นาเกลส์มันน์ อาจได้แชมป์เดเอฟเบ โพคาล ที่จะเจอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรอบชิงชนะเลิศ วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคมนี้ ส่งท้ายหรืออาจมือเปล่า ไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับ บาเยิร์น ที่ตัดสินใจล่วงหน้าไปแล้วว่ากุนซือหนุ่มรายนี้คือตัวเลือกที่ใช่สำหรับการทำหน้าที่ต่อจาก ฮันซี่ ฟลิค ผู้พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปในฤดูกาลที่แล้ว
ทำไม "เสือใต้" ที่มีเป้าหมายลุ้นทุกแชมป์ที่ลงแข่งขันและมีมาตรฐานการเล่นสูงลิบ จึงมั่นใจกุนซือที่อายุอานามน้อยกว่านักเตะหลายคนในบุนเดสลีกา
และทำไมพวกเขาจึงยอมทุ่มเงินถึง 25 ล้านยูโร (และอาจเพิ่มอีก 5 ล้านยูโรในอนาคต) เพื่อฉีกสัญญาดึงตัวออกมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก
ตรงนี้มีคำตอบและจะทำให้เราได้เข้าใจว่าสำหรับอาชีพโค้ชแล้ว อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ
1. เกิดมาเพื่อทุบสถิติ
ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ อายุเพียง 28 ปีเท่านั้นตอนได้รับตำแหน่งเทรนเนอร์ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ต่อจาก ฮูป สตีเว่นส์ กุนซือชาวดัตช์ที่มีปัญหาสุขภาพ เดิมทีกุนซือหนุ่มถูกวางตัวรับช่วงต่อในช่วงซัมเมอร์ แต่จำต้องกระโจนขึ้นนั่งเก้าอี้กุนซือเร็วกว่ากำหนด
ตอนนั้น ฮอฟเฟ่นไฮม์ อยู่อันดับ 17 ของตาราง สภาพร่อแร่ส่อแววตกชั้นเพราะอยู่ห่างพื้นที่ปลอดภัยอันดับ 15 อยู่ 7 คะแนน แต่ นาเกลส์มันน์ สามารถพาทีมเค้นฟอร์มเก่งด้วยการชนะ 7 จาก 14 นัดสุดท้าย รอดตกชั้นได้สำเร็จ
ฤดูกาลต่อมา นาเกลส์มันน์ ในวัย 28 ปี สานต่อฟอร์มเยี่ยมด้วยการพา ฮอฟเฟ่นไฮม์ บินสูงจนถึงอันดับ 4 ของตาราง คว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
จริงอยู่ว่า นาเกลส์มันน์ คือเฮดโค้ชถาวรอายุน้อยสุดที่คุมทีมในบุนเดสลีกา แต่ในอดีตมีคนที่อายุน้อยกว่าเขาทำหน้าที่ขุมทีมข้างสนามในฐานะขัดตาทัพนั่นคือ แบรนด์ สโตเบอร์ ที่รักษาการณ์นำทัพ ซาร์บรุ๊คเค่น ไปเยือน โคโลญจน์ ในปี 1976 ขณะอายุเพียง 24 ปี
นาเกลส์มันน์ สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในฟุตบอลถ้วยยุโรปที่พาทีม แอร์เบ ไลป์ซิก เข้ารอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากเป่าเค้กฉลองวันเกิดครบ 33 ปีได้ไม่นาน ทำลายสถิติของ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ที่เคยนำ โมนาโก เข้ารอบตัดเชือกเมื่อปี 2004 ด้วยอายุ 35 ปี
2. จุดเปลี่ยนสู่เส้นทางโค้ช
กุนซือใหม่ บาเยิร์น มิวนิค เกิดที่เมือง แลนด์สเบิร์ก อัม เลช ในแคว้นบาวาเรีย ฐานที่ตั้งของ "เสือใต้" เขาเคยเล่นให้ทีมเยาวชนของ 1860 มิวนิค ในรุ่นราวคราวเดียวกับ คริสเตียน เทรช และ ฟาเบียน จอห์นสัน ที่ไปได้ไกลกว่าในบุนเดสลีกา
ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่าหลังย้ายร่วมทีม เอาก์สบวร์ก ได้ไม่นาน ทำให้ชีวิตค้าแข้งของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มัน จบลงอย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น
"ในตอนแรก ผมไม่ต้องการทำอะไรอีกแล้วในวงการฟุตบอล" นาเกลส์มันน์ เปิดใจถึงความรู้สึกท้อแท้ในชีวิตตอนนั้น "มันน่าเศร้าสุดๆ สำหรับผมที่ต้องเลิกเล่นตั้งแต่อายุยังน้อย"
มีคำกล่าวว่า "การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือ การเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ" สอดคล้องกับชีวิตของ นาเกลส์มันน์ เช่นกันเพราะหลังจากที่เขาทิ้งความผิดหวังไว้เบื้องหลัง ก้าวเดินในเส้นทางใหม่ก็เริ่มนับหนึ่ง
3. นักปฏิบัติการฝึกซ้อม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ คือหนึ่งในไม่กี่สโมสรของโลกที่ใช้เครื่อง 'Footbonaut' เพื่อพัฒนาการคอนโทรลและจ่ายบอลของนักเตะ แต่ นาเกลส์มันน์ ใช้เทคโนโลยีในการฝึกซ้อมไปมากกว่านั้น
เขาเคยใช้ "โดรน" บินเหนือสนามซ้อมเพื่อบันทึกภาพการเคลื่อนที่ของนักเตะ และติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่ตรงเส้นกลางของสนามซ้อมซึ่งจะมีกล้อง 4 ตัวทำงาน โดย 2 ตัวแรกติดอยู่บนตึกสูงเหนือเส้นกลางสนาม และอีก 2 ตัวติดอยู่หลังประตูแต่ละด้าน
ภาพจากกล้องแต่ละตัวปรากฏบนจอใหญ่ที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมคอยหยุดภาพ หรือปล่อยภาพช้าเพื่อแสดงให้นักเตะได้เห็นในจังหวะต่างๆ ที่ นาเกลส์มันน์ ต้องการอธิบายถึงรายละเอียดในการเล่นฝึกซ้อมโดยมีมุมกล้องที่แตกต่างกัน 4 ตัวช่วยให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
...
* The footbonaut เป็นอุปกรณ์ฝึกซ้อมฟุตบอลที่ยิงลูกบอลด้วยความเร็วแตกต่างกัน มีขาด 14x14 ตารางเมตรและมีความสามารถในการยิงลูกบอล 360 องศา สามารถกำหนดสปีดและรูปแบบการส่งบอลได้ นักฟุตบอลที่อยู่ภายในวงกลมตรงกลางจะต้องควบคุมลูกฟุตบอลและส่งบอลเข้าสู่กรอบสี่เหลี่ยมที่มีมากถึง 72 ช่อง โดยจะมีสัญญาณเสียงและเเสงสีแดงให้รู้ว่าบอลจะออกจากช่องไหน
เครื่องนี้ถูกออกแบบมาเพื่อฝึกนักฟุตบอลให้สามารถคอนโทรลบอล ส่งบอล การตอบสนอง และการมองรอบๆ โดยที่เยอรมนีเคยเคลมว่าเครื่องนี้คืออีกหนึ่งการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีลูกหนังที่ช่วยให้ทัพ "อินทรีเหล็ก" คว้าแชมป์โลก 2014 มาครองได้
...
4) คนบันดาลใจ
ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ยกให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นต้นแบบของแรงบันดาลใจด้านโค้ช แต่อีกคนที่มีอิทธิพลต่อการคุมทีมคือ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี คนปัจจุบัน
ช่วงที่จบเส้นทางค้าแข้งอันรวดเร็ว นาเกลส์มันน์ ได้ทำหน้าที่เป็น "แมวมอง" คอยเจาะข้อมูลคู่แข่งให้ ทูเคิ่ล ที่เริ่มคุมทีมสำรองของ เอาก์สบวร์ก ในฤดูกาล 2007-08 นาเกลส์มันน์ กล่าวถึงภารกิจแรกๆ ในด้านโค้ชว่า "ผมเริ่มเข้าสู่งานโค้ชในแบบนั้น" ก่อนเสริมว่า "ผมได้เรียนรู้จากเขามากมาย"
ขณะที่ ทูเคิ่ล ก็ได้กล่าวถึงลูกน้องเก่าที่เดินตามรอยโค้ชชั้นยอดว่า "เขาเป็นคนใฝ่รู้มากๆ และเป็นโค้ชหนุ่มที่ทำงานอย่างหนัก"
ในช่วงที่ย้ายจาก เอาก์สบวร์ก ไปดูแลทีมเยาวชนของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ นาเกลส์มัน พาทีมชุดยู-19 คว้าแชมป์บุนเดสลีกามาครองในฤดูกาล 2013-14 จนเริ่มได้รับฉายาว่า "มูรินโญ่น้อย"
"เขาสนุกกับความสำเร็จในฟุตบอลระดับเยาวชน ผมแฮปปี้กับเขามาๆ และเชื่อมั่นในตัวเขา" ทูเคิ่ล กล่าว
5. กุนซือจอมแท็กติก
ช่วงสองฤดูกาลของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มัน ที่ ไลป์ซิก เขาเป็นเหมือนฝันร้ายของผู้จัดการทีมแฟนตาฟีก็ว่าได้เพราะความที่เปลี่ยนแท็กติกและตัวผู้เล่นนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งเล่นระบบหลังสาม บางครั้งหลังสี่ บางครั้งมีหน้าเป้า บางครั้งไม่มี ทุกอย่างเป็นไปได้หมด
ไลป์ซิก ในยุค นาเกลส์มันน์ จึงเป็นทีมที่ยากต่อการคาดเดาและจับทางลำบาก ขนาดได้เห็น 11 ตัวจริงที่เขาเลือกลงสนามก็ใช่ว่าจะรู้แน่ชัดถึงวิธีการเล่น เขาไม่เคยกลัวในการปรับทีมตั้งแต่ต้นเกมไม่ว่าจะเป็นแท็กติกหรือตัวผู้เล่นหากเขาคิดว่าแผนที่วางเอาไว้ไม่เวิร์ก
แน่นอนว่าคงมีโค้ชไม่กี่คนที่สามารถสร้างทีมที่มีความยืดหยุ่นและเล่นได้หลากหลายได้แบบนี้
(รอติดตามต่อในตอนที่ 2)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT
