"เก็นดูซี่" ไปต่อหรือพอแค่นี้
กองกลางชาวฝรั่งเศส ถูกตัดออกจากทีมตลอด 5 นัดหลังสุดนับตั้งแต่ก่อเรื่องหลังเกมพรีเมียร์ลีกที่ อาร์เซน่อล เสียท่าพ่ายต่อ ไบรท์ตัน 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา
หลังจบเกมที่แพ้ 2 นัดติดในช่วงรีสตาร์ท เก็นดูซี่ ปรี่เข้าไปบีบคอ นีล โมเปย์ กองหน้า ไบรท์ตัน ที่ในระหว่างเกมทำให้ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมบาดเจ็บหนัก อีกทั้งยิงประตูชัยให้ทัพนกนางนวลแซงชนะท้ายเกม
เก็นดูซี่ รอดตัวไม่ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ลงโทษย้อนหลัง แต่แน่นอนว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซือปืนใหญ่ไม่ได้ปล่อยผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในมุมของแฟนบอลหลายคนอาจชื่นชอบในความใจสู้และพร้อมเผชิญหน้ากับคู่แข่งแบบไม่ยอมง่ายๆ เพราะในทีมที่ประสบความสำเร็จควรต้องมีนักเตะแบบนี้ นักเตะที่คอยเป็นปากเสียงและปกป้องเพื่อนร่วมทีมเมื่อเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน มีความเป็นนักสู้เต็มเปี่ยม
แต่อีกมุมก็มองว่าการกระทำแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อทีมมากกว่าเพราะจะกลายเป็นถูกยั่วยุได้ง่าย และหากไม่สามารถคอนโทรลตัวเองได้แบบนี้ สิ่งที่ทั้งทีมพยายามสร้างกันมาก็พังครืนได้ง่ายๆ เพราะนักเตะคนเดียว ซึ่ง อาร์เตต้า มองในมุมนี้มากกว่า
อาร์เตต้า จึงตัดสินใจตัดชื่อกองกลางวัย 21 ออกจากทีมทันทีในนัดต่อไปที่ อาร์เซน่อล บุกชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 เช่นเดียวกับอีก 4 นัดต่อมา ขณะที่ก่อนเกมนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ กับ สเปอร์ส ในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ อาร์เตต้า ก็ให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า "สถานการณ์ไม่เปลี่ยน" อันหมายถึง เก็นดูซี่ จะหลุดจากทีมเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน
ก่อเรื่องล่าสุดในเกมกับ ไบรท์ตัน
การตัดชื่อ เก็นดูซี่ ออกจากทีมเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า มิเกล อาร์เตต้า เอาจริงเอาจังมากเพียงใดกับเรื่องระเบียบวินัยและทัศนคติในการเล่น หากนักเตะคนใดไม่อยู่ในกรอบที่วางเอาไว้ก็ไม่ต้องมีส่วนร่วมใดๆ
นอกจากไม่ได้ลงสนามแล้ว อาร์เตต้า ยังสั่งให้แข้งสายเลือดน้ำหอมแยกซ้อมเดี่ยวกับโค้ชฟิตเนส ไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยน
มีรายงานว่าหลังวีรกรรมในเกมกับ ไบรท์ตัน ว่า อาร์เตต้า เรียก เก็นดูซี่ มาจับเข่าคุยโดยมี เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคร่วมวงด้วย แต่ท่าทีของอดีตแข้ง ลอริยองต์ ไม่ได้สลดหรือสำนึกผิดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เก็นดูซี่ ยังถูกแฉว่าวีรกรรมหลังเกมกับ ไบรท์ตัน ไม่ได้มีเพียงบีบคอคู่แข่ง แต่รวมถึงการพูดจาดูหมิ่นค่าเหนื่อยของแข้งนกนางนวลว่าน้อยนิดกว่าตัวเองอีกด้วย
อาร์เตต้า ไม่พอใจทัศนคติของ เก็นดูซี่ อย่างมาก และเมื่อรวมกับหลายเรื่องที่เป็นข่าวในเชิงไม่ดีก่อนหน้านี้ กุนซือชาวสเปนจึงดร็อปออกจากทีมอย่างไม่ใยดี ขณะที่สื่อในอังกฤษรายงานว่า อาร์เซน่อล พร้อมจะโละออกจากทีมในทุกเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นขายขาด หรือแลกเปลี่ยนกับนักเตะคนอื่น
ย้อนไปในช่วงเก็บตัวสั้นๆ รับไออุ่นที่ดูไบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เก็นดูซี่ ก็มีปากเสียงและพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับทั้ง อาร์เตต้า และสตาฟฟ์โค้ชในทีม จนทำให้ถูกดร็อปออกจากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ที่กลับมาเตะนัดแรกหลังเข้าแคมป์
อาร์เตต้า ให้เหตุผลในตอนนั้นว่า "ผมตัดสินใจเลือกทีมจากการซ้อม การเล่น และพฤติกรรมของพวกเขาซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละสัปดาห์ ผมต้องการนักเตะที่ดีที่สุดลงเล่นในแต่ละเกม และเลือกพวกเขาจากสิ่งที่ผมเห็น"
อาร์เตต้า เล่นไม้แข็งกับ เก็นดูซี่
นี่ยังรวมถึงท่าทีกระด้างกระเดื่องไม่ฟังคำแนะนำของนักเตะรุ่นพี่ในทีมทั้ง ดาวิด ลุยซ์ และ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส อีกด้วย
มีความเห็นของ แบร์กนาร์ก คาโซนี่ อดีตโค้ช ลอริยองต์ ที่ไม่ได้แปลกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ เก็นดูซี่ ในตอนนี้และเป็นมุมมองที่ทำให้หลายคนได้รู้จักตัวตนของแข้งหัวฟูมากยิ่งขึ้น
"ปัญหาของ เก็นดูซี่ ไม่ใช่ในเรื่องสภาพร่างกาย ไม่ใช่ในเรื่องของเทคนิคต่างๆ แต่เป็นทัศนคติของเขาซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับทีมและโค้ช"
"ผมเคยส่งเขาลงสนามในเกมบอลถ้วยที่พบกับ นีซ แต่เขากลับทำฟาวล์จนโดนใบเหลืองอย่างรวดเร็ว กรรมการต้องบอกให้ผมไปเตือนเขาว่าหากมีการฟาวล์อีกครั้ง เขาจะโดนใบแดงไล่ออก แต่ในครึ่งหลังก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเขาออกซึ่งตอนนั้นเขาปฏิเสธที่จะจับมือกับผม"
"การฝึกซ้อมของเขาไม่มีปัญหาเลย เขาจริงจังกับงานของเขามาก เขาเป็นคนที่อยากจะเอาชนะอยู่เสมอ บางทีสิ่งที่เขาพูดมันก็เป็นเรื่องดี แต่ในบางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องดี เขาพูดมากเกินไปในบางครั้ง พรสรรค์ของเขาไม่ใช่ปัญหาเลย"
"เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นชั้นนำและประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในต่างแดนได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเขาว่าจะยอมเปลี่ยนทัศนคติหรือเปล่า" คาโซนี่ กล่าว
เก็นดูซี่ เป็นนักเตะที่มีทักษะ ความสามารถ และบุคลิกที่สามารถก้าวเป็นนักเตะชั้นยอดในอนาคตได้ นอกจากนี้ก็มีสภาพร่างกายและความฟิตในระดับที่ดีมาก สามารถวิ่งพล่านได้ตลอดทั้งเกม
ใน 2 นัดแรกของฤดูกาลก่อนที่ อาร์เซน่อล เจองานหนักก่อนพ่ายทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ทว่า เก็นดูซี่ ได้รับคำชมอย่างมากและทำให้แฟนบอลต่างแปลกใจในฝีเท้าทั้งที่เพิ่งย้ายมาจากลีกรองฝรั่งเศสและอายุเพียง 19 ปีในตอนนั้น
แข้งจากแดนน้ำหอมลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลแรกมากถึง 48 นัดจากทุกรายการ มีเพียง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (51 นัด), อเล็กซ์ อิโวบี้ (51 นัด), ลูคัส ตอร์เรร่า (50 นัด) และ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ (49 นัด) ที่ลงเล่นมากกว่า
อนาคตกับ อาร์เซน่อล ไม่สดใส
แต่ปัญหาของ เก็นดูซี่ ก็อย่างที่อดีตโค้ช ลอริยองต์ ว่าเอาไว้และเป็นสิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า มองว่าไม่ถูกต้องในปัจจุบัน ยิ่งเป็นนักเตะอายุน้อยและอยู่ในช่วงแห่งการเรียนรู้แบบนี้ เรื่องทัศนคติในการซ้อมและการเล่นมีความสำคัญไม่แพ้ฝีเท้า
อาร์เตต้า ค่อนข้างผิดหวังกับปฏิกิริยาของ เก็นดูซี่ ที่ไม่สำนึกในการกระทำของตัวเองและไม่มีท่าทีว่าจะเปลี่ยนแปลงไปตามคำแนะนำของคนรอบข้าง
กุนซือวัย 38 ปีเน้นย้ำว่า "ผมต้องการนักเตะที่ให้ความเคารพต่อคุณค่าที่เราต้องการทำให้สำเร็จ นั่นคือความมุ่งมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ต่อวัฒนธรรมของเราและนักเตะที่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เราเรียกร้องจากพวกเขา"
"นักเตะที่พร้อมช่วยเหลือกัน สู้และสนุกไปด้วยกัน หากคุณทำได้แบบนี้ทุกวัน ที่นี่ก็ต้อนรับคุณอยู่เสมอ เราต้องการให้เค้นเอาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวออกออกมา และเราเองก็พร้อมให้ทุกคนให้สนุกในอาชีพไปกับเรา"
ในช่วงที่อยู่กับ ลอริยองต์ เก็นดูซี่ ก็เคยก่อเรื่องจากถูกตัดออกจากทีมชุดใหญ่นานมากกว่า 3 เดือนมาแล้ว ซึ่ง อาร์เซน่อล ก็พอรู้ประวัติดีก่อนดึงตัวมาร่วมทีม ทว่าด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดการให้อยู่ในกรอบได้ จึงกล้าเสี่ยงดึงร่วมทีมเพราะในเรื่องฝีเท้าไม่มีอะไรคาใจอยู่แล้ว
ประเมินจากตรงนี้ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า มัตเตโอ เก็นดูซี่ จะได้โอกาสอีกครั้งจาก มิเกล อาร์เตต้า เมื่อไหร่ และจากนี้ถึงจบฤดูกาล หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยน อาร์เซน่อล กับ เก็นดูซี่ ก็อาจจบกันเพียงแค่นี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT