เรื่องง่ายแต่ยากสุดของ อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล แพ้เป็นนัดที่ 6 ในลีกฤดูกาลนี้หลังออกไปโดน สเปอร์ส ทีมคู่ปรับร่วมเมืองเปิดรังทุบดิ้น 2-0 ในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ความปราชัยล่าสุดทำให้เห็นอีกครั้งว่า "ปืนใหญ่" ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่มีในเวลานี้ได้คือ "เกมรุก" ที่ไร้ประสิทธิภาพ ขาดความเด็ดขาด ซึ่งตรงกันข้ามกับ สเปอร์ส โดยสิ้นเชิง
สกอร์ 2-0 อาจไม่สะท้อนถึงรายละเอียดในเกมที่ มิเกล อาร์เตต้า พยายามกล่าวอ้างทั้งเรื่องของการครองบอล โอกาสลุ้นทำประตู และการพาบอลบุกเข้าใส่แดนคู่แข่ง แต่เป็นผลการแข่งขันที่สมเหตุผลสมที่สุดแล้ว
ฟุตบอลวัดกันที่ผลลัพธ์สุดท้าย ไม่ใช่เปอร์เซ็นต์การครองบอล
อาร์เซน่อล เสีย 2 ประตูในลักษณะเดียวกันคือกำลังครองบอลทำเกมรุกสุดกำลัง ผู้เล่นหลายคนดันสูง พอเสียบอลจึงลงไม่ทัน ไม่สามารถรับมือกับการโต้กลับของ สเปอร์ส ได้
ความต่างชัดเจนสุดที่ทำให้ สเปอร์ส เก็บชัยชนะเหนือ อาร์เซน่อล ได้แบบเด็ดขาดชนิดที่เรียกว่า มูรินโญ่ แอบยิ้มตั้งแต่เห็นรูปเกมครึ่งแรกคือ ความเข้าใจและการเล่นร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของผู้เล่นในเกมรุก
อาร์เซน่อล มีปัญหาอย่างหนักในการทำประตูเมื่อยิงได้เพียง 10 ลูก แถมประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ลูกล่าสุดต้องย้อนไปในวันที่ 4 ตุลาคม ที่ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 หรือนานเกินกว่า 2 เดือนเข้าให้แล้ว
หลังจากประตูของ นิโกล่าส์ เปเป้ ในเกมกับทีมบ๊วยของตาราง อาร์เซน่อล ยิงได้เพียง 2 ประตูจาก 7 นัดในลีกที่เป็นลูกตั้งเตะทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น จุดโทษของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ในเกมบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 และลูกเตะมุมที่ กาเบรียล มากัลเญส ได้โหม่งในวันแพ้ วูล์ฟส์ คาบ้าน 1-2
สถิติหลังเกมที่ปืนใหญ่ครองบอลมากกว่า
เมื่อจบเกมล่าสุดที่ยังคลำเป้าไม่เจออีก สถิติเกมรุกของ อาร์เซน่อล จึงเลวร้ายสุดๆ ยิงได้เพียง 10 ประตูจาก 11 นัด มีเพียง 3 ทีมท้ายตารางที่แย่กว่า
ในขณะที่ สเปอร์ส เหนือกว่าชัดเจนในเรื่องนี้เพราะลำพัง ซน ฮึง-มิน คนเดียว ก็ยิงได้ถึง 10 ประตู เกือบจะเท่า อาร์เซน่อล ทั้งทีม
คนที่ยิงได้มากสุดของฝั่งปืนใหญ่คือ อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ ที่ 3 ประตู และเป็น 3 ประตูที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 นัดแรกของฤดูกาล
ความเด็ดขาดและเข้าใจในการเล่นทำให้เกมรุกของทั้งสองทีมต่างกันอย่างมาก ขณะเดียวกัน สเปอร์ส ก็ยังทำได้ดีกว่าในเรื่องเกมรับ
10 ประตูของ ซน มาจากการจ่ายของ แฮร์รี่ เคน 8 ประตู และ 3 ประตูจาก 8 ของ เคน ก็มาจากการจ่ายของหัวหอกเกาหลีใต้
นับเฉพาะฤดูกาลนี้ คู่หู่นรกแตกของไก่เดือยทอง ประสานงานกันได้ประตูมากถึง 11 ประตู และมียอดรวมตลอดการเล่นร่วมกัน 31 ประตู ไล่ล่าสถิติของพรีเมียร์ลีกที่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เคยทำเอาไว้ 36 ประตู เข้าไปทุกขณะ
นี่คือสิ่งที่ สเปอร์ส มี และ อาร์เซน่อล ไม่มี ซึ่งมันกลายเป็นจุดชี้ขาดเกมอย่างแท้จริง
อาร์เซน่อล ครองบอลได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และเป็นการครองบอลบุกที่ มูรินโญ่ ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้วต่อให้เป็นเกมในบ้านของ สเปอร์ส ก็ตาม
มูรินโญ่ มั่นใจในเกมรับของตัวเองที่เสียประตูน้อยสุดในลีกและเก็บคลีนชีตได้ 4 นัดติดต่อกัน พวกเขาไม่มีปัญหาใดๆ กับการทำเกมรุกของ อาร์เซน่อล ที่มากด้วย "ปริมาณ" แต่ขาด "คุณภาพ"
คู่หูนรกแตกของไก่เล่นงานปืนใหญ่อีกครั้ง
กองหลัง สเปอร์ส สูงใหญ่และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี อีกทั้งมีตัวลงไปช่วยหลายคนโดยเฉพาะ แฮร์รี่ เคน ที่โหม่งเคลียร์บอลได้มากกว่ากองหน้า อาร์เซน่อล ลุ้นทำประตูด้วยซ้ำ
ขณะที่ ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก ก็ตอกย้ำอีกครั้งว่าเขาคือการเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาลนี้ของ สเปอร์ส หรืออาจพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำกับการตัดเกมแดนกลาง ขัดขวางการเล่นของ อาร์เซน่อล ให้เสียจังหวะหลายครั้ง
ปืนใหญ่ ครอสส์บอลจากด้านข้างมากถึง 44 ครั้งจนกลายเป็นสถิติมากสุดที่ทีมนึงจะทำได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทว่าเข้าเป้าได้โหม่งหรือยิงเพียง 9 ครั้ง และมีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่เข้ากรอบซึ่งก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของ อูโก้ โยริส แต่อย่างใด
นักเตะแนวรุก อาร์เซน่อล ไม่ได้เก่งกาจในเรื่องลูกโด่ง โอบาเมย็อง ที่สูงกว่า ลากาแซ็ตต์ ก็ไม่ได้มีความอันตรายใดๆ ในด้านนี้ เขาไม่สามารถกดดันแนวรับ สเปอร์ส ได้เลย
โอบาเมย็อง ควรมีพื้นที่ในการวิ่ง ไม่ใช่ปักหลักในเขตโทษรอลูกเปิด ขณะที่ ซาก้า ก็ทั้งเล็กและเบาเป็นปุยนุ่นในความพยายามที่จะเล่นลูกกลางอากาศ
อาร์เตต้า บ่นหลังเกมว่าทีมทำอย่างที่ทำแล้ว สถิติหลายอย่างทำได้เหนือกว่า ขาดเพียงการส่งบอลตุงตาข่าย
ทว่าสิ่งที่ มูรินโญ่ คิดในหัวไม่ต่างจากวันที่ สเปอร์ส ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 คือ แข้งเรือใบที่ครองบอล 2 ใน 3 ของเกม พร้อมโอกาสยิงที่ 22 ครั้ง หรือมากกว่า สเปอร์ส 18 ครั้ง
"พวกเขาเอาลูกบอลกลับบ้านได้เลย ส่วนผมจะเอา 3 คะแนน" (They can take the ball home, I bring home 3 points) มูรินโญ่ หล่นวาทะเอาไว้อีกครั้ง
ปืนใหญ่ครอสส์บอล 44 ครั้งแต่ไร้ประสิทธิภาพ
อาร์เตต้า เล่นเข้าทาง มูรินโญ่ ที่วางกับดักเอาไว้เป็นอย่างดีและเป็นสิ่งที่กุนซือโปรตุกีสเชี่ยวชาญอย่างมาก
นี่คือแท็กติกในแบบฉบับของ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างแท้จริง เรียกได้เป็น "Mourinho trademark" เลยกับการเล่นเกมรับเหนียวแน่น วินัยเข้มข้น สมาธิไม่หลุด และจังหวะโต้กลับเฉียบขาด หวังผลได้
มูรินโญ่ สร้างชื่อจากแท็กติกนี้ตั้งแต่สมัยคุย ปอร์โต้ ได้แชมป์ยุโรปทั้งถ้วยเล็กถ้วยใหญ่ก่อนสถาปนาความยิ่งใหญ่ในแบบตัวเองที่ เชลซี ด้วยการพาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาลแรกกับจุดแข็งในเกมรับเสียเพียง 15 ประตู เป็นสถิติน้อยสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก
เจาะลึกลงไปในภาพรวมตลอดฤดูกาล เกมรุก อาร์เซน่อล ไม่ได้แย่เเพียงแค่นัดนี้ ตัวเลข 10 ประตูที่ยิงได้คือความจริงชัดเจนจับต้องได้ แต่สาเหตุที่แท้จริงน่าห่วงไม่แพ้กัน
อาร์เซน่อล ยิงบอลตรงกรอบได้เพียง 32 ครั้งตลอด 11 นัดแรก รั้งอันดับ 18 ของพรีเมียร์ลีก และสร้างโอกาสได้เพียง 65 ครั้ง แย่กว่าทุกทีม
"65 ครั้ง" คือสถิติ "แย่สุด" ในพรีเมียร์ลีกตอนนี้
นี่ต่างหากคือ สถิติที่ มิเกล อาร์เตต้า ควรต้องใส่ใจ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT