คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก
ฤดูกาลที่แล้ว อันโตนิโอ คอนเต้ พาทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกก่อนจบฤดูกาล และเกือบฟาดดับเบิ้ลแชมป์ด้วยซ้ำหากไม่พ่ายต่ออาร์เซน่อลในรอบชิงฯ เอฟเอ คัพ
แต่ฤดูกาลนี้ มาตรฐานของทีมตกลงอย่างมาก พวกเขาเพิ่งตกรอบคาราบาว คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ในลีกก็ตามหลังแมนฯ ซิตี้ ถึง 15 คะแนน โอกาสป้องกันแชมป์แทบเลือนราง
ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีงานหนักกับบาร์เซโลน่ารออยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงต้องเหนื่อยรากเลือดหากคิดฝันถึงแชมป์
แต่ที่ดูจะเป็นระเบิดเวลามากที่สุดคือ ความไม่ลงรอยของ คอนเต้ กับ บอร์ดบริหารบางคนที่เป็นลิ้วล้อสำคัญของ โรมัน อบราโมวิช
หลายต่อหลายครั้งที่กุนซือชาวอิตาเลียนมักออกมาบ่น หรือไม่ก็โยนคำตอบเรื่องการเสริมทัพว่าเป็นเรื่องของสโมสร
เป็นการคับข้องหมองใจที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีสิทธิ์ขาดในการควบคุมขุมกำลังของตัวเอง
ความสัมพันธ์ของ คอนเต้ กับ อบราโมวิช เริ่มไม่ราบรื่นอันเนื่องจากลิ่วล้อหลายคน
คอนเต้เองมักใช้คำว่า "The Club" เป็นสรรพนามแทนในทุกครั้งที่โดนถามถึงเรื่องซื้อขายว่าคืบหน้าไปถึงไหน
หลังเกมจบเอฟเอ คัพ ล่าสุด อดีตกุนซือยูเวนตุส ย้ำอีกครั้ง "ผมไม่รู้หรอกว่าอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับการซื้อขายเป็นอย่างไร มันอยู่ที่ทางสโมสรที่จะต้องพยายามทำให้มันเกิดขึ้น"
คอนเต้ เคยบ่นหนักๆ ในช่วงซัมเมอร์แล้วว่าทีมไม่สนับสนุนในการเสริมทัพเท่าที่ควร พอรู้ตัวกันอีกทีก็ต้องมาเร่งมือในช่วงท้ายของตลาดซื้อ-ขาย
แน่นอนว่าเป้าหมายที่แท้จริงก็พลาดไปหลายคน ขณะที่ตำแหน่งแบ็กซ้ายมาคอยแบ็กอัพ มาร์กอส อลอนโซ่ ก็หาไม่ทัน
ชัดเจนว่าเขาไม่มีส่วนในเรื่องซื้อขาย เรียกว่าไม่มีอำนาจใดๆ ดังนั้นน่าคิดว่าตั้งแต่เข้ามาคุมเชลซี มีนักเตะกี่คนที่เขาเลือกเองและอีกกี่คนที่โดนจับใส่ตระกร้ามาส่งให้ถึงหน้าบ้าน
ข่าวที่สิงโตสีน้ำเงินไปโยงกับกองหน้าอย่าง แอนดี้ แคร์โรลล์ และ ปีเตอร์ เคร้าช์ ก็ยังทำให้ยิ่งเกิดเครื่องหมายคำถามว่า "นี่ใช่เป้าหมายที่คอนเต้ต้องการจริงหรือ?”
กรณีแบบนี้เกิดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าในรั้วเดอะ บริดจ์ กรณีเด่นชัดสุดคือ ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ เสี่ยหมีไปลากเอา อังเดร เชฟเชนโก้ มาร่วมทีมทั้งที่ไม่ใช่ความต้องการของกุนซือโปรตุกีส
ย้อนไปถ้าจำกันได้ มีบางสื่อตีว่าเชลซีพร้อมกระโจนมาไล่ล่า อเล็กซิส ซานเชซ แข่งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย หากเรื่องที่ "วงใน" ยืนยันออกมามันเป็นแค่การพีอาร์ของทางสโมสรเพื่ออยากให้ คอนเต้ รู้สึกดีบ้างว่าอย่างน้อยก็ความพยายามที่จะดึงสตาร์ดังมาเสริม
มาริน่า กรานอฟสกาย่า (ขวา) สตรีผู้ทรงอิทธิพลในทีม
เจาะลีกลงไปถึงผู้ที่คานอำนาจ คอนเต้ อยู่ เธอเป็นผู้หญิงที่นิตยสารไทมส์ยกให้ว่าเป็น "สตรีที่มีอำนาจมากสุดในวงการฟุตบอล"
ชื่อของเธอคือ "มาริน่า กรานอฟสกาย่า"
ถ้าสังเกตกันช่วงหลังจะมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งนั่งประกบข้างๆ ยามนักเตะคนไหนเปิดตัวหรือต่อสัญญาใหม่
หน้าที่ของเธอมี 3 อย่างหลักๆ คือ ติดต่อเรื่องซื้อขาย, ควบคุมอะคาเดมี่พร้อมจัดหาแมวมอง และรายงานสายตรงถึง "เสี่ยหมี"
ไม่ใช่แค่ กรานอฟสกาย่า เชลซียังมีคนที่ "ส่งตรง" ถึง อบราโมวิช อีกสองรายได้แก่ บรู๊ซ บั๊ค และ ยูจีน เทเนนเบาม์ ว่ากันว่าทั้งสามคนนี้เป็นลิ่วล้อที่เสี่ยหมีไว้วางใจที่สุด
เชลซีประสบความสำเร็จมาตลอดรอบทศวรรษมานี้ พวกเขากวาดทุกถ้วยมาครอบครองหากสิ่งที่เราพบเจอเสมอก็คงหนีไม่พ้นวัฒนธรรมแบบเชลซี
ดังนั้นถ้า คอนเต้ ต้องไปไม่ว่าจะลาออกเองหรือโดนไล่ออก มันก็มีเหตุผลหลักเหมือนหลายคนก่อนหน้านี้
และระหว่างนี้จนถึงจบฤดูกาลหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบฟ้าผ่า เชลซี จะเดินไปในทิศทางใดกับเป้าหมายที่เหลืออยู่
ในลีกขออนุญาตตัดความเป็นไปได้ในการป้องกันแชมป์ไปเลยเพราะเป็นเรื่องยากถึงยากมากที่จะไล่กวดแมนฯ ซิตี้ ได้ทัน ไหนจะยังมี แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล และอาร์เซน่อล คอยขัดขวางทุกฝีก้าว
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญคือกุมภาพันธ์ต่อด้วยมีนาคมซึ่ง เชลซี ต้องลงสนามพบกับ บาร์เซโลน่า 2 นัด และคั่นกลางด้วยเกมลีกที่ต้องเจอ 2 ทีมจากแมนเชสเตอร์
อัลบาโร่ โมราต้า แบกเกมรุกคนเดียวไม่ไหว
เท่านั้นไม่พอยังสอดไส้ด้วยเกมกับ คริสตัล พาเลซ ซึ่งเคยแทงพวกเขาล้มกลิ้งมาแล้วในนัดแรกที่เจอกัน
กับสภาพเกมรุกตอนนี้ต้องยอมรับว่า ไม่ดุดันอย่างที่ควรจะเป็น อัลบาโร่ โมราต้า ยืนระยะในตำแหน่งหน้าเป้าคนเดียวไม่ไหว ขณะที่อะไหล่อยาง มิชี่ บาตชูอายี่ ก็ห่างชั้นเกินไป ภาระหนักจึงตกอยู่ที่ เอแด็น อาซาร์
7 นัดหลังสุดจากทุกรายการ ลูกทีมของ คอนเต้ เอาชนะคู่แข่งในเวลาปกติได้เพียงนัดเดียวคือ บุกชนะ ไบรท์ตัน 4-0 ที่เหลือลุ้นหืดจับถ้วนหน้า
เวลาที่เหลืออีกไม่ถึงสัปดาห์ คอนเต้ จะได้ในสิ่งที่ต้องการหรือไม่เพื่อทีมที่แข็งแกร่งขึ้น
หากยังเป็นแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา คนที่ยอมหักไม่ยอมง้อแบบเขาก็คงต้องโบกมือลา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT