'โอบา' ปิดฉาก 4 ปีกับปืนใหญ่
เป็นเวลา 4 ปีเต็มที่ โอบาเมย็อง เล่นให้ อาร์เซน่อล นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเดือนมกราคม ปี 2018
หัวหอกวัย 32 ปี ลงเล่นให้ "ปืนใหญ่" นัดสุดท้ายในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่แล้ว และไม่ได้ลงเล่นอีกเลยเกือบสองเดือนก่อนแยกทางกันในที่สุด
อาร์เตต้า ตัดสินใจไม่ใช้งาน โอบาเมย็อง อีกเลยนับตั้งแต่ดร็อปออกจากทีมเนื่องด้วยปัญหาระเบียบวินัยและริบปลอกแขนกัปตันในเวลาต่อมา
"ปืนใหญ่" ต้องจ่ายเงินชดเชย 7 ล้านปอนด์สำหรับยกเลิกสัญญาที่เหลืออีก 18 เดือน แต่ทีมดังแห่งลอนดอนเหนือก็ยอมเพราะคำนวณดูแล้วว่า "คุ้ม
หากเจ้าตัวอยู่ต่อและรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ตามสัญญาที่เซ็นกันไว้ ทีมปืนใหญ่ก็จะเสียเงินรวมประมาณ 27 ล้านปอนด์
การยอมจ่าย 7 ล้านปอนด์ในตอนนี้เพื่อให้ทุกอย่าง "จบ" จึงเป็นทางเลือกที่ อาร์เซน่อล คิดว่าดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน
แถลงการณ์จาก อาร์เซน่อล ระบุว่า "เราขออวยพรให้ โอบา โชคดีกับบทใหม่ในอาชีพนักฟุตบอล และขอขอบคุณที่ทุ่มเทให้สโมสรมาโดยตลอด"
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โอบาเมย็อง ถือเป็นนักเตะคนสำคัญของ อาร์เซน่อล และในบางช่วงบางเวลาก็สำคัญที่สุดในทีม
ย้ายมาในปีสุดท้ายก่อน เวนเกอร์ วางมือ
หัวหอกทีมชาติกาบองลงสนามให้ อาร์เซน่อล ทั้งหมด 163 นัดจากทุกรายการ ยิงได้ 92 ประตูและทำอีก 21 แอสซิสต์
ในฤดูกาล 2018/19 ที่เป็นการเล่นพรีเมียร์ลีกเต็มฤดูกาลครั้งแรก โอบาเมย็อง ยิงได้ 22 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ ลิเวอร์พูล
นับตั้งแต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ย้ายออกไปในปี 2012 โอบาเมย็อง ก็เป็นแข้งปืนใหญ่คนแรกที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ "โอบา" ยังทำสถิติยิงในพรีเมียร์ลีกได้ครบ 50 ประตูในเวลาเพียง 79 นัด เร็วสุดในประวัติศาสตร์สโมสร อาร์เซน่อล เหนือกว่า เธียร์รี่ อองรี ตำนานดาวยิงชาวฝรั่งเศสที่เคยใช้เวลา 83 นัดในการยิงให้ถึงครึ่งร้อย
นี่คือสถิติส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม
ผลงานการยิงประตูของ โอบาเมย็อง มีส่วนในความสำเร็จของทีมที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มาครองในปี 2020
โอบาเมย็อง เหมายิงทั้งสองประตูในรอบตัดเชือกที่ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 และอีกสองประตูในรอบชิงชนะเลิศที่ชนะ เชลซี 2-1 ก่อนซัดหนึ่งในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 และเป็น "ปืนใหญ่" คว้าแชมป์ด้วยการชนะจุดโทษ
นั่นเท่ากับว่าใน 3 นัดที่เล่นในเวมบลีย์ โอบาเมย็อง ยิงไปได้ 5 ประตู มากกว่านักเตะ อาร์เซน่อล ทุกคนที่เคยทำได้
อย่างไรก็ตาม ผลงานของอดีตกองหน้า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กลับดร็อปลงชัดเจนหลังต่อสัญญาฉบับใหม่ในเดือนกันยายนปี 2020 จากที่เคยยิงในลีก 22 ประตูใน 2 ฤดูกาลติดต่อกันก็เหลือเพียง 10 ประตูเท่านั้นในฤดูกาล 2020/21
คว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกมาครองหนึ่งสมัย
นอกจากนี้ก็มีปัญหาในเรื่องระเบียบวินัยหลายครั้งจนทำไม่ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องและส่งผลต่อผลงานในสนาม
ฟอร์มการถล่มประตูที่ตกต่ำน่าใจหายและระเบียบวินัยที่หย่อนยานกลายเป็น 2 จุดหลักที่ โอบาเมย็อง โดนวิจารณ์ และการที่รับค่าเหนื่อยก้อนโตก็ยิ่งทำให้ความกดดันถาโถมเข้าใส่มากยิ่งขึ้น
ท้ายที่สุด อาร์เซน่อล จึงเจรจากับ โอบาเมย็อง เพื่อยกเลิกสัญญาที่เหลืออยู่และเปิดทางให้ย้ายฟรีเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับ บาร์เซโลน่า
หัวหอกประสบการณ์สูงยอมรับว่าความขัดแย้งที่เขามีกับ มิเกล อาร์เตต้า คือชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้อาชีพค้าแข้งกับปืนใหญ่ต้องจบลง
"ช่วงเวลา 2-3 เดือนสุดท้ายของผมกับ อาร์เซน่อล น่ะไม่ง่ายเลย แต่ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ผมไม่อยากทำผิดอะไรทั้งนั้นในช่วงที่ผ่านมา แต่เรื่องก็เป็นอดีตไปแล้ว และผมอยากคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน"
"ปัญหาเดียวของผมคือ อาร์เตต้า ผมพูดอะไรมากไม่ได้ เอาเป็นว่าผมไม่มีความสุข เขาคือคนตัดสินใจ เขาไม่พอใจมากๆ ส่วนตัวผมน่ะยังใจเย็นอยู่"
ช่วงเวลา 4 ปีกับ อาร์เซน่อล จึงจบลงอย่างน่าเศร้าและไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น
ในช่วงที่ทุกอย่างไปได้ดี โอบาเมย็อง สร้างความสุขให้กับแฟนบอลปืนใหญ่นับครั้งไม่ถ้วนกับประตูที่ทำได้เป็นกอบเป็นกำ
และในช่วงที่ทุกคนทนทุกข์กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 โอบาเมย็อง ก็คือคนที่มอบความสุขให้กับสาวกกันเนอร์สทั่วโลกด้วยการพาทีมเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ
พาทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2020
การไม่ได้กล่าวอำลาแฟนบอลในสนามจึงเป็นสิ่งที่เจ้าตัวเองก็เจ็บปวดอย่างที่เจ้าตัวว่าเอาไว้
โอบาเมย็อง กล่าวอำลาแฟนบอลปืนใหญ่ก่อนย้ายไปเริ่มต้นใหม่ที่คัมป์ นูว่า "ขอบคุณสำหรับการทำให้ลอนดอนเป็นบ้านสำหรับผมและครอบครัวของผมตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เราผ่านช่วงเวลาทั้งดีและแย่มาร่วมกัน และการสนับสนุนของพวกคุณก็มีความหมายกับผมอย่างยิ่ง"
"การมีโอกาสคว้าถ้วยรางวัลต่างๆ และได้รับเกียรติให้เป็นกัปตัมทีมของสโมสรแห่งนี้คือสิ่งที่ผมจะอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป"
"ผมมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำทุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์อยู่เสมอ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้การต้องแยกทางกันโดยไม่ได้ร่ำลาแบบจริงจังมันน่าเจ็บปวดมากๆ แต่ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้
"ผมเสียใจที่ไม่ได้ช่วยเพื่อนร่วมทีมของผมในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากการให้ความเคารพต่อสโมสรแห่งนี้ และขออวยพรให้เพื่อนๆ ทุกคนรวมทั้งแฟนๆ โชคดี และประสบความสำเร็จในอนาคต"
ไม่มีงานเลี้ยงใหญ่ใดๆ ส่งท้าย โอบาเมย็อง เดินออกจาก อาร์เซน่อล แบบเงียบๆ ราวกับเดินออกประตูหลังเหมือนเช่น เมซุต โอซิล ที่เคยเป็นขวัญใจแฟนบอลและชะตาชีวิตพลิกผันจนลงเอยด้วยการถูกยกเลิกสัญญาเช่นกัน
ลีลาแบบนี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
ไม่มีเหตุผลให้ต้องไปไล่บี้ย้อนหลังว่า "ใครถูกใครผิด" กับการที่ โอบาเมย็อง และ อาร์เซน่อล ต้องแยกทางกันแบบนี้
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการได้นึกถึงช่วงเวลาที่ดีร่วมกันและจดจำเอาไว้ว่าครึ่งหนึ่ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง เคยสร้างความสุขมากมายให้กับหลายคน
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอกก็คือ ขอบคุณและขอให้โชคดีกับการเริ่มต้นใหม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT