ปืนใหญ่ไปยุโรป!!!
เป็นสถานการณ์ที่พลิกผันอย่างมากเมื่อเทียบกันระหว่างหลังจบเกมที่พ่ายต่อ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อกลางเดือนเมษายน กับชัยชนะล่าสุดเหนือ เวสต์แฮม 2-1 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล จบเพียงอันดับ 8 ของตารางและไม่ได้แชมป์บอลถ้วยใดๆ ทำให้ไม่ได้เล่นในรายการยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
ขณะที่ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้ มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมออกตัวย่ำแย่แพ้รวด 3 นัดและยิงไม่ได้เลย ทีมจมอยู่บ๊วยของตาราง ราศีหม่นหมองสุดๆ
ทว่าในตอนนี้สามารถการันตีไปเล่นในถ้วยยูโรปา ลีก ได้เป็นอย่างน้อย และมีลุ้นถึงถ้วยใหญ่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ใน 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล
ชัยชนะล่าสุดที่รังขุนค้อนถือว่าสำคัญมากเพราะเป็นการชนะคู่แข่งที่ลุ้นโควตายุโรปด้วยกัน
ในทางทฤษฎี เวสต์แฮม ยังมีลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์หากชนะ อาร์เซน่อล ได้ แต่ในทางปฏิบัติก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ "เป็นไปได้ยาก"
นอกจากนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโฟกัสของขุนค้อนไปอยู่ที่รายการยูโรปา ลีก ด้วยเพราะหากคว้าแชมป์ได้ก็จะได้ตั๋วพิเศษไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า
ขุนค้อนสามารถลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ผ่านการเป็นแชมป์ยูโรปา ลีก ได้ง่ายกว่าการลุ้นในลีกที่สถานการณ์เสียเปรียบ อาร์เซน่อล, สเปอร์ส และ แมนฯ ยูไนเต็ด
ด้วยโปรแกรมคาบเกี่ยวกับรอบตัดเชือกยูโรปา ลีก การจัดทัพของ เดวิด มอยส์ จึงทำได้ไม่ง่าย อีกทั้งมีปัญหาผู้เล่นขาดหายบาดเจ็บหลายคนโดยเฉพาะแนวรับที่เหลือเซนเตอร์เพียงคนเดียวคือ เคิร์ท ซูม่า
คู่เซนเตอร์ทำคนละประตู
มอยส์ จึงขยับ อารอน เครสส์เวลล์ เข้ามายืนเซนเตอร์ร่วมกับ ซูม่า และให้ ไรอัน เฟรเดริคส์ เล่นแบ็กซ้ายแทน ส่วนฝั่งขวาเป็น วลาดิเมียร์ ชูฟาล ขณะที่แนวรุกดร็อป มิคาอิล อันโตนิโอ ที่ฝืดมาหลายนัดช่วงหลังเป็นเพียงสำรอง จาร์ร็อด โบเว่น ถูกดันขึ้นไปเล่นหน้าเป้า
ส่วน อาร์เซน่อล มีข่าวดีได้ บูคาโย่ ซาก้า ที่เจ็บมาจากเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟิตทันลงตัวจริง ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ เป็นอีกรายที่ได้ออกสตาร์ทหลังคัมแบ็กรอบสามเดือนในฐานะสำรองนัดกับผีแดง
เบน ไวท์ หลุดโผเพราะบาดเจ็บ แต่ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ได้เล่นแทนก็กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในเกมนี้
ผู้เล่นหลายคนของ เวสต์แฮม เพิ่งผ่านเกมหนักในยุโรปมาหมาดๆ แต่ก็ยังลุยเต็มที่ ไม่มีอาการเหนื่อยล้าให้เห็น รูปเกมโดยรวมตลอดครึ่งแรกดีกว่าปืนใหญ่นิดๆ จังหวะการเล่นคึกคักตามแรงเชียร์ของแฟนบอลตัวเองในสนาม
ปืนใหญ่ฉวยโอกาสนำก่อนจากลูกเตะมุมที่ โฮลดิ้ง โขกเช็ดส่งบอลเข้าเสาไกล จังหวะนี้แนวรับเวสต์แฮมยืนป้องกันไม่ดี โฮลดิ้ง ไม่เคยทำประตูในพรีเมียร์ลีกมาก่อนเลยในชีวิต แต่ปลดล็อกได้
ในหลายครั้งฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล มีปัญหากับการรักษาสกอร์นำ และมันเกิดขึ้นอีกเมื่อปล่อยให้ เวสต์แฮม ตามตีเสมอในไม่กี่นาทีหลังขึ้นนำ
เกมรับฝั่งซ้ายที่เป็นพื้นที่ของ นูโน่ ตาวาเรส หละหลวมอีกครั้งปล่อยให้ วลาดิเมียร์ ชูฟาล มีเวลาและพื้นที่สำหรับเปิดบอลยัดเข้าเขตโทษไปให้ จาร์ร็อด โบเว่น จับแล้วกระโดดยิงเข้าไป
ในครึ่งหลัง ลูกเตะมุมทำให้ อาร์เซน่อล นำอีกครั้ง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เก็บตกจังหวะสองก่อนโยนกลับไปให้ กาเบรียล มากัลเญส โหม่งตรงตัว ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ ซึ่งด้วยความแรงทำให้บอลทะลักเข้าประตูไป
เวสต์แฮม ทำได้ดีในหลายอย่าง แต่พลาดอย่างเดียวคือการรับมือลูกโด่งที่เสียประตูแรกไปแล้ว แต่ก็ยังป้องกันประตูที่สองไม่ได้
อาร์เซน่อล คอนโทรลเกมได้ดีขึ้นหลังได้ประตูที่สอง แม้การครองบอลจะเป็นฝั่ง เวสต์แฮม ที่พยายามต่อบอลมากขึ้นเพื่อหาทางตีเสมอให้ได้ แต่โอกาสลุ้นประตูน้อยกว่าครึ่งแรกชัดเจน
เอ็นเคเทียห์ หาโอกาสได้เพียบแต่ไร้โชค
ในทางกลับกัน เมื่อ อาร์เซน่อล ตัดบอลในแดนตัวเองก็เลือกวางยาวไปให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เก็บบอลข้างหน้าซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนร่วมทีมเติมขึ้นไม่ทัน เอ็นเคเทียห์ จึงเลือกยิงเอง
หัวหอกดาวรุ่งมีโอกาสลุ้นยิงถึง 6 ครั้งในเกมนี้ เข้ากรอบ 4 ครั้ง แต่ไม่เป็นประตู
เวสต์แฮม มีสัดส่วนครองบอลครึ่งหลังเพิ่มมากขึ้น แต่จังหวะเข้าทำไม่ได้ทะลุทะลวงและอันตรายแบบครึ่งแรก ทำให้ 45 นาทีหลังได้ยิงเพียง 2 ครั้งและไม่เข้ากรอบเลย ต่างจาก อาร์เซน่อล ที่ได้ลุ้นยิง 9 ครั้ง และเข้ากรอบ 5 ครั้ง
ช่วง 20 นาทีสุดท้าย การเล่นของ เวสต์แฮม ดร็อปลงชัดเจน ไม่ได้คึกคัก วิ่งลุยแหลกเหมือนช่วงแรก ความสดความฟิตหายไป หรือบางทีพวกเขาอาจจะมองไปถึงเกมหน้าในถ้วยยุโรปที่ต้องชี้ชะตาว่าจะได้เข้าชิงยูโรปา ลีก หรือไม่
ปกติเวลา อาร์เซน่อล นำห่างประตูเดียวไม่มีทางอื่นใจได้ แต่หลังได้ประตูนำ 2-1 พวกเขาไม่ได้ถูกกดดันมากนัก และหากลูกยิงของ เอ็นเคเทียห์ หนักหน่วงหรือทิศทางดีกว่านี้อีกนิด ก็น่านำห่างแบบสบายๆ 2-3 ประตูได้อีก
อาร์เซน่อล จึงปิดจ๊อบด้วยชัยชนะ 2-1 ที่ทำให้ชนะ 3 นัดติด และรักษาอันดับ 4 เอาไว้ได้อีกสัปดาห์ และการชนะคู่แข่งในกลุ่มลุ้นโควตายุโรปด้วยกันก็เห็นผลต่างมากกว่าปกติ
ทีมปืนใหญ่จะไม่มีทางหลุด 6 อันดับแรกอย่างแน่นอนในอีก 4 นัดสุดท้ายเพราะมี 63 คะแนน ขณะที่ขุนค้อนมีเพียง 52 คะแนน ไม่มีทางแซงหน้าได้เนื่องจากเหลือโปรแกรมลงเล่นอีก 3 นัด
มิเกล อาร์เตต้า ทำตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จคือการพาทีมกลับไปเล่นในยุโรป ตอนนี้กำตั๋วยูโรปา ลีก ในมือได้แล้ว และมีลุ้นรางวัลชิ้นใหญ่ขึ้นใน 4 นัดสุดท้าย
"ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ที่คงทำให้หลายคนอ้าปากค้างแน่นอนหาก อาร์เซน่อล ทำได้จริงๆ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT