จุดโทษไม่ใช่ข้ออ้าง
ต่อให้เกมนี้ไม่มี เมซุต โอซิล ที่เจ็บเข่าจนหลุดโผทั้งตัวจริงและสำรอง ศักยภาพโดยรวมของทีมปืนใหญ่ก็ยังเหนือกว่าเวสต์บรอมวิชซึ่งลงสนามในฐานะ "ทีมบ๊วย" อยู่มาก
ตลอดทั้งเกม อาร์เซน่อล ครองบอลได้มากกว่าตามคาดจริง แต่โอกาสจะแจ้งในการทำประตูแทบนับครั้งได้
นอกจากจะไม่สามารถกดดันเจ้าถิ่นอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว อาร์เซน่อลยังเปิดพื้นที่ให้เวสต์บรอมวิชซึ่งไม่ชนะใครเลยตั้งแต่ขึ้นเดือนกันยายน ได้คุกคาม ป้วนเปี้ยนจนหวิดโดนหมัดน็อกหลายครั้ง
สุดท้ายจบเกมโดยที่หาโอกาสยิงเท่ากันที่ 14 ครั้ง...
มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งหลังจบเกมกับที่พ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด คารังทั้งที่เล่นดีกว่ามากและหาโอกาสไม่ต่ำกว่าสามสิบครั้งคือ ลูกทีมของ เวนเกอร์ ขาดแรงกระตุ้นในตัวเองอย่างมาก
อาการเหมือนยังเมาหมัดไม่หาย ออกจากมุมโดยที่ยังมึนๆ งงๆ เหวี่ยงหมัดออกไปก็เข้าเป้าบ้าง ไม่เข้าเป้าบ้าง
เห็นได้ชัดในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน, นิวคาสเซิ่ล, เวสต์แฮม และ เวสต์บรอมวิช ที่ยิงรวมกันได้เพียง 3 ประตู
มีฮึดให้หัวใจแฟนบอลสูบฉีดขึ้นมาหน่อยก็คือเกมกับ ลิเวอร์พูล และ คริสตัล พาเลซ แต่ไม่ใช่ทั้งเกม มีเพียงช่วงที่โดนยิงนำก่อนหรือไม่ก็โดนตีเสมอ
คือต้องโดนกระตุกอย่างแรงเสียก่อนถึงจะมีอาการตอบสนองออกมา ถ้าคู่แข่งไม่เปิดแลก และเน้นตั้งรับ อาร์เซน่อลก็เล่นกันแบบเรื่อยๆ แทนที่จะขย่มเข้าใส่สมกับเป็นทีมใหญ่
ปัญหาความฟิตในช่วงโปรแกรมหนักบ็อกซิ่งเดย์ต่อเนื่องปีใหม่ ไม่ใช่ข้ออ้างแน่นอนเพราะคิวแข่งได้เปรียบชาวบ้านด้วยซ้ำไป
เกือบทุกทีมต้องลงเล่นในวันที่ 26 ธ.ค. หรือผ่านค่ำคืนคริสต์มาสที่คงมีปาร์ตี้กันพอสมควร แต่อาร์เซน่อลได้เล่นในวันที่ 28 ธ.ค.
เวนเกอร์ ไม่ได้เจอโปรแกรมแข่งแบบ "วันเว้นวัน" เหมือนที่หลายทีมต้องเจอเพราะอย่างน้อยๆ ได้พัก 2 วันก่อนลงสนามอีกนัด
จุดโทษปัญหาที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ออกมาโวยหลังเกม
แต่แทนที่จะได้เห็นการรวมพลังบุกกดดันคู่แข่ง แข้งปืนโตก็นวยนาด ค่อยๆ ต่อบอลอย่างเนิบช้า และหลายครั้งก็โดนคู่แข่งฉกได้จนต้องเปลี่ยนจนรุกและรับ วิ่งกันน้ำบานตลอด
ไม่มี โอซิล มีผลส่วนหนึ่งเพราะไอเดียในการสร้างสรรค์เกมขาดหายไปเยอะ อเล็กซ์ อีโวบี้ ไม่ใช่ตัวเลือกที่ทดแทนจอมทัพทีมชาติเยอรมันได้แม้แต่น้อย
อเล็กซิส ซานเชซ ยังเล่นฝืนจังหวะและทำง่ายเป็นยากในหลายครั้ง มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง แต่เหมือนใช้ไม่ถูกจุด การประสานงานกับ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ยังขาดๆ เกินๆ
เมื่อแถวสองทำเกมไม่ได้ ลากาแซตต์ ก็ต้องฉีกออกนอกเขตโทษเพื่อมาล้วงบอล ก็เลยกลายเป็นว่าไม่มีใครปักหลักคอยจบในจังหวะสุดท้ายแบบต่อเนื่อง เวลาที่วิงแบ็กอย่าง เอคตอร์ เบเยริน กับ เซอัด โอคาซินัช เติมขึ้นมาจึงไม่เจอเป้าหมายในการผ่านบอลไปให้
เวนเกอร์ อาจโชคไม่ดีที่ช่วงโปรแกรมหนักดันมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมทั้ง อารอน แรมซี่ย์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, นาโช่ มอนเรอัล และ เมซุต โอซิล
แต่หากเขาเตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนตลาดซัมเมอร์ปิดตัวลง ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แน่
ทีมที่พร้อมประสบความสำเร็จและโดยเฉพาะในอังกฤษที่ต้องลงเล่นถึง 4 รายการ โค้ชต้องมองให้ออกว่าขุมกำลังมากน้อยแค่ไหนถึงจะเพียงพอทั้งในแง่ของ "คุณภาพ" และ "ปริมาณ"
เวนเกอร์ มีปัญหากับ ไมค์ ดีน อีกครั้ง
คุณนับนักเตะหยาบๆ ได้เกินยี่สิบคน สามารถจัดได้สองทีมสบาย แต่เมื่อถึงเวลาจริงจัง กลุ่มสำรองหรือผู้เล่นชุดสองสามารถทดแทนตัวจริงได้หรือไม่
ในหลายนัดเราจึงได้เห็น แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, ร็อบ โฮลดิ้ง และ คาลั่ม แชมเบอร์ส นั่งหมดอาลัยตายยากในซุ้มม้านั่งสำรองทั้งที่กองหลังตัวหลักมีปัญหาบาดเจ็บ
เวนเกอร์ ไม่กล้าใช้งานสำรองที่ตัวเองมีเพราะคุณภาพต่างกันมากมาย นั่นทำให้เขาเลือกแก้ปัญหาด้วยการปรับเล่นแบ็กโฟร์ และก็วนกลับมาที่แบ็กทรีอีกรอบ
เช่นเดียวกับการที่ ธีโอ วัลค็อตต์ นั่งงงๆ ข้างสนามโดยที่ไม่ถูกใช้งานในเกมนี้ทั้งที่ ชิรูด์ ก็ไม่อยู่ และทีมต้องการประตูอย่างมาก
กลุ่มผู้เล่นสำรองคือกลุ่มที่พร้อมจะลงมาพลิกเกมให้กับทีม แต่จะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงหากผู้จัดการทีมไม่กล้าใช้งาน หรือมองว่าลงไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
สมมุติว่า ฝีเท้าและความสามารถของสำรอง "ดีกว่า" ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ยังไงก็น่าเสี่ยง
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากว่าในเมื่อ เวนเกอร์ ไม่กล้าใช้งาน แล้วจะเก็บไว้ในทีมเพื่อ?
ทำไมไม่จัดขุมกำลังตัวเองให้แข็งแกร่งทั้งตัวจริงและสำรอง เมื่อถึงเวลาต้องใช้ก็มั่นใจว่ามีทีเด็ดแน่นอน ไม่ใช่ส่งลงไปแบบเสียไม่ได้
อาร์เซน่อลในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ จะไม่มีทางประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการสำคัญอย่างพรีเมียร์ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากใช้งานผู้เล่นชุดนี้ต่อไป
ทีมชุดที่ว่านี้จะยิ่งอ่อนยวบยิ่งกว่าเดิมเมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ กับ เมซุต โอซิล ไม่อยู่ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่สามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับทีมใดก็ได้แล้วด้วย
เวนเกอร์ ต่อว่าผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ตามคาดกับจุดโทษปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งแฟนบอลทั่วไปอาจเห็นด้วยตรงที่ว่า คาลั่ม แชมเบอร์ส ไม่ได้ยกมือขวาง และพยายามชักกลับหาตัวด้วยซ้ำก่อนที่โดนเพื่อนเก่า คีแรน กิ๊บบ์ส กระดกบอลใส่
แต่หากคุณมีทีมที่ดีและยิงให้ขาด 2-3 หรือ 4 ลูกไปเลย เรื่องการตัดสินที่ถูกบ้างผิดบ้างจะไม่ใช่ข้ออ้างเอามาเป็นประเด็นหลังเกมแน่นอน
เวนเกอร์ทำทีมแบบไม่คิดให้ขาด หมายถึงหวังแค่เอาตัวรอด และเก็บชัยชนะแบบหืดจับ บางนัดก็มีโชคผสม ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่โชคดีไปทุกนัด
ตอนนี้ อาร์เซน่อล อยู่ห่างจาก เวสต์บรอมวิช 22 คะแนน และห่างจากแมนฯ ซิตี้ 21 คะแนน
ความต่างระหว่างตามทีมนำกับมากกว่าบ๊วยของตาราง อยู่ที่ "คะแนนเดียว"
ตรงนี้ต่างหากคือสิ่งที่ เวนเกอร์ ต้องกังวล ไม่ใช่จุดโทษและการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT