คุณสมบัติในการเป็นนักเตะอาร์เซน่อล

ไม่มีใครเชื่อว่า อาร์เซน่อล จะกล้าทุ่มเงิน 50 ล้านยูโรในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาดึงตัวหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของลา ลีกา มาร่วมทีม 

แต่ อาร์เซน่อล กล้าทำและทำสำเร็จ

การมาของ ปาร์เคย์ สร้างความหวังให้กับแฟนบอลปืนใหญ่อย่างยิ่งเพราะผลงานตลอดหลายปีกับตราหมีพิสูจน์คุณภาพฝีเท้าได้เป็นอย่างดี หลายคนเชื่อว่านี่คือจิ๊กซอว์แดนกลางที่ขาดหายไปนานนับตั้งแต่ ปาทริค วิเอร่า อำลาทีมในปี 2005

ทุกคนมั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นฟอร์มของเจ้าตัวแบบเต็มๆ ในนัดพาทีมบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในช่วงต้นฤดูกาล ปลดล็อกเก็บชัยชัยชนะนัดแรกในรอบ 14 ปีที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ปาร์เตย์ เล่นได้อย่างครบเครื่องทั้งรุกและรับ คุมแดนกลางอยู่หมัด เป็นฟอร์มการเล่นที่ทำให้หลายคนนึกถึง "กัปตันปั๊ต" ขึ้นมาทันใด แถมคู่หู โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ก็โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้กันจนเหมือนกับว่าทีมกำลังจะได้ "ปาทริค วิเอร่า & จิลแบร์โต้ ซิลวา" คู่ใหม่

ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ปาร์เตย์ ก็เจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนหลายต่อหลายครั้งจนไม่สามารถปักหลักในแดนกลางให้ อาร์เซน่อล ได้แบบต่อเนื่อง อาร์เตต้า ต้องปรับทีมบ่อยครั้งซึ่งส่งผลต่อฟอร์มการเล่นชัดเจน 

ปาร์เตย์ บาดเจ็บครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ทำให้พลาดช่วยทีม 2 นัด มิเกล อาร์เตต้า เร่งฟิตลงสนามทันเกมสำคัญกับ สเปอร์ส ในนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ แต่ก็เจ็บซ้ำจนกลายเป็นเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึง

อดีตกองกลางแอต.มาดริด เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวจึงเลือกเดินออกจากสนาม ขณะที่ อาร์เตต้า พยายามผลักให้กลับลงไปเล่นอีกเพราะทีมเสียบอลและกำลังโดนโต้กลับ ปาร์เตย์ ทำได้เพียงกัดฟันวิ่งเหยาะๆ กลับไป แต่ไม่สามารถช่วยทีมป้องกันได้ สุดท้ายโดน สเปอร์ส ยิงนำ 2-0 จากการประสานงานกันของ ซน ฮึง-มิน ที่จ่ายให้ แฮร์รี่ เคน ซัดเสียบตาข่ายและชนะไปในสกอร์นี้

เหตุการณ์ที่ อาร์เตต้า ผลักให้ ปาร์เตย์ กลับไปเล่นแม้บาดเจ็บ

อาร์เตต้า กล่าวถึงจังหวะดังกล่าวว่า "ผมต้องการให้เขาเข้าไปในสนามเพื่อทำอะไรบางอย่างให้ทีมในสถานการณ์นั้น ทว่าเขาก็ไม่สามารถที่จะเล่นต่อได้แล้ว"

"บางทีเราอาจจะระวัง ซน น้อยเกินไป แต่มันก็เป็นประตูที่สุดมหัศจรรย์ มันคือสิ่งที่พวกเขาทำได้ แต่พวกเขาก็ทำได้ครั้งเดียว เพราะประตูที่สองเรามีนักเตะบาดเจ็บ"

อาการเจ็บซ้ำครั้งนี้ทำให้ ปาร์เตย์ หายหน้าจากทีมไป 8 นัดติดต่อกันในทุกรายการ เขากลับมาได้อีกทีคือกลางเดือนมกราคมของปีใหม่ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 

ความฟิตของ ปาร์เตย์ เหมือนจะดีขึ้นจนได้ลงตัวจริงในเกมลีก 5 นัดติดต่อกันที่พบ นิวคาสเซิ่ล (3-0), เซาธ์แฮมป์ตัน (3-1), แมนฯ ยูไนเต็ด (0-0), วูล์ฟแฮมป์ตัน (1-2) และ แอสตัน วิลล่า (0-1)

ทว่าในเกมพ่ายต่อสิงห์ผงาด กองกลางวัย 27 ปี ก็มาเจ็บซ้ำอีกรอบจนถูกเปลี่ยนตัวออกท้ายเกมซึ่งเป็นการเจ็บรอบที่ 3 นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 

อาร์เซน่อล ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ว่าอาการเจ็บแฮมสตริงซ้ายล่าสุดครั้งนี้ทำให้ ปาร์เตย์ อดลงสนามในเกมนัดต่อไปที่จะเปิดรังรับมือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ. และจากนั้นก็ต้องรอเช็กอาการอีกที

ขณะที่สื่อในอังกฤษคาดว่า เจ้าตัวจะพักอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าจะพลาดทั้งเกมพบ ลีดส์ และยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรกกับ เบนฟิก้า รวมถึงเกมลีกสุดสัปดาห์หน้าที่มีงานช้างรออยู่รับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. 

หากไม่นับเกมลีก 4 นัดแรกที่ยังไม่ย้ายมาร่วมทีม ปาร์เตย์ ได้ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ไปเพียง 11 นัดจากทั้งหมด 19 นัดในลีก และเล่นครบ 90 นาทีเพียง 3 นัดเท่านั้น

ปาร์เตย์พลาดเกมลีกไปแล้ว 8 นัดในฤดูกาลนี้

พลิกสถิติดูการเล่นให้ แอต.มาดริด 3 ฤดูกาลหลังสุด ปาร์เตย์ พลาดลงสนามในเกมลีกเพราะบาดเจ็บเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น ในระหว่างนี้ติดโทษแบนรวมกัน 6 นัด และมีชื่อสำรองแต่ไม่ได้ลงสนามอีก 6 นัด

ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกที่ผ่านครึ่งทางมาได้นิดเดียว แต่ ปาร์เตย์ พลาดเกมลีกกับ อาร์เซน่อล ไปแล้ว 8 นัดจากอาการบาดเจ็บล้วนๆ มากกว่าช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ถึง 4 เท่า

จากที่กำลังจะเป็นแกนหลักให้กับทีม กลายเป็นว่าตอนนี้หลายคนเริ่มเป็นห่วงกับสภาพร่างกายของ ปาร์เตย์ กับการเล่นในพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายอย่างมาก นักเตะต้องฟิต ต้องแกร่งระดับหนึ่งจึงจะเอาตัวรอดได้ ไม่ใช่เพียงฝีเท้าดี ทักษะเลิศก็คิดว่าจะประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ

ยิ่งเป็นการเล่นให้ อาร์เซน่อล ที่เหมือนโชคร้ายเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นที่เกิดขึ้นได้ง่ายและซ้ำซาก ความกังวลใจต่อสภาพร่างกายของ โธมัส ปาร์เตย์ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 

หลายปีที่ผ่านมา อาร์เซน่อล มีนักเตะดีๆ เก่งๆ มาร่วมทีมหลายคน แต่มักไปไม่สุดเพราะเจอปัญหาบาดเจ็บตามเล่นงานไม่ว่าจะเป็น แจ็ค วิลเชียร์, โทมัส โรซิชกี้, อาบู ดิยาบี้, อารอน แรมซีย์, ซานติ กาซอร์ล่า, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ฯลฯ

โธมัส ปาร์เตย์ จะเป็นรายต่อไปหรือไม่ที่เข้าข่ายมีคุณสมบัติครบถ้วนกับการเป็นนักเตะ อาร์เซน่อล  

ฝีเท้าดี มีพรสวรรค์ และ "เจ็บบ่อย"