:::     :::

Arsenal Redemption : ช่วงเวลา'ไถ่บาป'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กรานิต ชาก้า เคยเกือบหมดอนาคตกับ อาร์เซน่อล จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมพบ คริสตัล พาเลซ เมื่อสองปีก่อน

ย้อนไปในวันที่ 27 ตุลาคม 2019 ชาก้า ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงหลังแสดงกิริยาไม่เหมาะสมตอบโต้แฟนบอลปืนใหญ่ที่โห่ใส่ระหว่างถูกเปลี่ยนตัวออก 

กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์คุมอารมณ์ไม่อยู่ตอบโต้คืนด้วยการทำท่าเอามือป้องหูและสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายกลับคืน "f**k off" ก่อนถอดเสื้อแข่งทิ้งแล้วเดินหายเข้าอุโมงค์ไปทันที

ก่อนหน้านั้นหนึ่งเดือน ชาก้า เพิ่งได้รับเลือกจาก อูไน เอเมรี่ กุนซือปืนใหญ่ในเวลานั้นให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่แทนที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ที่ย้ายออกไป ทว่าวีรกรรมอื้อฉาวในเกมกับพาเลซ คือสิ่งที่แฟนบอลรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง

แฟนบอลเรียกร้องให้ปลด ชาก้า ออกจากตำแหน่งกัปตันทีม และมีอีกไม่น้อยที่ต้องการให้สโมสรเฉดหัวทิ้งออกจากทีม เรียกได้ว่าปฏิกิริยาของหลายคนในตอนนั้น "ไม่เผาผี" กันเลยทีเดียว

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของ กรานิต ชาก้า กับแฟนบอลปืนใหญ่เดินทางมาถึงจุดแตกหักคือ แฟนบอลไม่ได้ชื่นชอบสไตล์การเล่นของ ชาก้า เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขามักได้ใบเหลือง-ใบแดงแบบไม่จำเป็นจากการเข้าบอลที่ถูกมองว่า "ไม่ฉลาด" และส่งผลเสียต่อทีม จากที่ควรเป็นที่พึ่งให้กับรุ่นน้องหลายคน กลับกลายเป็นภาระซะเอง 

"ผมชอบเข้าแท็กเกิ่ล แต่ก็ต้องแบบแฟร์ๆ ผมไม่ได้อยากเห็นใครบาดเจ็บหรอก และผมก็คิดว่าไม่มีใครคิดแบบนั้น"

"การเข้าแท็กเกิ่ลเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่เรา พาสชั่นของผมคือการเอาชนะและไม่ปล่อยคู่แข่งได้เล่นบอล เราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ที่ผิดพลาดได้" ชาก้า กล่าวถึงสไตล์การเล่นของตัวเอง 


แอ็กชั่นที่เกือบเป็นฉากสุดท้ายกับทีม

ชาก้า หลุดจากทีม 3 นัดติดต่อกันก่อนที่ในเวลาต่อมา อาร์เซน่อล จะประกาศปลดเขาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมในเดือนพฤศจิกายน ในสถานการณ์ตอนนั้นใครต่อใครก็คิดว่าอดีตกองกลาง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค จะถูกขายทิ้งแน่นอนในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม

ทว่าการมาของ มิเกล อาร์เตต้า ที่เข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่แทนที่ เอเมรี่ ก็ทำให้สถานการณ์ของ กรานิต ชาก้า เปลี่ยนไป กุนซือหนุ่มเลือกจะให้โอกาสอดีตกัปตันรายนี้อีกครั้งจนกระทั่งเริ่มกลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีมได้อีกรอบ 

"เขาเปลี่ยนแปลงผมและให้โอกาสผมรอบสอง เขาเชื่อมั่นในตัวผม ดังนั้นผมจึงพยายามตอบแทนเขากลับคืนในทุกสิ่งทุกอย่าง" ชาก้า กล่าวถึงจุดเปลี่ยนที่ได้รับจาก อาร์เตต้า

ชาก้า ช่วยทีมคว้าแชมป์เอฟอ คัพ ได้ในปี 2020 และยังคงเป็นแกนหลักของทีมต่อเนื่องในฤดูกาล 2020/21 ที่ลงสนามรวม 45 นัดในทุกรายการซึ่งในบรรดานักเตะตำแหน่งเอาต์ฟิลด์ด้วยกันก็มีเพียง บูคาโย่ ซาก้า ที่ลงเล่นมากกว่า (46 นัด)

ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ชาก้า ตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างหนักหลังได้รับความสนใจจาก โรม่า ที่เพิ่งได้ โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือคนใหม่ แต่จนแล้วจนรอด ทั้้งสองสโมสรก็ไม่สามารถตกลงค่าตัวกันได้และทำให้กองกลางชาวสวิสต้องอยู่ค้าแข้งในลอนดอนต่อไป

ชาก้า กลับมาเอาชนะใจแฟนบอลได้พอสมควรจากเหตุการณ์ตอบโต้แฟนบอล แม้บางส่วนจะไม่ให้อภัยกับสิ่งที่เคยทำในอดีต ทว่าในทุกครั้งที่เขาลงสนามก็ยังคงเต็มที่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงใบเหลือง-ใบแดงที่เป็นเหมือนของคู่กันไปแล้ว 

"ตอนที่ผมมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ทุกคนต่างบอกว่านายเข้าหนักๆ ได้เลยซึ่งผมชอบนะ แต่เมื่อคุณดูการเข้าแท็กเกิ้ลในบางจังหวะและนึกว่าหากเป็นผมอยู่ตรงนั้น? ผมจะถูกไล่ออกในทันทีแน่นอน มันทำให้บางครั้งผมก็เล่นอย่างที่ต้องการจริงๆ ไม่ได้" 

"หากผมเข้าบอลอย่างที่ต้องการจริงๆ ผมจะได้ใบแดงทุกๆ 3 หรือ 4 เกม หากผมเสี่ยงเล่นแบบนั้น ผมจะมีโอกาสได้ใบแดงมากกว่าคนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก ผมอาจเป็นคนผิดเอง แต่นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึก ดังนั้นในบางครั้งผมก็ไม่เข้าบอลแบบคาบลูกคาบดอกมากเกินไปนัก"


กลับมาได้อีกครั้งเพราะ อาร์เตต้า

"ตอนที่ผมได้ใบแดง ผู้ตัดสินบอกกับหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมผมว่า 'นายก็รู้ว่า กรานิต เป็นยังไง เขาสติแตกไปแล้ว' ยกตัวอย่างเช่นผมคุมอารมณ์ไม่อยู่ในเกมกับเบิร์นลีย์ มันก็ไม่ใช่ว่าผมจะสติหลุดไปเสียทุกเกม  ผมคิดว่าการมาตีตราผมแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิด" ชาก้า ตัดพ้อถึงสิ่งที่หลายคนมองมาที่เขา

หลังเกือบย้ายออกจากทีมถึงสองรอบแต่สุดท้ายก็ยังปักหลักต่อไป อาร์เซน่อล จับ ชาก้า ต่อสัญญาออกไปจนถึงปี 2024 และตอนนี้เขาก็ถูกพูดถึงอีกครั้งในฐานะหนึ่งในตัวเลือกกัปตันทีมคนใหม่หลังสโมสรปลด ปิแอร์-เอเมแอริค โอบาเมย็อง ออกจากตำแหน่ง

"ผมรู้สึกดีมากๆ ในห้องแต่งตัว ผมคิดว่าตัวเองแตกต่างออกไปเมื่ออยู่นอกสนาม ผมชอบเรื่องตลก ได้หัวเราะสุดเสียง แต่ในสนามผมก็เต็มไปด้วยพาสชั่น ผมไม่สามารถเปลี่ยนตรงนี้ได้ ผมหวังว่าคนอื่นจะเข้าใจผมขึ้นอีกสักนิด" 

"ผมไม่เคยมีปัญหากับใครบนท้องถนน ผู้คนต่างดีกับผม แน่นอนว่าบางคนก็พูดอีกแบบ แต่นั่นก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต ผมเคยพบเจอความยากลำบากมาก่อน แต่ไม่ใช่ในแบบนี้"

หลังเกิดเรื่องแตกหักกับแฟนบอลช่วงแรก ชาก้า ออกมาเปิดเผยว่าที่ผ่านมา แฟนบอลบางส่วนล้ำเส้นคุกคามครอบครัวอย่างหนักซึ่งเขากลางมีลูกตัวเล็กๆ ด้วย สุดท้ายจึงปะทุออกมาเป็นการตอบโต้แฟนบอล

"หลังเกิดเรื่องราวเมื่อสองปีก่อน เราต่างห่างเหินกันมากๆ ผมคิดว่าตอนนี้เรากลับมาใกล้ชิดกันมากขึ้นทีละนิด ผมไม่ได้บอกว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด แต่สิ่งที่ผมบอกกับทุกคนตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่ผมอยู่ที่นี่คือ ผมจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้"

"ผมคงทำผิดพลาดอีกเหมือนเช่นทุกคนเพราะผมไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมจะทุ่มเท 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน นี่คือสิ่งที่ผมอยากบอกกับแฟนๆ"


พร้อมลุยไปกับทีม

"บางครั้งคุณเข้าใจผิดได้ ผมเชื่อว่านี่คงเป็นเหตุผลเดียวสำหรับปัญหาที่เรามีระหวางกัน ผมรู้สึกว่าได้รับความรักมากขึ้นกว่าหนึ่งหรือสองปีที่แล้ว มันต้องค่อยเป็นค่อยไปในสิ่งที่เราปฏิบัติต่อกัน"

"ในท้ายที่สุด ผมก็มองให้เป็นด้านบวกมากๆ และหากวันหนึ่งโชคดีผมได้คุยกับลูกๆ ของผม ผมรู้ว่าผมจะสามารถยิ้มได้เพราะว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้นและผูกพันธ์กับสโมสรฟุตบอลยิ่งขึ้น"

จากที่เคยเกือบเป็นอดีตชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แต่สำหรับ กรานิต ชาก้า แล้ว ช่วงเวลาสองปีเต็มที่ผ่านมาก็คงไม่ต่างจากการ "ไถ่บาป" ในสิ่งที่เคยผิดพลาดเพื่อกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของ อาร์เซน่อล อีกครั้ง


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด