ผลเสมอยุติธรรม
ทั้งสองทีมต่างมีสถิติที่ดีของตัวเองในการเชื่อว่าจะเก็บ 3 คะแนนได้ในนัดนี้ แต่ขณะเดียวกันก็มีบางอย่างที่ทำให้การแบ่งแต้มกันไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป
อาร์เซน่อล กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี พวกเขาติดเครื่องได้อีกครั้งนับตั้งแต่เอาชนะ เชลซี 3-1 ในวันบ็อกซิ่งเดย์ เก็บไปได้ทั้งหมด 16 คะแนนจาก 18 คะแนนเต็มจากการลงสนาม 6 นัดก่อนเกมนัดล่าสุด
ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เล่นนอกบ้านได้ดีสุดในฤดูกาลนี้ ชนะ 8 จาก 10 นัดและไม่แพ้ใครเลย ซึ่งอันที่จริงต้องย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วเลยที่ไร้พ่ายนอกรังต่อเนื่องกันมาเกือบหนึ่งปีเต็ม
นี่คือผลงานที่ทำให้ต่างฝ่างต่างมีความเชื่อว่า "ดีพอ" ที่จะเป็นรักษาโมเมนตัมด้วยการเอาชนะในนัดนี้
แต่ในรายละเอียดบางอย่างก็ไม่ได้เป็นไปในทิศทางบวกเสมอไป
อาร์เซน่อล มีเรื่องปวดหัวก่อนเกมเมื่อ 3 ตัวหลักทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, คีแรน เทียร์นีย์ และ บูคาโย่ ซาก้า พลาดลงสนามทั้งหมด
โอบาเมย็อง ติดธุระส่วนตัวกลับไปดูแลคุณแม่ที่ป่วยและต้องกักตัวหลังเดินทางกลับเข้าอังกฤษอีกรอบ ขณะที่ เทียร์นีย์ และ ซาก้า มีปัญหาบาดเจ็บ ไม่มีชื่อแม้กระทั่งสำรอง
เซดริก โซอาเรส จึงโยกมาเล่นแบ็กซ้ายจำเป็นอีกนัด ส่วนตำแหน่งของ ซาก้า มี นิโกล่าส์ เปเป้ ทำหน้าที่แทน ขณะที่การขาดหายไปของ โอบาเมย็อง ยังมี อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ทำหน้าที่หัวหอกตัวเป้า
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด มาเยือนแบบเต็มสูบมากกว่า เอดินสัน คาวานี่ ได้สลับลงแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เช่นเดียวกับแดนกลางส่ง 2 ตัวขยันทั้ง เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงเล่น และได้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ จับคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในเกมรับ
เลโน่ ช่วย อาร์เซน่อล กับชอตซูเปอร์เซฟเหลือเชื่อ
ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำได้ดีกว่าชัดเจนในครึ่งแรกโดยเฉพาะในช่วงต้นครึ่งแรกและปลายครึ่งแรก เป็นฝ่ายต่อบอลเข้าไปในพื้นที่เกมรับของ อาร์เซน่อล ได้ต่อเนื่องมากกว่า
แท็กติกของ โซลชา เน้นเจาะฝั่งขวาโดยใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด โจมตี เซดริก โซอาเรส ที่ไม่ใช่แบ็กซ้ายอาชีพ รวมถึง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ตัวรุกบราซิเลียนที่ถอยลงไปช่วย โซอาเรซ ด้วย
แต่ด้วยความที่ แรชฟอร์ด ไม่ถนัดมากนักกับการเล่นริมเส้นทำให้ไม่สามารถกดดัน โซอาเรส ได้เท่าที่ควร แถมหลายจังหวะแบ็กปืนโตยังสามารถพาบอลขึ้นมาทำเกมรุกได้ดีอีกต่างหาก
แมนฯ ยูไนเต็ด หาจังหวะเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ อาร์เซน่อล ได้หลายครั้งและเกือบลงเอยด้วการยิงประตู แต่เจ้าถิ่นก็มีตัวที่วิ่งมาเคลียร์ได้หวุดหวิดโดยเฉพาะ มาร์ติเนลลี่ ที่สปรินต์สุดแรงมาโหม่งบอลตัดหน้า แรชฟอร์ด
จังหวะนี้ ปอล ป็อกบา ที่ได้บอลฝั่งซ้ายดึงผู้เล่น อาร์เซน่อล ให้ขยับเข้าหา 4-5 คน แรชฟอร์ด จึงได้ยืนรอโล่งๆ ในเขตโทษฝั่งขวาและเกือบลงโทษความผิดพลาดในเกมรับเจ้าถิ่นอยู่แล้วหากไม่เพราะมี มาร์ติเนลลี่ โฉบตัดหน้าเสียก่อน
ส่วนโอกาสของ อาร์เซน่อล ในครึ่งแรกส่วนใหญ่จะเป็นการตัดบอลได้ในแดนตัวเองและพาบอลลุยขึ้นหน้าทันที แต่จังหวะยิงประตูเลือกเน้นยิงไกลเสียส่วนใหญ่ทำให้ขาดทั้งน้ำหนักและทิศทาง
ดาบิด เด เคอา มีจังหวะเซฟ 2 ครั้งในครึ่งแรกเท่ากับ แบรนด์ เลโน่ แต่ฝ่ายหลังออกแรงมากกว่าในจังหวะป้องกันลูกยิงหน้าเขตโทษของ เฟร็ด ที่ต้องปัดปลายมือออกหลังชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ปรับส่ง วิลเลี่ยน ลงแทน มาร์ติเนลลี่ ตั้งแต่รีสตาร์ท ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนโควตาคนแรกตั้งแต่นาที 37 ที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มีปัญหาตะคริวที่ท้อง โซลชา เลือกส่งตัวรุกอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงมาลุยและขยับให้ ปอล ป็อกบา มายืนคู่กับ เฟร็ด ในแดนกลาง
ทั้งสองทีมสู้กันสนุก ขาดเพียงประตู
อาร์เตต้า ปรับเกมใน 45 นาทีได้ดีขึ้น เป็นฝ่ายต่อบอลใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ต่อเนื่องมากกว่าครึ่งแรก และมีโอกาสยิงมากกว่าที่ 10 ต่อ 7 ครั้ง ทว่าเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวเท่ากัน
ความแม่นยำและความเฉียบขาดคือสิ่งที่ทั้งสองทีมต้องไปปรับปรุงแก้ไข โอกาสยิงรวมทั้งเกม 31 ครั้ง แต่ไม่มีประตูเกิดขึ้นแม้แต่ลูกเดียว
เอดินสัน คาวานี่ มีโอกาสทอง 2 ครั้งที่แปจ่อๆ หน้าเขตโทษ และได้เอี้ยวตัววอลเล่ย์ที่เสาแรก แต่หลุดกรอบไปทั้งหมด
ขณะที่ อาร์เซน่อล พลาดได้ประตูแบบน่าเสียดายทั้งฟรีคิกของ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ที่ชนคานอย่างจัง รวมถึงจังหวะโซโล่ชงเองกินเองของ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ซัดหลุดกรอบไปหมด
อาร์เซน่อล มีจังหวะที่น่าจะได้ แต่ทำไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ต่างกัน โอกาสของ คาวานี่ ควรต้องเป็นอย่างน้อยหนึ่งประตู
ท้ายที่สุดไม่มีประตูเกิดขึ้น แต่ก็เป็นผลเสมอ 0-0 ที่สู้กันสนุก มีจังหวะดีและแย่พอๆ กัน รูปเกมไม่น่าเบื่อเพราะแลกกันตลอด
ผลเสมอนัดนี้ถือว่าไม่เสียหายมากนักโดยเฉพาะ อาร์เซน่อล ที่แม้เล่นในบ้านแต่ไม่ชนะ แต่การที่ไม่มี 3 ตัวหลักลงสนามและแบ่งแต้มทีมที่เล่นนอกบ้านแกร่งสุดได้ก็ถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจ
อย่างน้อยทีมของ อาร์เตต้า ก็เก็บคลีนชีตอีกนัด และทำให้การลงสนาม 7 นัดหลังสุดในลีก โดนเจาะตาข่ายเพียง 2 ประตูเท่านั้น นี่คือจุดที่ดีของ อาร์เซน่อล เพราะก่อนหน้านี้มีปัญหาเกมรับอย่างมาก
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด การได้หนึ่งคะแนนในการมาเยือนทีมใหญ่ด้วยกันก็ไม่ได้เลวร้ายเพราะอย่าลืมว่านัดก่อนเพิ่งโดนกระตุกความมั่นใจหล่นฮวบจากความปราชัยต่อทีมบ๊วย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อย่างสุดช็อก
อีกทั้งในช่วงหลังที่นับตั้งแต่ อาร์แซน เวนเกอร์ วางมือ แมนฯ ไนเต็ด ไม่สามารถเอาชนะทีม อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีกได้เลย รวมแล้ว 6 นัดติดต่อกัน (แพ้ 3 เสมอ 3) ทั้งที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทีมปืนใหญ่อยู่ในช่วงจับต้นชนปลาย ขาดความต่อเนื่อง และเปลี่ยนกุนซือจาก อูไน เอเมรี่ มาเป็น มิเกล อาร์เตต้า
นิโกล่าส์ เปเป้ หาจังหวะยิงได้ดี แต่ขาดความคม
ที่อาจจะเสียหายมากหน่อยสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด คงเป็นอันดับในตารางคะแนนที่ตอนนี้โดน ลิเวอร์พูล จี้มาเหลือแต้มเดียวแล้วหลังทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ บุกอัด เวสต์แฮม ได้ในเกมเมื่อวันอาทิตย์
ผีแดงต้องรีบลับมีดเกมรุกให้กลับมาคุมอีกครั้งเพราะโอกาสลุ้นแชมป์ยังคงเปิดกว้าง แถมโปรแกรมสุดสัปดาห์นี้ (7 กุมภาพันธ์) ลิเวอร์พูล ต้องเปิดศึกกับจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ โอกาสที่จะตัดแต้มกันเองมีสูง
ขณะที่ อาร์เซน่อล โมเมนตัมตอนนี้ถือว่าดีมาก สิ่งที่ อาร์เตต้อง ต้องภาวนาคือให้ตัวหลักหลายๆ คนกลับมาช่วยทีมโดยเร็ว
เช่นเดียวกับตัวใหม่อย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ประเดิมสนามในฐานะสำรองไปแล้ว หากปรับตัวเข้ากับทีมและสไตล์การเล่นได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อ อาร์เซน่อล
เมื่อไหร่ที่ขุมกำลังของ อาร์เซน่อล กลับมาครบสมบูรณ์อีกครั้ง พวกเขาก็เดินหน้าลุยได้เต็มที่แบบไม่ต้องเหลียวมองกลับหลังอีกครั้ง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT