:::     :::

ควันหลงปืนครองโล่การกุศล

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล รักษาความยอดเยี่ยมในการเล่นที่เวมบลีย์ได้อีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มาครองหลังดวลจุดโทษชนะ ลิเวอร์พูล 5-4 จากที่ในเวลาเสมอกัน 1-1

"ปืนใหญ่" ครองโล่การกุศลเป็นครั้งที่ 16 มากสุดอันดับ 2 ตลอดกาลเป็นรองเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ไป 21 สมัย และเป็นแชมป์รายการที่ 2 ของทีมในรอบ 28 วันต่อจากแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

ชัยชนะล่าสุดที่เหมือนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่มีควันหลงที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลายอย่างดังนี้


1. เวมบลีย์ คือบ้านหลังที่ 2 ของ อาร์เซน่อล 

คำกล่าวนี้ไม่เกินเลยไปมากนักเพราะผลงานการเล่นในสนามเวมบลีย์ของ อาร์เซน่อล ยอดเยี่ยมอย่างมากในช่วงหลังและอาจจะดีกว่าที่รังเหย้าเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของตัวเองด้วยซ้ำ

ทีม "ปืนใหญ่" สามารถเก็บชัยชนะที่เวมบลีย์ได้ถึง 12 จาก 13 นัดหลังสุดในทุกรายการไล่ตั้งแต่รอบตัดเชือกและรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 2014 ต่อด้วย คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปีเดียวกัน 

จากนั้นทำได้แบบเดียวกันในปี 2015 และปี 2017 คือเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกและรอบชิงชนะเลิศ ต่อด้วยคอมมิวนิตี้ ชิลด์   

ส่วนนัดเดียวที่สะดุดคือรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ปี 2018 ที่พ่ายต่อ แมนฯ ซิตี้ ก่อนล่าสุดในปีนี้ชนะรวด 3 นัดในเอฟเอ คัพ 2 นัดเหนือ แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี และชัยชนะล่าสุดในคอมมิวนิตี้ ชิลด์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

ผลงาน 13 นัดหลังสุดของ อาร์เซน่อล ที่เวมบลีย์  

• ตัดเชือกเอฟเอ คัพ 2014 - เสมอ วีแกน 1-1, ชนะโทษ 4-2 

• ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2014 - เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 2-2, ต่อเวลาชนะ 3-2

• คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2014 - ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-0 

• ตัดเชือกเอฟเอ คัพ 2015 - เสมอ เร้ดดิ้ง 1-1, ต่อเวลาชนะ 2-1 

• ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2015 - ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-0 

• คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2015 - ชนะ เชลซี 1-0 

• ตัดเชือกเอฟเอ คัพ 2017 - เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1, ต่อเวลาชนะ 2-1

• ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2017 - ชนะ เชลซี 2-1 

• คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2017 - เสมอ เชลซี 1-1, ชนะจุดดโทษ 4-1

ชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ 2018 - แมนฯ ซิตี้ 0-3 

• ตัดเชือกเอฟเอ คัพ 2020 - ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0

• ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2020 - ชนะ เชลซี 2-1

• คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2020 - เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1, ชนะจุดโทษ 5-4 


2. ปืนแม่นเป้าดวลจุดโทษ

อีกจุดที่ อาร์เซน่อล รักษาสถิติดีเยี่ยมเอาไว้ได้คือการดวลจุดโทษที่เพิ่มสถิติชนะ 8 จาก 10 ครั้งหลังสุดหลังเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้อีก 5-4

5 คนแรกของ อาร์เซน่อล สังหารลูกนิ่ง 12 หลาเข้าไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น รีสส์ เนลสัน, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์, เซดริก โซอาเรส, ดาวิด ลุยซ์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

ขณะที่ ลิเวอร์พูล พลาดไป 1 คนคือ ริอาน บรูว์สเตอร์ ดาวรุ่งฟอร์มแรงที่ในช่วงปรีซีซั่นยิงถึง 3 ประตูใน 2 เกม โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งเขาลงสนามนาทีสุดท้ายเพื่อหวังเป็นทีเด็ดในการดวลจุดโทษ ทว่าดันยิงชนคานอย่างจังจนกลายเป็นดราม่าเล็กๆ ของฝั่งกองเชียร์เดอะ ค็อป


3. มิเกล อาร์เตต้า เริ่มต้นได้เยี่ยม 

ผ่านมาถึงตรงนี้ มิเกล อาร์เตต้า ทำผลงานในการคุม อาร์เซน่อล ได้น่าประทับใจอย่างมากโดยเฉพาะการพาทีมเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์

อาร์เตต้า เริ่มงานกับ อาร์เซน่อล ที่เต็มไปด้วยปัญหามากมายทั้งฟอร์มการเล่น คุณภาพนักเตะ ความมั่นใจถดถอย ปัญหาส่วนตัวของหลายคน สปิริตในทีมแย่ต่อเนื่อง แต่กุนซือหนุ่มสามารถประคับประคองทีมให้กลับสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง

อาร์เซน่อล มีผลงานที่ดีขึ้นหลังยุคโควิด-19 จนเกือบได้ลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งที่ตอนแรกอยู่เพียงกลางตาราง แม้ท้ายที่สุดจะไม่ได้กระทั่งตั๋วยูโรปา ลีก แต่ก็หาทางไปร่วมแข่งขันถ้วยยุโรปจนได้ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ 

นอกจากรูปแบบการเล่นที่เป็นทรงชัดเจนมากขึ้นแล้ว สปิริตในทีมตอนนี้ก็ดีกว่าเดิมมาก มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทุกคนเล่นเพื่อทีมมากขึ้น และทำให้แฟนบอลเริ่มมกลับมามีความหวังอีกครั้ง


4. โอบาเมย็อง ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขาเป็นที่พึ่งให้ทีมได้เสมอหลังซัดประตูสุดสวยออกนำ ลิเวอร์พูล และยังเป็นคนยิงจุดโทษลูกตัดสินเกมส่ง อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ไปครอง

ประตูล่าสุดของ โอบาเมย็อง ทำให้เขากลายเป็นนักเตะ อาร์เซน่อล ที่ยิงประตูในสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม มากที่สุดเท่ากับ อเล็กซิส ซานเชซ ที่จำนวน 5 ประตู 

แต่ที่สุดยอดกว่าคือ 5 ประตูที่ เวมบลีย์ ของหัวหอกทีมชาติกาบองเกิดขึ้นใน 3 นัดหลังสุดและช่วงเวลาเพียง 42 วันเริ่มจากรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 และเหมาอีก 2 ประตูในรอบชิงชนะเลิศที่ชนะ เชลซี 2-1 

ก่อนหน้านี้ โอบาเมย็อง ม่ถูกกับการเจอ ลิเวอร์พูล มากนักเพราะยิงหรือแอสซิสต์ไม่ได้เลยตลอด 5 นัดหลังสุด รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 266 นาที แต่เกมนี้สามารถปลดล็อกยิงประตูแรกใส่ลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้สำเร็จ 

สิ่งที่แฟนบอล อาร์เซน่อล ต้องลุ้นต่อไปเกี่ยวกับ โอบาเมย็อง ไม่ใช่การยิงประตูหากแต่เป็นการต่อสัญญาฉบับใหม่ที่ มิเกล อาร์เตต้า เปิดเผยว่าใกล้แล้วที่จะฝากอนาคตกับทีมต่อไป

 

5. มาร์ติเนซ ทำให้ อาร์เตต้า ตัดสินใจลำบาก

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารมือสองของ อาร์เซน่อล ได้รับคำชมอีกครั้งหลังเซฟสำคัญพาทีมเอาชนะ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปีนี้ 

นาทวารวัยอาร์เจนไตน์อยู่กับ อาร์เซน่อล มา 10 ปีเต็ม แต่เพิ่งมีบทบาทจริงจังในท้ายฤดูกาลก่อนที่ได้โอกาสลงเล่นแทน แบรนด์ เลโน่ ที่บาดเจ็บก่อนทำผลงานยอดเยี่ยมทั้งในลีกและเอฟเอ คัพ จนทำให้หลายคนมองว่าฝีมือขนาดนี้หากต้องเป็นสำรองต่อไปก็น่าเสียดายอย่างยิ่ง 

ข่าวลือการย้ายทีมของ มาร์ติเนซ จึงเริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆ โดยมีทีมอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า กำลังให้ความสนใจ ขณะที่นายทวารวัย 27 ปีก็มีท่าทีชัดเจนว่าพร้อมเป็นมือหนึ่งของทีมทั้งที่ อาร์เซน่อล หรือทีมอื่นที่หยิบยื่นโอกาสให้


งานนี้คนที่ลำบากใจมากที่สุดคงเป็น มิเกล อาร์เตต้า ที่ต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะเลือกใครเป็นมือหนึ่งในฤดูกาลหน้าระหว่าง แบรนด์ เลโน่ กับ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ หรือเปิดทางให้ มาร์ติเนซ ได้ย้ายเพื่อโอกาสเติบใตในอาชีพแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่แฟนบอลปืนใหญ่หลายคนเสียดายอย่างยิ่งก็ตาม


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})