เรื่องดีที่มาพร้อมปัญหา

แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ เป็นรอบคัดเลือกเพื่อหาทีมไปเล่นในรอบสุดท้ายในปีหน้าซึ่งจริงๆ แล้วควรแข่งในต้นปีนี้ แต่ด้วยผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ทำให้การแข่งขันต้องขยับออกไปอีกหนึ่งปี แต่ก็ยังใช้ชื่อว่า "แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021" เหมือน ยูโร 2020 ที่ขยับมาแข่งในกลางปี 2021 ที่จะถึงนี้ 

รอบคัดเลือกในเดือนนี้เป็นโปรแกรม 2 นัดสุดท้ายที่จะได้บทสรุปทีมเข้ารอบทั้งหมด เราจึงได้เห็นหลายทีมตบเท้าคว้าตั๋วกันเพียบไม่ว่าจะเป็น กานา, อียิปต์, ไอวอรี่ โคสต์, โมร็อกโก, ไนจีเรีย, กาบอง ฯลฯ รวมไปถึงหน้าใหม่อย่าง แกมเบีย และ โคโมรอส ที่ได้ลุยรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก

การเข้ารอบสุดท้ายไปได้เป็นความสำเร็จก้าวแรกของทุกชาติเพราะ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ คือการแข่งขันรายการใหญ่สุดของทวีปแอฟริกา และยิ่งใหญ่เป็นรองเพียงรอบสุดท้าย "ฟุตบอลโลก" เท่านั้น 

การได้เล่นในรอบสุดท้ายของศึกชิงความเห็นหนึ่งในทวีปเป็นโอกาสสำหรับนักฟุตบอลแอฟริกันทุกคนที่ได้ลุ้นความสำเร็จในนามทีมชาติที่มาพร้อมความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติยศสำคัญในอาชีพ

แต่กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันรายการนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสโมสรต้นสังกัดของนักฟุตบอลและเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกครั้งเพราะช่วงเวลาของการแข่งขัน "ทับซ้อน" กับโปรแกรมในระดับสโมสร

รอบสุดท้ายของ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ จะแข่งกันในช่วงต้นปีซึ่งในครั้งต่อไปที่แคเมอรูนเป็นเจ้าภาพจะมีขึ้นระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ปี 2022 (รอระบุวันอย่างเป็นทางการ) ซึ่งเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ครึ่งหลังของฤดูกาลฟุตบอลโลกในยุโรป 

อาร์เซน่อล เป็นอีกหนึ่งทีมที่ต้องเจอกับผลกระทบนี้หลังจากนักเตะหลายคนของทีมช่วยให้ทีมชาติของตัวเองผ่านเข้ารอบสุดท้ายในปีหน้าได้สำเร็จ

ทีมชาติกาบองของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ทีมชาติกานาของ โธมัส ปาร์เตย์, ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ของ นิโกล่าส์ เปเป้ และ ทีมชาติอียิปต์ของ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ 

4 ชาตินี้ที่มีตัวแทนของแข้งปืนใหญ่ สามารถคว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายได้พร้อมกันในเบรกทีมชาติรอบนี้ซึ่งทุกคนต่างได้ลงสนามช่วยชาติของตัวเองทั้งหมดและหากไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงก็คงติดทีมไปลุยรอบสุดท้ายแน่นอนเพราะเป็นตัวหลักทั้งหมด

โอบาเมย็อง ยิง 1 และแอสซิสต์อีก 1 ช่วยให้กาบองเอาชนะ ดีอาร์ คองโก 3-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทันทีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 

ในวันเดียวกันนี้ กานา ก็ทำภารกิจลุล่วงด้วยการบุกยันเสมอแอฟริกาใต้ 1-1 ในเกมที่ โธมัส ปาร์เตย์ ไม่ได้ลงสนามเพราะไม่สามารถเดินทางไปแอฟริกาใต้ได้เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านมาตรการป้องกันโควิด-19

แต่ในนัดถัดมา ปาร์เตย์ ก็ลงช่วยทัพ "ดาวดำ" เล่นนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเอาชนะทีมชาติเซาตูเมและปรินซีปี 3-1 ทำให้จบรอบคัดเลือกด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

อียิปต์ ของ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ก็เข้ารอบพร้อมกับ โอบาเมย็อง และ ปาร์เตย์ หลังบุกเสมอ เคนยา ได้ 1-1 ก่อนกลับมาเล่นในบ้านไล่อัด โคโมรอส อีก 4-0 ในเกมที่ เอลเนนี่ ยิงไกลแนวถนัดเข้าประตูไปสุดสวย

ด้าน นิโกล่าส์ เปเป้ ไม่น้อยหน้าเพื่อนร่วมทีมเมื่อช่วยให้ ไอวอรี่ โคสต์ เช็กบิล ไนเจอร์ ขาดลอย 3-0 ตีตั๋วก่อนโปรแกรมนัดสุดท้ายในบ้านที่พบ เอธิโอเปีย

ในความน่ายินดีที่ 4 แข้งกาฬทวีปพาทีมชาติตัวเองไปลุยรอบสุดท้ายรายการใหญ่สุดของทวีปได้ อาร์เซน่อล และ มิเกล อาร์เตต้า ก็เตรียมเจอเรื่องปวดหัวที่รออยู่ในต้นปีหน้ากับการไม่สามารถใช้งาน 4 ตัวหลักดังกล่าวได้

ย้อนไปในรอบสุดท้ายของ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 อูไน เอเมรี่ กุนซือปืนใหญ่ในตอนนั้น แทบไม่เจอผลกระทบตรงนี้เพราะตอนนั้นมีเพียง เอลเนนี่ ที่ต้องไปเล่นให้ทัพมัมมี่ในรอบสุดท้าย เพราะ โอบาเมย็อง และทีมชาติกาบองไม่ผ่านรอบคัดเลือก 

ในฤดูกาล 2018/19 เอลเนนี่ ไม่ได้มีบทบาทกับ อาร์เซน่อล มากนักเพราะเป็นสำรองเสียส่วนใหญ่ อูไน เอเมรี่ มีตัวเลือกในแดนกลางทั้ง กรานิต ชาคา, ลูคัส ตอร์เรยร่า, มัตเตโอ เก็นดูซี่ และ อารอน แรมซีย์ รวมไปถึง เอนส์ลีย์ เมทแลนด์-ไนลส์ ที่เล่นได้อีกคน

การขาดหายไปของ เอลเนนี่ ราวๆ หนึ่งเดือนจึงไม่มีผล และตลอดฤดูกาลนั้น "บังเอล" ได้ลงตัวจริงให้ทีมเพียง 12 นัด และเป็นในพรีเมียร์ลีกเพียง 5 นัดเท่านั้น 

ต่างจากฤดูกาลปัจจุบันที่ เอลเนนี่ ได้โอกาสจาก อาร์เตต้า พอสมควรและลงสนามไปแล้ว 31 นัดในทุกรายการ เกือบจะเท่าฤดูกาล 2017/18 ที่เล่นมากสุดในอาชีพกับ อาร์เซน่อล ที่จำนวน 32 นัด 

หาก เอลเนนี่ ยังอยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าและมีความสำคัญในฐานะอีกหนึ่ง "อะไหล่" ของทีมแบบฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล จะได้รับผลกระทบมากกว่า แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ เมื่อ 2 ปีก่อนอย่างแน่นอน   

ส่วน โอบาเมย็อง ที่ไม่ได้ไปเล่นรอบสุดท้ายในปีนั้น ก็ได้โอกาสลุยให้ อาร์เซน่อล แบบเต็มๆ จนคว้าตำแหน่งดาวซัลโวร่วมของพรีเมียร์ลีกที่ 22 ประตูจาก 36 นัด และลงสนามรวม 51 นัดในทุกรายการ 

เมื่อเทียบกับ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ รอบสุดท้ายที่รออยู่ในต้นปีหน้า อาร์เซน่อล จะเจอปัญหาที่มากกว่าครั้งล่าสุดหลายเท่าแน่นอนกับการไม่สามารถใช้งาน 4 ผู้เล่นสำคัญในระยะเวลาราว 4-6 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับการเข้ารอบของแต่ละชาติ

โดยปกติแล้ว อาร์เซน่อล และสโมสรต่างๆ เอาใจช่วยให้นักเตะตัวเองประสบความสำเร็จในทีมชาติอยู่เสมอ แต่อีกมุมก็รู้กันดีว่าไม่ได้เต็มใจร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วกับการขาดนักเตะสำคัญนานเป็นเดือน 

แฟนบอลเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกันว่า "ได้แชมป์กับทีมชาติก็ยินดีด้วย แต่หากตกรอบก็ยิ่งดีเพราะจะได้กลับมาช่วยสโมสร...ยิ่งตกรอบเร็วยิ่งดี"