จับโอเดการ์ดลงตรงไหน?

นัดแรก เป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่ อาร์เซน่อล เปิดรังเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 กองกลางวัย 22 ปี ได้ลงสนามแทน เอมิล สมิธ โรว์ ในนาที 83 ซึ่งด้วยเวลาเพียงไม่ถึงสิบนาทีในสนามจึงยังไม่สามารถแสดงบทบาทใดๆ ออกมาได้มากนัก

ขณะที่นัดล่าสุดเป็นเกมลีกเช่นกันที่บุกไปพ่ายต่อ แอสตัน วิลล่า 0-1 โอเดการ์ด ได้มีเวลามากขึ้นในสนามที่ 25 นาที หลังถูกส่งแทน เซดริก โซอาเรส ในช่วงที่ทีมต้องการประตูตีเสมอ  

แม้ปืนใหญ่เป็นฝ่ายปราชัย แต่ช่วงเวลายี่สิบกว่านาทีของ โอเดการ์ด ก็ทำให้เราได้เห็นฝีเท้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงการประสานงานกับผู้เล่นเกมรุกคนอื่น 

โอเดการ์ด ลงทำเกมตรงกลางในตอนแรก ขณะที่ สมิธ โรว์ ถูกขยับออกไปเล่นริมเส้นฝั่งขวา ส่วน บูคาโย่ ซาก้า โยกไปเล่นเป็นแบ็กซ้าย แต่เติมเกมรุกสุดตัวทำให้เหมือนมีปีกซ้าย 2 คนเพราะ นิโกล่าส์ เปเป้ ก็ยังอยู่ในสนาม

จากนั้นช่วง 15 นาทีสุดท้าย โอเดการ์ด สลับเข้ามาเล่นข้างในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ส่วน โอเดการ์ด ถ่างออกด้านข้างแทน แต่ก็ยังมีส่วนร่วมในเกมรุกเหมือนเดิม

กองกลางทีชาตินอร์เวย์จ่ายบอล 24 ครั้ง พลาดเพียงครั้งเดียว ช่วยให้สปีดการเล่นของทีมเร็วขึ้นกว่าเดิม จังหวะแทงขึ้นหน้าสร้างโอกาสได้ดี รวมถึงได้ยิงเน้นๆ ในเขตโทษ แต่ข้ามคานน่าเสียดาย

เทียบกับ วิลเลี่ยน ที่ลงสำรองเช่นกันยิ่งเห็นความต่างเพราะผลงานของปีกบราซิเลียนยังคงน่าผิดหวัง สำรองอีกคนอย่าง โอบาเมย็อง ก็เงียบ เหมือนยังไม่ฟิตเต็มที่ 

วิลเลี่ยน ที่ลงสนามช้ากว่า โอเดการ์ด ราว 10 นาที แต่ทำบอลเสียถึง 5 ครั้ง จ่ายบอลคืนหลัง 16 ครั้งจากทั้งหมด 21 ครั้ง และไม่มีการเปิดบอลเข้าเขตโทษแม้แต่ครั้งเดียว 

4 ตัวจริงในเกมรุกนัดล่าสุดที่ประกอบด้วย อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, นิโกล่าส์ เปเป้, เอมิล สมิธ โรว์ และ บูคาโย่ ซาก้า ดูอ่อนล้าและหมดแรงไม่น้อยโดยเฉพาะครึ่งแรก พอมาเร่งโหมครึ่งหลังก็เข้าทาง วิลล่า ได้รับแน่นรอสวนกลับ 

มิเกล อาร์เตต้า อาจต้องเปลี่ยนตัวจริงในเกมรุกบ้างในนัดต่อไปเพื่อสร้างแรงกระตุ้นใหม่ๆ ให้ทีม และนั่นหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่ มาร์ติน โอเดการ์ด ควรได้ลงตัวจริงเป็นนัดแรก

การจ่ายบอของ โอเดการ์ด ในเกมกับ วิลล่า

ในวัน โอเดการ์ด ย้ายมาร่วมทีม อาร์เตต้า ยกย่องเอาไว้ว่าเป็นนักเตะที่คุณภาพคับแก้วและตรงตามที่ต้องการในตำแหน่งสร้างสรรค์เกมรุก

"ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา โอเดการ์ด เติบโตและพัฒนาในแนวทางที่ถูกต้อง ผมติดตามเขาอย่างใกล้ชิดเพราะเขาเล่นให้ เรอัล โซเซียดาด ทีมบ้านเกิดของผม เขาต้องการเวลาปรับตัวอีกเล็กน้อย แต่เขามีคุณภาพที่จะประสบความสำเร็จกับเรา"

"เขาเชี่ยวชาญในการเล่นในพื้นที่จำกัด เล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 และหมายเลข 10 รวมถึงออกไปเล่นริมเส้น เขาคือผู้เล่นสร้างสรรค์เกมขนาดแท้ที่สามารถครองบอลในพื้นที่แคบได้ดีมากๆ เขามีความสามารถทั้งการสร้างโอกาสให้คนอื่นและยิงประตูได้เอง" อาร์เตต้า กล่าว 

จากคำยกย่องของ อาร์เตต้า ทำให้เห็นว่ากุนซือปืนโตมีไอเดียหลากหลายสำหรับการใช้งานลูกทีมคนใหม่ดังที่เห็นกันไปพอสมควรในเกมล่าสุดซึ่งหากจะจัดแผนการเล่นของ อาร์เซน่อล ที่มี มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นตัวจริง น่าจะจัดได้ 3 แผนหลักๆ ด้วยกัน

1. ระบบ 4-3-3

มิเกล อาร์เตต้า คุ้นเคยกับระบบนี้ตอนเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนฯ ซิตี้ แต่เขายังไม่สามารถนำมาใช้กับ อาร์เซน่อล ได้ในทันทีเพราะคุณภาพนักเตะต่างกัน

แต่ โอเดการ์ด จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้กับการเล่นนี้ได้เพราะสามารถโยกไปเล่นริมเส้นฝั่งขวาเหมือนนัดล่าสุดและเป็นตำแหหน่งที่เคยทำได้ดีตอนยืมตัวกับ วิเทสส์ อาร์เน่ม ในลีกฮอลแลนด์ซึ่งยิงไป 11 ประตูกับ 12 แอสซิสต์จนได้ตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาล 2018/19

ระบบนี้จะไม่มี เอมิล สมิธ โรว์ ที่หลุดเป็นสำรอง ขณะที่ บูคาโย่ ซาก้า ต้องโยกไปริมเส้นฝั่งซ้าย ส่วน 3 ตัวกลางเป็น กรานิต ชาคา, โธมัส ปาร์เตย์ และ ดานี่ เซบายอส หรืออาจจะให้ สมิธ โรว์ เล่นแทนตำแหน่งของ เซบายอส ก็ได้ 

มีอีกไอเดียที่หลายคนอยากเห็นกับระบบนี้คือการส่งทั้ง โอเดการ์ด และ สมิธ โรว์ ลงเล่นตรงกลางแทน กรานิต ชาคา และ ดานี่ เซบายอส โดยมี โธมัส ปาร์เตย์ ปักหลักตรงกลางเพราะเป็นการเล่นที่เหมาะสำหรับใช้เจาะทีมที่แพ็คเกมรับแน่น 

แท็กติกนี้คล้ายกับ แมนฯ ซิตี้ ที่มี โรดรี้ ทำหน้าที่เก็บกวาด ปล่อยให้ เควิน เดอ บรอยน์ กับ อิลคาย กุนโดกัน คอยสร้างสรรค์เกม เช่นเดียวกับ เรอัล มาดริด ที่มี กาเซมีโร่ ทำหน้าที่เกมรับ ส่วนตัวคุมจังหวะเกมรุกคือ ลูก้า โมดริช กับ โทนี่ โครส 

2. ระบบ 4-2-3-1  

ก่อนแพ้ 2 นัดติดในเดือนกุมภาพันธ์ ผลงานก่อนหน้านี้ของ อาร์เซน่อล กลับมาทำได้ดีอีกครั้ง อาร์เตต้า เลือกให้ก๊วนดาวรุ่งอย่าง บูคาโย่ ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เป็น 3 ตัวรุกอยู่ข้างหลังหน้าเป้าที่ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ สลับกันเล่นกับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หรือบางนัด โอบาเมย็อง ได้ขยับออกมาริมเส้นฝั่งซ้ายแทนตำแหน่งของ มาร์ติเนลลี่

หากเล่นระบบนี้ โอเดการ์ด เหมาะกับตำแหน่งจอมทัพหมายเลข 10 ที่ สมิธ โรว์ เล่นในปัจจุบันเพราะเป็นนักเตะที่สร้างสรรค์โอกาสได้ดี ใช้เท้าซ้ายได้ฉมังทั้งการจ่ายบอลและยิงเอง

มีข้อกังวลอยู่บ้างว่าอาจส่งผลต่อ สมิธ โรว์ ที่กำลังฟอร์มดีและอาจเสียตำแหน่ง แต่ อาร์เตต้า มองว่าการเล่นตำแหน่งเดียวของทั้งคู่เป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกัน และได้สลับกันลงเล่นเพื่อไม่ให้ภาระหนักตกอยู่กับ สมิธ โรว์ 

เราต้องไม่ลืมว่า สมิธ โรว์ เพิ่งอายุเพียง 20 ปีเท่านั้นและเพิ่งได้เล่นจริงจังต่อเนื่องเพียงเดือนเศษๆ เท่านั้นเอง ในเกมกับ วิลล่า ยิ่งเห็นได้ชัดว่าการลงสนามต่อเนื่องจนเกินไปทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้เล่นเฉพาะบอลถ้วยทำให้ดูจะมีอาการล้าชัดเจน

3. ระบบ 5-3-2 

ในหลายช่วงที่ผ่านมา อาร์เตต้า ปรับเล่นระบบหลัง 3 แบบมีวิงแบ็กบ่อยครั้งเพื่อให้เกมรับเหนียวแน่นและเสียประตูยากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับผู้เล่นในตำแหน่งอื่นที่ต้องลดลง

ระบบนี้ คีแรน เทียร์นีย์ มักได้ขยับไปยืนเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟ และมี บูคาโย่ ซาก้า ถอยลงไปเล่นวิงแบ็กซ้าย ส่วนอีกฝั่งเป็น เอคตอร์ เบเยริน 

ส่วนตรงกลาง 3 คนจะมี โธมัส ปาร์เตย์ เป็นตัวหลักจับคู่กับ ดานี่ เซบายอส หรือ กรานิต ชาคา และให้ มาร์ติน โอเดการ์ด ปั้นเกมเต็มตัวอยู่ข้างหลังคู่กองหน้า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ 

ระบบนี้มีความเป็นไปได้ไม่มากนักเพราะนอกจาก สมิธ โรว์ จะหลุดตำแหน่งแล้ว การโจมตีริมเส้นอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรด้วยการมีเพียงวิงแบ็กสองข้างคอยวิ่งขึ้น-ลง ไม่มีตัวริมเส้นทำหน้าที่เจาะคู่แข่งโดยตรง 

นี่ก็คือความเป็นไปได้ในการจัดทัพของ อาร์เซน่อล กับการมี มาร์ติน โอเดการ์ด อยู่ในทีม และเราคงได้เห็นแผนใดแผนนึงในนัดต่อไปที่กองกลางพรสวรรค์รายนี้มีโอกาสได้เป็นตัวจริงนัดแรกในสีเสื้อปืนใหญ่