นับถอยหลังอย่างเป็นทางการ
ในช่วงที่ผ่านมา โอซิล ไม่ได้อยู่ในแผนของ มิเกล อาร์เตต้า มานานหลายเดือน เขาไม่ถูกส่งลงสนามเลยแม้แต่วินาทีเดียวนับตั้งแต่ฟุตบอลกลับมาแข่งขันหลังยุคโควิดในเดือนมิถุนายน
นัดล่าสุดที่ โอซิล ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ต้องย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงก่อนหยุดเบรกหนีไวรัส
ในฤดูกาลนี้ อาร์เตต้า ไม่ใส่ชื่อ โอซิล เป็นหนึ่งใน 25 คนที่จะใช้งานทั้งในพรีเมียร์ลีก และ ยูโรปา ลีก ขณะที่ในคาราบาว คัพ ที่สามารถส่งลงสนามได้ อาร์เตต้า ก็ไม่เลือกใช้งานอดีตเพื่อนร่วมทีมคนนี้เหมือนเดิม
มิเกล อาร์เตต้า ยืนยันมาตลอดว่าเหตุผลที่ไม่เลือกใช้ โอซิล เป็นเรื่อง "ฟุตบอล" ล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง หรือประเด็นอื่นๆ ที่หลายคนวิเคราะห์และตั้งคำถาม
เหตุผลแท้จริงเป็นอย่างที่ อาร์เตต้า บอกในหลายครั้งหรือไม่ คงมีเพียงกุนซือหนุ่มชาวสเปนที่รู้ดี และในวันหนึ่งข้างหน้าอาจมีคำตอบที่แท้จริงให้กับทุกคนที่คาใจในตอนนี้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนคือ โอซิล กลายเป็นส่วนเกินที่ อาร์เซน่อล พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อ "โละ" ออกจากทีมให้ได้
แม้ไม่ได้ลงสนาม แต่ อาร์เซน่อล ก็จำเป็นต้องจ่ายค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ให้กับแข้งวัย 32 ปี ตามสัญญาที่มีต่อกันจนถึงซัมเมอร์ 2021 นี้
กลายเป็นเรื่องที่ทัพปืนใหญ่ต้องแบกรับภาระค่าเหนื่อยของ โอซิล ต่อไปอีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้ใช้งานนักเตะ แต่มันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นการตัดสินใจของ อาร์เตต้า ที่หากบอร์ดบริหารไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ ก็ต้องยอมรับในการทำทีมของโค้ช
ในช่วงที่ผ่านมา โอซิล ยังคงฝึกซ้อมกับทีมตามปกติแม้ไม่ได้ลงสนาม และเคยให้สัมภาษณ์ว่ามีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ดีและพร้อมเป็นตัวเลือก เพียงแต่ว่าไม่ถูกเลือก
ตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้จึงเป็นโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อนาคตของ โอซิล น่าจะได้ข้อสรุปที่มีความชัดเจนและสามารถหา "ทางออก" ที่ดีต่อทุกฝ่าย
ทำได้เพียงซ้อมแต่ไม่ได้ลงสนาม
ตามกฎการซื้อขาย โอซิล สามารถเจรจาล่วงหน้ากับว่าที่ต้นสังกัดใหม่ได้เพราะสัญญากำลังสิ้นสุดในช่วงซัมเมอร์ หากย้ายในเดือนนี้เลยก็จะเป็นการย้ายที่มีค่าตัวซึ่งอาจไม่มากนัก หรือหากล่วงเลยไปถึงช่วงซัมเมอร์ โอซิล ก็จะกลายเป็น "ฟรีเอเยนต์" ที่สามารถเซ็นสัญญากับทีมใดก็ได้แบบไม่มีค่าตัว
โอซิล มีข่าวกับหลายทีมทั้งในเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ ที่โยงกับ ดีซี ยูไนเต็ด รวมถึงตะวันออกกลาง และตุรกี ประเทศชาติกำเนิดของบรรพบุรุษ
ช่วงในช่วงหลังเป็นทาง เฟเนร์บาห์เช่ ที่มาแรงและมีท่าทีจริงจังอย่างมากในการไล่ล่าตัวอดีตแข้ง เรอัล มาดริด ไปร่วมทีม พร้อมมอบสัญญาให้ยาวถึง 3 ปีครึ่ง หรือจนถึงอายุ 35 ปี
การให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ เอโรล บูลูต กุนซือ เฟเนร์บาห์เช่ ชี้ชวนให้คิดตามอย่างยิ่งว่าการเจรจาน่าจะเริ่มต้นไปแล้วหลายวัน เหลือเพียงรายละเอียดที่ต้องตกลงกันให้ได้
"ทุกคนต่างต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของทีมในตลาดนักเตะรอบนี้ มีการพูดถึงชื่อของ เมซุต โอซิล อย่างมาก"
"ผมกำลังบอกว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ผมไม่จำเป็นต้องให้ความเห็นใดๆ ก่อนเขามาถึง" บูลูต กล่าว
สอดคล้องกับสื่อหลายสำนักที่รายงานตรงกันว่า ยักษ์ใหญ่ของตุรกี ใกล้ได้ตัว โอซิล ไปร่วมทีมแล้ว
รายละเอียดการย้ายทีม สัญญาต่างๆ รวมถึงเรื่องสำคัญสุดคือ "ค่าเหนื่อย" คือสิ่งที่ เฟเนร์บาห์เช่ กับ โอซิล ต้องตกลงกันให้ได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้เช่นกันว่า อาร์เซน่อล อาจช่วยเหลือค่าเหนื่อยส่วนนึง
อาร์เซน่อล พร้อมจ่ายในบางส่วนอยู่แล้วหากการย้ายครั้งนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะหากไม่มีการย้ายเกิดขึ้น โอซิล ก็ต้องรับจาก อาร์เซน่อล อีก 3.5 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ไปจนถึงช่วงซัมเมอร์
ในช่วงวิกฤตจากผลกระทบของโควิดแบบนี้ การจ่ายเงินค่าเหนื่อยก้อนโตให้ โอซิล กลายเป็นรายจ่ายที่ไม่ก่อประโยชน์ ซึ่ง อาร์เซน่อล พยายามลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ได้เพราะทีมกำลังมีปัญหาการเงินอย่างหนัก
เมื่่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สโมสรเพิ่ง่ยืนยันว่าได้กู้ยืมเงินจากธนาคารกลางอังกฤษจำนวนมากถึง 120 ล้านปอนด์ มา "หมุน" เพื่อให้เกิดสภาพคล่องหลังทีมขาดรายได้อย่างมากในช่วงที่ผ่านมาซึ่งไม่มีแฟนบอลเข้าสนาม และรายได้อื่นๆ ก็ลดตามไปด้วย เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกทีมต้องหาทางแก้และผ่านไปให้ได้
หาก อาร์เซน่อล ผ่องถ่าย โอซิล ออกจากทีมได้โดยที่รับผิดชอบค่าเหนื่อยบางส่วน ไม่ใช่จ่ายเต็มจำนวนและทุนอยู่กันต่อไปอีก 6 เดือน ทีมปืนใหญ่พร้อมผลักดันให้ดีลนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว
ใกล้ถึงวันที่ โอซิล อำลา อาร์เซน่อล แล้ว
มิเกล อาร์เตต้า เองก็ยืนยันว่าหากการย้ายทีมเกิดขึ้นในเดือนนี้ก็เพราะเป็นทางเลือกที่ดีต่อทุกฝ่ายทั้งสโมสรและตัว โอซิลเอง แต่หากไม่มีการย้ายเกิดขึ้น อาร์เตต้า ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะเรียก โอซิล กลับมาอยู่ในทีมที่สามารถส่งรายใหม่รอบใหม่ได้ทั้งพรีเมียร์ลีกและยูโรปา ลีก
ประเมินสถานการณ์ตรงนี้ เมซุต โอซิล จะย้ายออกจากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในเดือนนี้อย่างแน่นอน โดยมีปลายทางอยู่ที่ เฟเนร์บาห์เช่ ของตุรกี
จากที่อยู่กันแบบ "ไร้ตัวตน" มานานหลายเดือน ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่หนึ่งในแข้งขวัญใจแฟนบอลหลายคนจะกลายเป็น "อดีต" กับ อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการ
ปิดฉากช่วงเวลา 7 ปีครึ่งแบบเงียบๆ ต่างจากวันแรกที่ย้ายมาร่วมทีมด้วยบรรยากาศที่เรียกได้ว่าเป็น "ปรากฏการณ์" ครั้งหนึ่งของ อาร์เซน่อล ที่สามารถดึงนักเตะระดับท็อปของโลกมาร่วมทีมได้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT