บทเรียนราคาแพงของ เปเป้
เปเป้ ได้ใบแดงไล่ออกหลังผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ ย้อนหลังพบว่าเขาเล่นนอกเกมใช้หัวโขกหน้า เอซยาน อลิออสกี้ ผู้เล่นยูงทองจนลงไปนอนกองกับพื้น
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าความรุนแรงของการโขกนั้น "หนัก" หรือ "เบา" หากแต่เป็นการแสดงออกที่เจตนาไม่ดี และ "เสียเหลี่ยม" ให้คู่แข่งที่ก่อนหน้านั้นมีการกระทบกระทั่งกันในหลายจังหวะ
อาร์เซน่อล ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 51 หรือเกือบตลอดครึ่งหลังในเกมที่เอลแลนด์ โร้ด จากรูปเกมในครึ่งแรกที่เป็นรองอยู่แล้ว ยิ่งทำให้สถานการณ์ลำบากมากกว่าเดิม
ลีดส์ เป็นฝ่ายครงบอลได้ 66 เปอร์เซ็นต์ หรือ 2 ใน 3 และเล่นได้ดีกว่าชัดเจน มีการทำเกมรุกโจมตีจากทุกทิศทางก่อนหาโอกาสยิงได้ถึง 25 ครั้ง ทว่าไม่สามารถส่งบอลตุงตาข่ายได้เพราะชนเสา/คานรวมถึง 3 ครั้ง และติดเซฟของ แบรนด์ เลโน่
อาร์เซน่อล ได้หนึ่งคะแนนกลับออกมาซึ่งด้วยสถานการณ์ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่า มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับหลังเกมว่าเป็นผลการแข่งขันที่โอเคแล้ว แม้ตามปกติแล้วไม่เคยตั้งเป้ากับผลเสมอ
ส่วนใบแดงที่ไร้ข้อโต้แย้งของลูกทีมนั้น อาร์เตต้า กล่าวชัดเจนว่า "เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ รับไม่ได้เลย เขาทำให้เพื่อนร่วมทีมผิดหวัง เราจำเป็นต้องเล่นตามสถานการณ์และมีโอกาสครั้งหรือสองครั้งที่จะชนะได้ แต่ก็แน่นอนว่าการที่ผู้เล่นน้อยกว่าทำให้เกมยากขึ้นจริงๆ"
"ผมไม่ชอบผลเสมออยู่แล้ว แต่จากการที่ เปเป้ โดนใบแดงตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง เราก็ควรจะยอมรับผลการแข่งขันนี้"
อาร์เตต้า ผิดหวังกับ เปเป้ อย่างมาก
คำกล่าวของ มิเกล อาร์เตต้า แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่พอใจอย่างมากกับอาการ "ใจร้อน" ของ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่เหลือต้องลำบากและเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่น ดังนั้นจึงต้องออกแรงยิ่งกว่าเดิมในการสู้กับผู้เล่นเจ้าถิ่นที่ฟิตกว่าและบุกอย่างหนักเพื่อเอาประตูชนะให้ได้
อาร์เตต้า ไม่มาเสียเวลาโบ้ยว่าเป็นการยั่วยุของผู้เล่นคู่แข่ง แต่เลือกตำหนิลูกทีมของตัวเองเพราะเขารู้ดีว่าหากมีสมาธิในเกมและนิ่งกว่านี้ ก็ไม่มีทางตบะแตกจนส่งผลเสียหายแน่นอน
ใบแดงโดยตรงทำให้ เปเป้ พลาดช่วยทีม 3 นัดในลีกที่ อาร์เซน่อล จะพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน) และ เบิร์นลี่ย์ (เหย้า) ซึ่งแน่นอนว่า 2 นัดถัดไปค่อนข้างหนักทีเดียว
หลังใบแดงชูขึ้นต่อหน้า เปเป้ โลกโซเชียลร้อนระอุขึ้นทันใด แฟนบอลปืนใหญ่ไม่พอใจกับพฤติกรรมของอดีตแข้ง ลีลล์ อย่างมาก ขณะที่บางคนก็มองว่า อลิออสกี้ เล่นละครตบตาเกินเหตุ
คำด่าทอสารพัดพุ่งโจมตีปีกไอวอรี่โคสต์อย่างหนัก เลยเถิดไปถึงการเหยียดผิวและขูฆ่าเอาชีวิตจนสโมสรต้องแถลงการณ์ตอบโต้หลังปฏิกิริยาของแฟนบอลล้ำเส้นเกินไป
"เราขอประณามอย่างถึงที่สุดต่อคำสบประมาทอันเลวทรามที่พุ่งตรงถึง นิโกล่าส์ เปเป้ และ เอซยาน อลิออสกี้ บนสังคมออนไลน์ หลังจบเกมที่เราพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด"
"เรื่องนี้รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เราจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่นๆ เพื่อทำทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้เพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด"
หลังจากนั้น เปเป้ ก็ได้เปิดใจผ่านโซเชียลว่า "เมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์) ผมทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องผิดหวังในช่วงเวลาสำคัญของการแข่งขัน และไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับพฤติกรรมของผม"
"ผมเสียใจอย่างยิ่งและอยากจะขอโทษต่อแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม และโค้ช รวมถึงคนอื่นๆ ในสโมสร"
เปเป้ ออกมาขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองทำ
หากวิเคราะห์ให้ดีจะพบว่าความเดือดดาลของแฟนบอลที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่อารมณ์ฉุนเฉียวกับการที่ เปเป้ ทำให้ทีมต้องลงเล่นเพียง 10 คน หากแต่รวมถึงความไม่พอใจในฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวด้วย
นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลีลล์ เมื่อซัมเมอร์ 2019 เปเป้ ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาช่วยทีมได้อย่างจริงจัง บางนัดเล่นดี แต่อีกหลายนัดก็หายเงียบ ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมส่วนใหญ่กลายเป็นจุดอ่อนของทีมอีกต่างหาก สวนทางกับค่าตัวมหาศาล 72 ล้านปอนด์อันเป็นสถิติสโมสรโดยสิ้นเชิงตัว
ในฤดูกาลนี้ โอกาสลงสนามของ เปเป้ มีน้อยลงกว่าเดิมหลัง อาร์เตต้า ดึงตัว วิลเลี่ยน ปีกจอมเก๋ามาร่วมทีม โดยเกมล่าสุดกับ ลีดส์ เป็นเพียงนัดที่สองในฤดูกาลนี้ที่แข้งไอวอรี่โคสต์ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีก
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เปเป้ เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากจะมีรอยยิ้มอีกครั้งเพราะช่วงที่ผ่านมา ไม่มีความสุขมากนักจากการที่ไม่ได้ลงเล่นเท่าที่ควร
แต่พอได้โอกาสลงสนาม เปเป้ ก็ทิ้งโอกาสด้วยมือตัวเอง นอกจากไม่สามารถช่วยทีมได้แล้ว ยังทำให้ทีมพบความลำบากมากกว่าเดิมอีก
การได้ใบแดงและเสียงวิจารณ์อย่างหนักสุดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมคือช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ เปเป้ อย่างแน่นอน เป็นสิ่งที่เขาต้องรับมือและก้าวผ่านให้ได้
หากไม่นับปฏิกิริยาของแฟนบอลบางคนที่เลยเถิดเกินเหตุแล้ว คำวิจารณ์ส่วนใหญ่ล้วนมาจากความต้องการที่อยากจะเห็นเจ้าตัวทำผลงานให้ดี สมกับที่หลายคนคาดหวัง
นิโกล่าส์ เปเป้ อาจไม่โดนหนักอย่างที่เกิดขึ้นหากเขาทำผลงานได้ดีกว่านี้ หรืออย่างน้อยทำให้เห็นว่ากำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่หรือทำท่าว่าจะถอยหลังยิ่งกว่าเดิม
ทุกอย่างจะถูกตัดสินกันที่ผลงานในสนาม และเหตุการณ์แบบใบแดงล่าสุดจะถูกมองว่าเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ สามารถให้อภัยได้ไม่ยาก แต่หากผลงานยังลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทุกอย่างจะออกมาตรงกันข้าม
ออสการ์ ไวลด์ นักเขียนและกวีคนสำคัญชาวไอริชเคยกล่าวว่า "Every saint has a past, and every sinner has a future" หรือ "นักบุญล้วนมีอดีต คนบาปล้วนมีอนาคต"
ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ที่ต้องดีกว่าเดิม วันนี้ของ เปเป้ มีความผิดพลาดเกิดขึ้น หากเขาสำนึกได้และเข้าใจอย่างที่กล่าวออกมาล่าสุด สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ใช้เวลาในช่วงต่อจากนี้ทำงานให้หนัก ฝึกซ้อมให้มากกว่าเดิม แก้ไขการเล่นที่ติดขัด และเตรียมตัวเองให้พร้อมเมื่อถึงเวลาที่ได้โอกาสอีกครั้ง
หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ล้วนเคยทำผิดพลาดมาในอดีต
นิโกล่าส์ เปเป้ จะมีวันพรุ่งนี้ที่สดใสกว่าเดิมได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองแล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT