียงข้างกับ ไบรอัน คิดด์ และ โดเมเนช ตอร์เรนท์ 


ได้แชมป์เอฟเอ คัพ กับทีม 2 สมัย

ผลงานของ อาร์เตต้า ในการทำหน้าที่เป็นมือขวาของ เป๊ป ทำให้กุนซือชาวสแปนิช พอใจากๆ และเคยยกย่องรุ่นน้องร่วมชาติเอาไว้ว่า  "มิเกล รู้จักทีมดีกว่าผมซะอีก เขาหยุดเล่นกับทีมเมื่อ 2 เดือนก่อน เขารู้ถึงสิ่งที่คาดหวังจาก (อาร์แซน) เวนเกอร์ และผมไม่สงสัยเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของเขา ดังนั้นผมบอกกับนักเตะ และบอกกับพวกเขาว่า -มิเกล จะคุมทีมในสัปดาห์นี้- ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะอึ้งไปบ้างในตอนแรก แต่ด้วยหลักเหตุและผลที่ทำแบบนี้เพราะ มิเกล มีประสบการณ์" กวาร์ดิโอล่า กล่าว

ตอนที่ เวนเกอร์ ก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2018 ชื่อของ อาร์เตต้า ถูกพูดถึงในฐานะแคนดิเดตอีกคน แต่ตอนนั้นบอร์ดบริหารยังไม่มั่นใจในประสบการณ์มากนักจึงได้เลือก อูไน เอเมรี่ มารับหน้าที่แทนตำนานกุนซือชาวฝรั่งเศส 

"ไม่เช้าก็เร็ว อาร์เตต้า จะต้องกลับมา อาร์เซน่อล" นี่คือสิ่งที่ เวนเกอร์ คิดเอาไว้เพราะเขาเห็นความเป็นผู้นำและบุคลิกในการเป็นโค้ชของ อาร์เตต้า ตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะแล้ว 

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ตำแหน่งกุนซือ อาร์เซน่อล ในวันนี้จะเป็น "มิเกล อาร์เตต้า"



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด