10 ปี 'เบเยริน'...ถึงเวลาแยกย้าย
เอคเตอร์ เบเยริน เป็นหนึ่งในผลผลิตจากรั้ว ลา มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า ที่ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล เช่นเดียวกับ เชส ฟาเบรกาส, จอน โตรัล และอีกหลายต่อหลายคน
แข้งชาวสเปนอยู่ในทีมเยาวชนของ อาร์เซน่อล 2 ปี ก่อนได้ประเดิมชุดใหญ่ในปี 2013 จากนั้นย้ายไปเก็บประสบการณ์กับ วัตฟอร์ด ด้วยสัญญายืมตัว
เขากลับมาปักหลักจริงจังให้ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ฤดูกาล 2014/15 เป็นต้นมาหลังได้โอกาสจริงจังในช่วงที่ มาติเยอ เดบูชี่ แบ็กขวาชาวฝรั่งเศสได้รับบาดเจ็บ
ตลอด 4 ฤดูกาลแรกในทีมชุดใหญ่และเป็นช่วง 4 ฤดูกาลสุดท้ายในตำแหน่งของ อาร์แซน เวนเกอร์ เบเยริน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก และก้าวไปติดทีมชาติสเปนครั้งแรกในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
สไตล์การเล่นของ เบเยริน ตอบโจทย์ฟุตบอลในสไตล์ของ เวนเกอร์ ที่มีฟูลแบ็กเติมเกมรุกได้ดี อีกทั้งมีความเร็วจัดทำให้สามารถรับมือกับแนวรุกสายสปีดได้ไม่ยาก
ทว่าหลังการวางมือของ เวนเกอร์ โชคชะตาของ เบเยริน คล้อยต่ำลงตามไปด้วย เขาเริ่มเจอปัญหาบาดเจ็บตามรบกวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมพบกับ เชลซี เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 ที่เลวร้ายหนักถึงขั้นเอ็นหัวเข่าฉีกขาดจนต้องพักยาว 8 เดือน
แม้กลับมาลงสนามได้ในช่วงเดือนกันยายนปีเดียวกัน แต่ฟอร์มการเล่นของ เบเยริน ก็ไม่เหมือนเดิม และตลอดฤดูกาล 2019/20 ก็ยิงในลีกได้เพียงประตูเดียวจากการลงเล่น 15 นัด
ช่วงขาลงของ เบเยริน เป็นไปในทิศทางเดียวกับฟอร์มโดยรวมของ อาร์เซน่อล นับจากหมดยุคของ เวนเกอร์ ต่อด้วย อูไน เอเมรี่ และล่าสุดกับ มิเกล อาร์เตต้า
อาร์เซน่อล ไม่สามารถกลับไปคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกเลย อีกทั้งฤดูกาลล่าสุดก็พลาดตั๋วลุยยุโรปไม่ว่าจะรายการเล็กรายการใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
ทุกคนจึงคาดว่าน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรั้วเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในซัมเมอร์นี้ ขณะที่ เอคตอร์ เบเยริน ก็คือหนึ่งในนักเตะที่ถูกมองว่าควรถูกโละออกจากทีมมากกว่าจะเป็นแกนหลักต่อไป
เบเยริน ไม่สามารถเค้นฟอร์มที่เคยทำได้ดีและได้รับคำชมออกมาได้เลยในช่วงหลัง ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาบาดเจ็บหนักที่ทำให้ออกอาการ "แหยง" อย่างเห็นได้ชัดในเวลาเข้าบอล
ขณะเดียวกับ วิธีการเล่นของ เบเยริน ก็ไม่เหมือนเดิม เขาไม่กล้าพาบอลลุยได้อย่างที่เคยมั่นใจ ความเร็วที่เคยพาบอลสปีดหนีคู่แข่งแทบไม่มีให้เห็น และนั่นทำให้การช่วยเกมรุกไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ขณะที่เกมรับก็ทำได้แค่เสมอตัว ไม่มีอะไรโดดเด่น หลายครั้งหลายครั้งกลายเป็นบ่อน้ำมันให้คู่แข่งโจมตีด้วยซ้ำ
เบเยริน กับเพื่อนร่วมรุ่น จอน โตรัล ที่มาจากบาร์ซ่าเช่นกัน
ในช่วงหลัง การเติมเกมรุกของฟูลแบ็ก อาร์เซน่อล จะขึ้นทางซ้ายฝั่งเดียวหลังจากได้ คีแรน เทียร์นีย์ ตัวทีมชาติสกอตแลนด์มาร่วมทีม
คุณภาพของ เทียร์นีย์ ที่กลายเป็นแข้งคนสำคัญของ อาร์เซน่อล มากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับ เอคตอร์ เบเยริน ที่กำลังเป็นส่วนเกินเต็มรูปแบบ
การอยู่กับทีมมานานนับทศวรรษที่นับเฉพาะชุดใหญ่รวม 8 ปี เบเยริน ควรเป็นที่พึ่งของทีมได้มากกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าต้องเข้าๆ ออกๆ ระหว่างตัวจริงกับสำรอง
ฤดูกาลที่แล้ว สถานการณ์ในทีมของแบ็กขวาจอมแฟชั่นหม่นหมองยิ่งกว่าเดิมเมื่อในหลายนัดต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ คาชั่ม แชมเบอร์ส หรือไม่ก็ เซดริก โซอาเรส
เบเยริน รับรู้สถานการณ์ของตัวเองดี เขายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงจุดที่ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตว่า "ต้องย้าย"
ในวัย 26 ปี เบเยริน อยู่ในวัยที่ควรได้ปักหลักลงเล่นอย่างสม่ำเสมอเพื่อยกระดับฝีเท้าขึ้นไปอีก แต่กลายเป็นว่าเขาต้องนั่งสำรองบ่อยครั้ง
ว่ากันว่าฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ เบเยริน ตัดสินใจได้แน่วแน่ว่าต้องโบกมืออำลา อาร์เซน่อล คือเกมเปิดสนามฤดูกาลล่าสุดที่ "ปืนใหญ่" ออกไปพ่ายต่อ เบรนท์ฟอร์ด 0-2
เขาเป็นสำรองของ คาลั่ม แชมเบอร์ส แต่ในช่วงท้ายเกมที่ อาร์เตต้า เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายลงสนามและถอด แชมเบอร์ส ออก คนที่ถูกเลือกลงเล่นกลับเป็นแบ็กซ้ายตัวใหม่อย่าง นูโน่ ตาวาเรส
เบเยริน รวมถึง เซดริก โซอาเรส และอีกคนที่เล่นแบ็กขวาได้อย่าง เอนส์ลีย์ เมทแลนด์-ไนลส์ ต่างนั่งตาละห้อยอยู่ข้างสนามเพราะไม่ถูกเลือก
นั่นเท่ากับว่า แบ็กขวาในทีม 3 คนในทีม อาร์เซน่อล ตอนนี้ไม่มีใครดีพอได้อยู่ในสนามแม้แต่คนเดียวในสถานการณ์ที่ทีมกำลังกดดันและต้องการทำประตูคืนให้ได้
เมื่อ เบเยริน ตัดสินใจได้แล้วว่าต้องไปเพื่อโอกาสที่ดีกว่า อีกทั้งคาดหวังถึงการติดทีมชาติสเปนไปลุยศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ในปลายปีหน้า เขาจึงแจ้งความจำนงของตัวเองให้ มิเกล อาร์เตต้า รวมถึง เอดู ผู้อำนวยฝ่ายเทคนิครับทราบ
สิ่งที่ เบเยริน เริ่มไม่พอใจกับสถานการณ์ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ คือการที่สโมสรไม่เปิดทางให้ได้ย้ายง่ายๆ หากไม่ได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ
อดีตเยาวชน บาร์เซโลน่า เหลือสัญญากับ อาร์เซน่อล อีก 2 ปี และคิดว่าถึงเวลาที่ต้องแยกทางกับสโมสร เขาพร้อมหั่นค่าเหนื่อยเพื่อโอกาสได้ย้ายไปทีมใหม่ได้ง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล เคยเจรจากับ อินเตอร์ มิลาน ในการปล่อยตัว เบเยริน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ขณะเดียวกันก็มีความสนใจจากทีมอื่นด้วยแต่ทีมปืนใหญ่ยังไม่ได้ข้อเสนอที่ต้องการ และด้วยตลาดนักเตะที่ได้รับผลกระทบจากโควิดก็ยิ่งทำให้การจัดการไม่ได้ง่ายขึ้น
ในตอนนั้น อินเตอร์ น่าจะเป็นทีมเดียวที่พร้อมดึง เบเยริน ไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวพ่วงเงื่อนไขซื้อขาด หรือเงื่อนไขบังคับซื้อขาดขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ทำกันไว้ แต่ อาร์เซน่อล ต้องการขายขาดทันทีหรือยืมตัวพ่วงบังคับซื้อขาดเพื่อการันตีได้เงินเข้าสโมสรแน่ๆ
แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ อินเตอร์ จึงไปคว้า เดนเซล ดุมฟรีส์ แบ็กขวาตัวเก่งทีมชาติฮอลแลนด์ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในศึกยูโร 2020 ที่ผ่านมา
เดิมที อาร์เตต้า ต้องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแบ็กขวาอยู่แล้วเพราะอยากได้ตัวเลือกใหม่ที่มีคุณภาพขึ้น แต่ในเมื่อไม่ได้ข้อเสนอตามที่ต้องการในการปล่อยตัว เบเยริน ออกไป การปรับเปลี่ยนตรงนี้ก็เลยไม่เกิดขึ้นเสียทีทั้งที่ฤดูกาลใหม่เปิดฉากแล้ว
หนึ่งในไอเดียคือแลกตัวกับ เอแมร์ซอน โรยัล แบ็กขวาทีมชาติบราซิลวัย 22 ปีของ บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งลงสนามพบ เรอัล โซเซียดาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าในตอนนี้ เช่นเดียวกับความสนใจในตัว คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษของ แอตเลติโก มาดริด
เบเยริน ลงสนามให้ อาร์เซน่อล ไปแล้ว 239 นัดนับตั้งแต่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในลอนดอนเหนือตั้งแต่ปี 2011 ได้แชมป์เอฟเอ คัพ ร่วมกับทีม 3 สมัยในปี 2015, 2017 และ 2020 รวมไปถึง คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อีก 3 สมัย
แม้ข้อเสนอที่ อาร์เซน่อล ต้องการจะยังมาไม่ถึง แต่สำหรับ เอคตอร์ เบเยริน เขาเริ่มนับถอยหลังเพื่อปิดฉากช่วงเวลา 10 ปีกับสโมสรเป็นที่เรียบร้อย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT