:::     :::

วันปืน(ดวง)แตก

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ยังไม่สามารถปิดจ๊อบคว้าตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าได้ ขณะเดียวกันกลับเป็น สเปอร์ส ที่เพิ่มความหวังให้ตัวเองได้อย่างมากหลังได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ หนล่าสุด

อาร์เซน่อล ยังไม่สามารถปิดจ๊อบคว้าตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าได้ ขณะเดียวกันกลับเป็น สเปอร์ส ที่เพิ่มความหวังให้ตัวเองได้อย่างมากหลังได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ หนล่าสุด

ก่อนลงสนาม "ปืนใหญ่" มีโอกาสอยู่ในมือกับเงื่อนไขไม่ซับซ้อน ขอแค่บุกชนะคู่ปรับตลอดกาลให้ได้ ทุกอย่างก็จบทันที ไม่ต้องไปลุ้นในอีก 2 นัดสุดท้าย

ทว่า มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมทำไม่ได้ แถมแพ้แบบหมดสภาพอีกด้วย

อาร์เตต้า ไม่ได้เปลี่ยนทีมจากนัดบุกชนะ ลีดส์ สุดสัปดาห์ที่แล้วหลังได้ บูคาโย่ ซาก้า ฟิตทันลงตัวจริง ส่วน เบน ไวท์ ยังฟิตไม่เต็มที่จึงมีชื่อเป็นเพียงสำรอง ร็อบ โฮลดิ้ง ได้ลุยอีกนัดในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก

ส่วน สเปอร์ส ของ อันโตนิโอ คอนเต้ วางสามแนวรุกตัวเก่ง แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ลงเล่นร่วมกัน แต่แนวรับปรับกะทันหันเนื่องจาก คริสเตียน โรเมโร่ บาดเจ็บ ดาวินซอน ซานเชซ จึงได้เล่นแทน

อาร์เซน่อล มาแบบตั้งใจมองถึงชัยชนะเพื่อจบท็อปโฟร์ให้ได้ จังหวะการต่อบอลทำเกมรุกดีกว่าเจ้าถิ่นนิดๆ ทว่ากลางครึ่งแรกเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อเป็น สเปอร์ส ที่ได้จุดโทษ

คูลูเซฟสกี้ โยนบอลเข้าเขตโทษ ซน ฮึง-มิน กระโดดขึ้นโหม่งพร้อมกับมี เซดริก โซอาเรส กระแทกจากด้านหลัง ผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ เป่าจุดโทษแบบไม่ลังเล 

จังหวะนี้ผู้ตัดสินบางคนอาจไม่ให้ประตูหรือไม่ก็ต้องหยุดเกมขอเช็ควีเออาร์ด้วยตัวเอง แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่คงมองเหมือนกับ เทียร์นีย์ ที่เห็นว่าตำแหน่งของ ซน มีโอกาสขึ้นโหม่งได้ ต่างจาก เซดริก ที่อยู่ด้านหลังชัดเจน เหลี่ยมมุมแบบนี้มักเข้าทางผู้เล่นฝ่ายรุก และมือสังหาร แฮร์รี่ เคน ไม่พลาดกับการยิงทีมเก่าสมัยเยาวชนได้อีกครั้ง


โฮลดิ้ง ทำฟาวล์ ซน จนโดนไล่ออก

โมเมนตัมเหวี่ยงเข้าทาง สเปอร์ส ต่อเนื่องเมื่อ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ติดเหลืองอยู่แล้วตั้งใจชักศอกใส่ ซน ฮึง-มิน ที่เตรียมวิ่งไปรับบอลยาว ผู้ตัดสินจึงแจงใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงทันที

จังหวะนี้ โฮลดิ้ง ไม่ควรเล่นด้วยประการทั้งปวง ตัวเองได้ใบเหลืองไปก่อนแล้วยิ่งต้องระมัดระวัง แถมจังหวะเปิดบอลโด่งของ สเปอร์ส ก็จะล้นออกหลังอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปขวางทางวิ่งของ ซน เลยเพราะไม่น่าตามได้ทัน 

ก่อนหน้านี้ โฮลดิ้ง กับ ซน ปะทะกันถึงสามจังหวะ พอล เทียร์นีย์ ปล่อยให้เล่นต่อในสองจังหวะแรกก่อนแจกเหลืองให้กองหลังปืนโตในจังหวะที่สาม ดังนั้น คู่นี้จึงถูกเพ็งเล็งมากเป็นพิเศษ 

แฟนบอลปืนใหญ่อาจเห็นต่างในจังหวะจุดโทษ แต่จังหวะใบแดงของ ร็อบ โฮลดิ้ง ก็คงยากที่จะเถียงเพราะเป็นการ "เสียค่าโง่" ที่ไม่มีความจำเป็นต้องเล่นฟาวล์เลย 

ดาร์บี้แมตช์ของสองทีมคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนตอนเหนือขึ้นชื่อในความดุเดือด เข้มข้น ดราม่า มีจุดโทษ ใบเหลือง ใบแดงเป็นเรื่องปกติ นักเตะทั้งสองทีมพยายามชิงไหวชิงพริบเพื่อสร้างความได้เปรียบในทุกจังหวะ ฝ่ายไหนเสียเหลี่ยม ตามไม่ทันก็มีโอกาสแพ้สูง 

เรียกง่ายๆ ว่าไม่ได้วัดกันเพียงคุณภาพในการเล่นอย่างเดียว แต่ชั้นเชิง ความเก๋า เหลี่ยมบอล ลูกตุกติกต้องมาครบซึ่งทั้งหมดนี้ ซน ฮึง-มิน เล่นงาน โฮลดิ้ง ได้ 

ก่อนเรียกใบแดงจาก โฮลดิ้ง ได้ ซน มีจังหวะล้มแล้วศอกแถมใส่กองหลังอังกฤษ แต่เขารอด แถมทำให้ โฮลดิ้ง หงุดหงิดจนฟาวล์โฉ่งฉ่างถึงใบแดงในเวลาต่อมา

เพียง 4 นาทีหลังได้เปรียบทั้งสกอร์และตัวผู้เล่น สเปอร์ส ชิงจังหวะนำเพิ่มลูกที่สองจากเตะมุมที่ โรดริโก้ เบนตานกูร์ โหม่งเช็ดเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ทิ้งตัวโหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าไปและเป็นประตูที่ 13 ที่ยิง อาร์เซน่อล จาก 17 นัดที่เจอ

เหลืออีกเกือบสิบนาทีในครึ่งแรก แต่เกมแทบจะจบทันที สเปอร์ส กุมความได้เปรียบทุกอย่างเอาไว้ในมือ ขณะที่ อาร์เซน่อล ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าราวกับมนุษย์เงินเดือนที่เงินเริ่มขาดมือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง

อาร์เตต้า โยกเอา ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่เริ่มเกมด้วยตำแหน่งแบ็กซ้ายเข้ามายือนเซนเตอร์ฝั่งขวาหลัง โฮลดิ้ง ถูกไล่ออก กรานิต ชาก้า จึงถอยจากตรงกลางมาเล่นแบ็กซ้ายแทน 


กาเบรียล มากัลเญส เจ็บเพิ่มไปอีกราย

เบน ไวท์ มีชื่อสำรอง แต่ด้วยความที่สภาพยังไม่เต็มร้อยและสถานการณ์ของทีมเหมือนรถแหกโค้งกำลังตกเหว อาร์เตต้า จึงไม่อยากเข็นลงไปเล่น 

ย้อนไปในเกมชนะ ลีดส์ 2-1 อาร์เซน่อล อยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบนำ 2-0 และคู่แข่งเหลือ 10 คนเมื่อผ่านครึ่งทางแรก แต่ไม่กี่วันถัดมา พวกเขาเป็นฝ่ายตามหลังสองประตูบ้าง แถมเหลือ 10 คนเหมือนกัน

โอกาสกลับมาในครึ่งหลังเป็นไปได้ยาก และเพียงนาทีเศษที่เริ่มคิกออฟอีกรอบ ความหวังของปืนใหญ่ก็ดับมอดยิ่งกว่าเดิมเมื่อไก่เดือยทองนำห่างเป็น 3-0 จากลูกซ้ำของ ซน ฮึง-มิน

เกมจบโดยสมบูรณ์ 

คอนเต้ เก็บตัวหลัก ซน ฮึง-มิน และ เดยิน คูลูเซฟสกี้ ออกไปพักในช่วงยี่สิบนาทีสุดท้ายเพราะไม่จำเป็นต้องโหมต่อ มีจังหวะทำก็ทำ ไม่มีก็เซตบอลเอาชัวร์ พวกเขาเริ่มมองถึงนัดหน้า

ขณะที่การเปลี่ยนตัวของ อาร์เตต้า ทำได้เพียงเปลี่ยนตามตำแหน่งแบบที่ทำมาบ่อยๆ คือ เอมิล สมิธ โรว์ แทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ แทน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

อาร์เตต้า ปรับแท็กติกอะไรไม่ได้อีกแล้วเพราะกำลังเสริมมีแค่นี้ สำรองที่เหลือเต็มไปด้วยดาวรุ่งกับ เบน ไวท์ ที่ไม่ฟิต รวมถึง นิโกล่าส์ เปเป้ ที่คงถูกหมางเมินยิ่งกว่าเดิมจากผลงานน่าผิดหวังในเกมกับยูงทอง

ท้ายเกม วันแย่ๆ ของ อาร์เซน่อล ก็มาครบสูตร กาเบรียล มากัลเญส เซนเตอร์คนเดียวที่เหลืออยู่ในสนาม บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว อาร์เตต้า ต้องส่ง นูโน่ ตาวาเรส ลงเล่นแบ็กซ้ายพร้อมขยับ ชาก้า เล่นไปเล่นเซนเตอร์กับ โทมิยาสึ 

อาร์เซน่อล จึงจบเกมแบบหมดสภาพและไม่เหลือเซนเตอร์ตัวจริงในสนาม พวกเขาเสียทั้งจุดโทษ ใบแดง และมีนักเตะเจ็บเพิ่ม แถมโมเมนตัมก็เหวี่ยงไปอยู่ฝั่ง สเปอร์ส เต็มๆ

ช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมเหลือคะแนนเดียว อาร์เซน่อล กุมชะตาตัวเองเอาไว้ในมือที่หากชนะ 2 นัดสุดท้ายก็จบท็อปโฟร์ได้ แต่โปรแกรมที่เหลือกับการไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ในยุคมีเงินมีทอง และรับมือ เอฟเวอร์ตัน ที่อาจลุ้นหนีตายในนัดสุดท้าย ดูจะหนักกว่า สเปอร์ส ที่จะเล่นในบ้านพบ เบิร์นลีย์ และไปเยือน นอริช ซิตี้ ที่ตกชั้นไปแล้ว

จากสถานการณ์ก่อนแข่งที่มีโอกาสคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ในทันที กลายเป็นว่า อาร์เซน่อล ต้องลุ้นเหงื่อตกในอีก 2 นัดสุดท้ายที่ผลกระทบจากนัดล่าสุดทั้งตัวเจ็บ ตัวแบน และกำลังใจที่เสียไป อาจส่งผลเสียหายมากกว่าที่ มิเกล อาร์เตต้า คาดคิดเอาไว้ก็เป็นได้ 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด