เชซุส เริ่มนับหนึ่ง

อาร์เซน่อล ยอมทุ่มเงิน 45 ล้านปอนด์ คว้าตัว เชซุส มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อแก้ไขปัญหาในเกมรุกที่กองหน้าตัวเป้าทำประตูไม่ได้

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง มีปัญหาระเบียบวินัยจนถูกปลดออกจากตำแหน่งกัปตันทีมและถูกปล่อยตัวในตลาดหน้าหนาว ขณะที่ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ก็แยกทาางกันในซัมเมอร์ล่าสุด 

สองหัวหอกจอมเก๋าฝากผลงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลสุดท้ายรวมกันเพียง 8 ประตูเท่านั้นซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

การมาของ กาเบรียล เชซุส ก็เพื่ออุดรอยรั่วแดนหน้าตรงนี้ให้ได้

หัวหอกทีมชาติบราซิลทำผลงานได้ดีในช่วงปรีซีซั่นที่ยิงไป 7 ประตูจาก 5 นัด แต่ไร้สกอร์ในนัดเปิดสนามที่ปืนใหญ่บุกชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0

ทว่านัดสองของฤดูกาลที่เป็นนัดแรกกับการเล่นต่อหน้าแฟนบอล อาร์เซน่อล ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หัวหอกตัวใหม่ก็เปิดตัวในบ้านได้อย่างยอดเยี่ยมมีส่วนร่วมทุกประตูในชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2

เชซุส ยิงไป 2 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ ในเกมที่เกือบทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำ

ประตูแรกของ เชซุส เป็นลูกยิงที่สวยงามและคู่ควรกับการถูกนับหนึ่งอย่างยิ่งหลังได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยืนปั่นดื้อๆ ส่งบอลลอยเสียบเสาไกลงามหยด

ประตูแรกสุดเหนือชั้น

นี่คือประตูสุดพิเศษ จากนักเตะที่พิเศษ และในช่วงเวลาอันพิเศษกับการเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองเป็นครั้งแรก ไม่มีอะไรสวยงามไปกว่านี้อีกแล้ว

จากนั้น อดีตดาวยิงเรือใบสีฟ้าก็บวกเพิ่มประตูที่สองทันทีจากลูกโหม่งจ่อๆ ที่เสาไกลหลังจาก เจมี่ วาร์ดี้ โหม่งเคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทาง 

โอกาสทำแฮตทริกของ เชซุส เกือบสำเร็จในหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นจังหวะพลิกหนี จอนนี่ อีแวนส์ ก่อนโดน วิลฟรีด เอ็นดีดี้ ตามแซะได้นิดเดียวทำให้บอลเปลี่ยนทาง 

หรือจะเป็นการหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษที่โดน แดนนี่ วอร์ด เซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด เช่นเดียวกับท้ายเกมที่ได้ซ้ำลูกยิงของ บูคาโย่ ซาก้า แต่หลุดเสาน่าเสียดาย

เกือบเป็นเกมที่สมบูรณ์แบบสุดๆ สำหรับ กาเบรียล เชซุส หากทำแฮตทริกได้ตั้งแต่นัดแรกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่เท่านี้ก็สุดยอดแล้ว 

มิเกล อาร์เตต้า เปิดเผยว่า เชซุส ยังไม่พอใจกับฟอร์มของตัวเองไม่น้อยที่พลาดโอกาสในหลายครั้ง 

"วันนี้เขาทำ2 ประตูและแอสซิสต์อีก 2 แต่หลังเข้าห้องแต่งตัวเขายังรู้สึกผิดหวัง เพราะเขาบอกว่าควรจะยิงได้ 4 ประตู นี่คือมาตรฐานและทัศนคติที่คุณต้องมีหากอยากยกระดับไปอีกขึ้น"

  สิ่งที่ อาร์เตต้า มองนั้นถูกต้องแล้วเพราะยอดนักเตะหลายต่อหลายคนไม่เคยหยุดอยู่กับคำว่า "ดีแล้ว" เพราะสามารถทำได้ดีกว่านี้ การที่ เชซุส ผิดหวังในตัวเองเป็นสิ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ 

เบียดหนี อีแวนส์ ได้แล้วแต่โดนแซะนิดเดียว

อาร์เตต้า เสริมต่อว่า "ผมไม่อยากดวลกับเขาหรอกหากต้องเจอกันในสนาม ผมไม่เคยเล่นเป็นกองหลังหรอกนะสมัยเป็นนักเตะ แต่ผมมองเห็นภาพเลยว่า มันคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่"

"เขามีความคล่องตัวสูง สัญชาติญาณดี เด็ดขาดและกระตือรือร้นในการเล่นทุกจังหวะ เขาคือตัวอันตรายอย่างแท้จริง"

"ผมคิดว่าการเข้ามาของ เชซุส ช่วยยกระดับให้ผู้เล่นคนอื่นในทีมด้วยจากการที่เขามาฝึกซ้อมทุกวัน วิธีการที่เขาพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์กับทีม"

"ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ขณะเดียวกันก็น่าประทับใจมากที่เขาทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว"

"เราต้องพยายามช่วยให้ เชซุส รักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้ต่อไป ผมคิดว่า 2 ฤดูกาลก่อนเขาได้เป็นตัวจริงเพียง 18 นัด และเราต้องการให้เขาเป็นตัวจริงมากกว่านี้ ดังนั้นเราต้องจัดการเรื่องความฟิต"

ขณะที่ดาวยิงหมายเลข 9 คนใหม่ของ อาร์เซน่อล ก็เปิดใจว่า "ผมรู้สึกว่าผมกลับมาเป็น กาเบรียล ที่เคยเป็นเมื่อก่อนแล้ว"

"ผมไม่ใช่หุ่นยนต์ที่อยู่นิ่งๆ ผมเคลื่อนที่ ผมต้องการสู้ ต้องการแข่งขัน"

"วันนี้ผมเกือบทำประตูจากการเปิดอันสุดยอดของ อารอน แรมส์เดล ผมเบียดสู้ชนะและเกือบประตูได้ และนั่นแหละคือ กาเบรียล"

2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์กับการเล่นในบ้านนัดแรก

เชซุส กล่าวถึงจังหวะเอาชนะ อีแวนส์ ซึ่งเป็นการเล่นที่โชว์ให้เห็นถึงทักษะ ความแข็งแกร่ง และการพร้อมวัดกับกองหลังแบบไม่กลัวเพื่อหาโอกาสทำประตู

สิ่งนี้แหละที่ทำให้เขาเริ่มมองตัวเองว่าเป็น กาเบรียล เชซุส ในแบบที่เคยเป็น และเป็นสิ่งที่ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคเคยพูดตอนชักชวนให้ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล

กาเบรียล เชซุส พลาดแฮตทริกน่าเสียดาย แต่ก็เริ่มต้นนับหนึ่งและสองได้แล้ว พร้อมทั้งช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะสองนัดติด เก็บไป 6 คะแนนแต็ม ไม่มีตกหล่น

ที่สำคัญ มีส่วนร่วมในการการเล่นทุกจังหวะ มุ่งมั่นเต็มร้อย พาสชั่นมาเต็ม และกำลังกลับไปเป็น กาเบรียล เชซุส คนเดิมที่เคยได้รับการยกย่องว่าคือหนึ่งในกองหน้าระดับท็อป 

ประตูที่ 3, 4, 5 และอีกเรื่อยๆ จะตามมาในเร็วๆ นี้แน่นอน