สถิติปืนในยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
"ปืนใหญ่" รักษาสถิติเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูโรปา ลีก ตลอด 4 ครั้งที่เข้าร่วมรายการนี้ โดยทำได้ดีสุดคือตำแหน่งรองแชมป์ในปี 2019
จบรอบแบ่งกลุ่มไปแล้ว เราไปย้อนดูตัวเลขและสถิติน่าสนใจที่ผ่านมากันอีกรอบก่อนเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ที่เหมือน "ของจริง" มากยิ่งขึ้น
ทีมเดียวในถ้วยยุโรปที่ชนะรวด 6 นัด
แม้ผลงานในลีกจะน่าผิดหวังรั้งอันดับ 15 ของตาราง แต่ในยูโรปา ลีก อาร์เซน่อล เป็นทีมเดียวที่ชนะรวดตลอด 6 นัดที่ลงเล่น และเป็นทีมเดียวจากทั้งสองถ้วยยุโรปในฤดูกาลนี้
ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่เก็บชัยชนะได้ 6 นัดรวดของรอบแบ่งกลุ่ม นับตั้งแต่ลงเล่นถ้วยยุโรปทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรปา ลีก
เกมรุกยิงมากสุดอันดับ 2
ตลอด 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม อาร์เซน่อล ยิงได้รวม 20 ประตู มากสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เลเวอร์คูเซ่น ที่ยิงไป 21 ประตู
ขณะที่โอกาสลุ้นยิงประตู อาร์เซน่อล พยายามสับไกทั้งหมด 108 ครั้ง มากเป็นอันดับ 3 รองจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ (114) และ เรอัล โซเซียดาด (111) และเป็นอันดับ 3 เช่นกันในการยิงบอลตรงกรอบที่ 42 ครั้ง รองจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ (46) และ เลเวอร์คูเซ่น (43)
อาร์เตต้า พาทีมชนะรวด 6 นัดในยูโรปา ลีก
ใช้งานผู้เล่นทั้งหมด 27 คน
มิเกล อาร์เตต้า เลือกใช้งานผู้เล่นสำรองและดาวรุ่งเป็นหลักในยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แต่บางนัดก็มีตัวหลักลงสนาม ทำให้จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการใช้งานผู้เล่นมากถึง 27 ครั้ง
นิโกล่าส์ เปเป้, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ เซดริก โซอาเรส เป็น 3 ผู้เล่นที่ลงเล่นครบ 6 นัด รองลงมาคือ โจ วิลล็อค, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ดานี่ เซบายอส, ชโคดราน มุสตาฟี่ และ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ที่ลงเล่น 5 นัด
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, เอคเตอร์ เบเยริน, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลเญส และ โธมัส ปาร์เตย์ เป็นตัวหลักในลีกที่ได้ลงสนามในยูโรปา ลีก ปีนี้เช่นกันที่คนละ 1 นัด
ปาโบล มารี เซนเตอร์แบ็กสเปนที่เจ็บตั้งแต่ฤดูกาลก่อน หายเจ็บกลับมาลงเล่นใน 2 นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แถมยิงประตูได้ด้วย
เท่ากับว่ามีเพียง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กองหน้าบราซิเลียนรายเดียวที่ไม่ได้สัมผัสเกมยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาเพราะบาดเจ็บยาวตั้งแต่เดือนมิถุนายน
นิโกล่าส์ เปเป้ ยิง 3 แอสซิสต์ 3 ในยูโรปา ลีก
ดาวซัลโวร่วม 3 คน
จาก 20 ประตูที่ยิงได้มาจากผู้เล่น 10 คน โดยที่ นิโกล่าส์ เปเป้, โจ วิลล็อค และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยิงเท่ากันคนละ 3 ประตู
ขณะที่ โฟลาริน บาโลกุน หัวหอกดาวรุ่งที่หลายคนกำลังจับตามองทำผลงานน่าประทับใจด้วยการยิงไป 2 ประตูจากการลงเล่นเป็นสำรอง 4 นัด แถมมี 1 แอสซิสต์อีกต่างหาก
ที่เหลือผู้เป็นผลงานของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, ปาโบล มารี, ดาวิด ลุยซ์, รีสส์ เนลสัน, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่
ส่วนอันดับแอสซิสต์ นิโกล่าส์ เปเป้ กับ โจ วิลล็อค จ่ายให้เพื่อนยิงมากสุดเท่ากันที่ 3 ประตู ตามด้วย เอมิล สมิธ โรว์ อีกหนึ่งดาวรุ่งที่ทำไป 2 แอสซิสต์
โฟลาริน บาโลกุน แจ้งเกิดในรายการนี้
3 ดาวรุ่งประเดิมสนาม
ในนัดสุดท้ายที่บุกชนะ ดันดอล์ก 4-2 มิเกล อาร์เตต้า ให้โอกาสสองดาวรุ่งได้ประเดิมสนามชุดใหญ่คือ เบน ค็อตเทรลล์ และ มิเกล อาซีซ
ค็อตเทรลล์ วัย 19 ปีที่ถูกส่งลงเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย ได้ลงสนาม 13 นาที หลังมีชื่อเป็นสำรองครั้งแรกนัดบุกชนะ โมลด์ 3-0 ในนัดที่สี่
เบน ค็อตเทรลล์ กับ มิเกล อาซีซ ได้ประเดิมชุดใหญ่
ขณะที่ อาซีซ ที่อายุน้อยกว่า 1 ปี และอยู่กับ อาร์เซน่อล มาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ได้สัมผัสเกมในช่วง 7 นาทีสุดท้าย และเล่นได้นิ่งเกินวัยทีเดียว
ส่วนอีกดาวรุ่งที่ประเดิมสนามในฤดูกาลนี้เช่นกันคือ โฟลาริน บาโลกุน หัวหอกวัย 19 ปีที่ลงเป็นสำรองทั้งหมด 4 นัด อยู่ในสนามรวม 60 นาที ยิงได้ 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์
ลุ้นผลจับสลากจันทร์นี้
การจัดสลากรอบน็อกเอาต์ 32 ทีมสุดท้ายจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคมนี้ โดย อาร์เซน่อล ที่คว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ได้เป็นทีมวาง
ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย มี 8 ทีมที่หล่นจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาร่วมแข่งขันด้วยคือ แมนฯ ยูไนเต็ด, คลับ บรูช, ชัคตาร์ โดเนทส์ค, อาแจ็กซ์, คราสโนดาร์, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, ดินาโม เคียฟ และ โอลิมเปียกอส
อาร์เซน่อล จะไม่ได้เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด, คลับ บรูช และ ชัคตาร์ โดเนทส์ค ในรอบต่อไปแน่นอนเพราะเป็นทีมวางด้วยกัน แต่มีโอกาสเจอ คราสโนดาร์, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, ดินาโม เคียฟ และ โอลิมเปียกอส ที่ไม่ได้เป็นทีมวาง
นอกจากนี้ ทีมที่มีโอกาสได้เจอ อาร์เซน่อล คือ ยัง บอยส์, สลาเวีย ปราก, เบนฟิก้า, กรานด้า, เรอัล โซเซียดาด, บราก้า, ลีลล์, มัคคาบี้ ไฮฟา, รอยัล อันท์เวิร์ป, โวล์ฟสแบร์เกอร์ และ เซอร์เวน่า ซเวซด้า
32 ทีมที่เข้ารอบน็อกเอาต์
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT