:::     :::

เอดู กับแผน 5 ปีสร้างปืนให้เปรี้ยง (2)

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาต่อกันในตอนที่ 2 ที่เป็นตอนสุดท้ายของการสัมภาษณ์ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค เกี่ยวกับแผนงาน 5 ปีในการสร้าง อาร์เซน่อล ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ในตอนนี้จะมีทั้งการพลาดท็อปโฟร์ในฤดูกาล และการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ที่ทัพปืนใหญ่เสริมทัพได้น่าสนใจโดยเฉพาะการดึง กาเบรียล เชซุส ดาวยิงทีมชาติบราซิลมาจาก แมนฯ ซิตี้ 

นอกจากนักเตะเป้าหมายที่คว้ามาได้แล้ว ก็มีบางรายที่พลาดไปด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ซึ่ง เอดู จะมาบอกเล่าถึงเบื้องลึกเบื้องหลังให้ชัดเจนมากขึ้น

∎ การพลาดท็อปโฟร์ในฤดูกาลที่แล้ว

"ผมรู้สึกว่าในช่วงเวลาสำคัญๆ เราต้องการนักเตะแบบที่เราเซ็นสัญญาในวันนี้ ในช่วงเวลาแบบนั้น ช่วงเวลาที่สำคัญ ความกดดัน เราต้องชนะเพื่อที่จะได้ไปแชมเปี้ยนลีก คุณต้องมีทีมที่มีทัศนคติว่า 'พร้อมจะออกมาฆ่าใครสักคน' คุณเข้าใจไหม? 

"ผมไม่ได้บอกว่าเราไม่มีทีมที่ดี แต่เราต้องการทีมที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทีมที่มีบุคลิกลักษณะบางอย่างที่บอกว่า จะไม่ยอมแพ้ในเกมต่อให้ต้องฆ่าใครสักคนก็ตาม' ผมคิดว่าเราได้ผู้เล่นแบบนั้นเข้ามาแล้ว

ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "อาร์เซน่อล มีนักเตะแบบที่ว่าแล้ว พวกเขาเพิ่มเติมมือสังหารในทีม"

"ว่ากันจริงๆ มันมีช่วงเวลาในตอนท้ายฤดูกาลที่พวกดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล ดูอ่อนหัดไปนิด สติแทบหลุดตอนเข้าใกล้เป้าหมาย (ท็อปโฟร์) มากขึ้น มันคือสิ่งที่เวลาและประสบการณ์จะช่วยได้ เช่นเดียวกับการเซ็นสัญญานักเตะใหม่" 



∎ อาร์เซน่อล มีความคิดของผู้ชนะแล้วหรือยัง? 

"แน่นอน จากการได้คุยกับ กาเบรียล (เชซุส) ได้คุยกับ ซินเชนโก้ ได้คุยกับ ฟาบิโอ (วิเอร่า) ที่นี่คือชัยชนะ"

  "แชมเปี้ยน ลีก โอเคนะ ผมต้องมองโลกตามความจริง แต่ในหัวของผม ผมต้องการคว้าแชมป์ สโมสรอย่าง อาร์เซน่อล ขนาดของสโมสรเรา ไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อแย่งอันดับสี่ ผมยอมรับความจริง ที่นี่มี ซิตี้ และลิเวอร์พูล ที่เก่งกว่า แต่พวกคุณเองก็ยังยอมรับไม่ได้เลย เราเองก็ไม่สามารถยอมรับได้เหมือนกัน เมื่อคุณย้ายมาสโมสรนี้ เมื่อคุณได้เห็นขนาดของเรา คุณจะไม่สามารถยอมรับได้" 

"นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บปวด เจ็บปวดมากๆ ตอนที่ผมมาถึง ผมบอกว่านั่นไม่ใช่ความคิดของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ มันเกิดอะไรขึ้น? ทุกคนโอเค ทุกคนผ่อนคลาย"

"ผมบอกให้ตายเถอะ โอเค โอเคงั้นเหรอ!? ผมไม่ต้องการแพ้เกมนี้ เราต้องอยู่ที่จุดนั่นให้ได้อีกครั้ง ต้องการเห็นนักกายภาพ ผมต้องการเห็นแมวมอง ผมต้องการเห็นทุกคนรู้สึกในแบบเดียวกันที่ว่า 'เอาเว้ย! เราจะลุยเพื่อเป้าหมายกันจริงๆ แล้วนะ' ตอนนี้ผมรู้ว่าเรากำลังเปลี่ยนไป มันคงไม่สามารถเปลี่ยนกันได้ชั่วข้ามคืน แต่ผมคิดว่าเรากำลังจะเปลี่ยนความคิดภายในทีม คาแรกเตอร์ของทีม"


ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "ด้วยการที่เราอาจจะคุ้นเคยกับภาพของ เอดู ในชุดสูทไปแล้วและทำให้บางครั้งหลงลืมตัวตนเขาในฐานะนักเตะ เขาคือหนึ่งในสมาชิกทีมชุดไร้พ่าย เขายังทำงานใกล้ชิดกับทีมชาติบราซิล ดังนั้นเขาเข้าใจเป็นอย่างดีกับสิ่งที่จำเป็นในทีมที่ประสบความสำเร็จ และต้องการนำสิ่งนั้นมาที่ อาร์เซน่อล" 

"เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนั้น เขาเต็มไปด้วยพาสชั่น มีไฟเต็มเปี่ยม เห็นได้ถึงความมุ่งมั่นในการพา อาร์เซน่อล กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง"

"เอดู ชี้ให้เห็นถึงนักเตะใหม่ เซซุส กับ ชินเซนโก้ พวกเขาคว้าแชมป์มาอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่ง ฟาบิโอ วิเอร่า ก็เคยคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส 2 สมัย ได้แชมป์ยูฟ่า ยูธ ลีก สมัยเป็นเยาวชน"


∎ การโน้มน้าวนักเตะให้ย้ายมาร่วมทีม 

"เจอกันตัวต่อตัว ผมไปจัดการเองเลย ไปเจอกับนักเตะด้วยตัวเองแม้ว่าต้องเดินทางไปเยอรมัน หรือที่ไหนๆ ก็ตาม ผมต้องการไปเจอผู้เล่น เอเยนต์ ครอบครัว ให้ทุกคนมารวมกัน และผมบอกว่า 'ฟังผมนะ และนี่คือสิ่งที่ผมจะพูด แล้วผมก็จะขายสิ่งที่เรากำลังทำ พูดถึงโปรเจคท์ของเรา มันเป็นการทำงานแบบสองทางใช่ไหม? ผมต้องการนำเสนอให้พวกเขาเห็น และผมก็ต้องการเห็นว่าพวกเขาสนุกด้วยไหม หรือผมสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ผมก็จะบอกขอบคุณมากๆ แล้วก็ลาเลย (ไม่เซ็นสัญญาด้วย)"

  "ผมเคยเจอประสบการณ์แบบนี้จากผู้เล่นในดอร์ทมุนด์ ผมเริ่มคุยกับพวกเขา คุยกับผู้เล่น กับครอบครัว แต่พวกเขาก็ถามอยู่ตลอดว่า 'แล้วสัญญาของผมล่ะ?' ผมพูดว่าฟังนะ ผมต้องการให้เข้าใจก่อน ถ้าคุณมีส่วนร่วมกับสิ่งนี้ ถ้าคุณชอบสิ่งนี้ ถ้าชอบก็คุยกันได้ แต่พวกเขาไม่ได้แบบนั้น คือแบบว่า 'โอ้ ไม่ คุยเรื่องเงินกันดีกว่า' ผมบอกกับเอเยนต์ไปว่าขอบคุณมาก นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ"

ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "การสื่อสารคือคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสุดของ เอดู เขามีบุคลิกที่เป็นกันเองและน่าสนใจ เป็นสิ่งที่มองออกได้ง่ายกับสิ่งที่เขาโน้มน้าวใจนักเตะให้เลือก อาร์เซน่อล"

"เขาพยายามนำปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์มาใช้ในงาน 'มันเป็นสไตล์ส่วนตัว' เขาบอก 'ผมก็เป็นแบบนี้ แม้กระทั่งตอนเป็นนักเตะ คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในวงการฟุตบอลได้ แต่ผมจะพยายามหาทางออกในการจัดการปัญหาเหล่านั้น'

'อาร์แซน เวนเกอร์ มีความเป็นมนุษย์มากๆ ผมได้เรียนรู้จากเขามากมาย เขาจัดการหลายสิ่งหลายอย่างที่บางงคนอาจไม่เห็นให้เรียบร้อยได้ เขาพยายามดูแลคุณและครอบครัวของคุณ เขาเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นเสมอ ผมชอบมากๆ' 


∎ การกล่อมให้ เชซุส เลือกมาร่วมทีม

"ผมทำงานกับ กาเบรียล มาตั้งแต่ในทีมชาติแล้ว ผมรู้จักเขา รู้จักครอบครัวเขา รู้จักทุกคน ผมจึงไปหาเขาที่นั่นเพื่อคุยกับครอบครัวด้วย ผมบอกกับเขาไปอย่างนึง ซึ่งเอเยนต์ของเขาบอกว่าดีมาก"

"ผมพูดว่า 'กาเบรียล ฉันมาที่นี่เพื่อพยายามเซ็นสัญญากับนาย แต่ไม่ใช่ กาเบรียล จากฤดูกาลที่แล้ว ฉันต้องการ กาเบรียล จากฤดูกาลก่อนๆ หน้านี้ เพราะฤดูกาลที่ผ่านมานายไม่ได้เล่นในแบบที่ฉันรู้จัก นายสูญเสียความโดดเด่น เมื่อฉันเห็นนายในฤดูกาลที่แล้ว ฉันไม่เห็นนายคนที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้เพราะฉันรู้จักนายดี ฉันต้องการ กาเบรียล จากฤดูกาลก่อนๆ นี้ และนายต้องกลับมาเป็น กาเบรียล ให้ได้อีกครั้ง"  

"เขามองมาที่ผม และบอกว่า 'ลูกพี่พูดถูกครับ'"

ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "จากหลักฐานในช่วงปรีซีซั่น เซซุสยิงไป 7 ประตูจาก 5 นัด เขากำลังเปล่งประกายอีกครั้ง และยิง 2 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ในนัดแรกที่ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม" 

"เอดูกล่าวถึงการใช้ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอต่อ เชซุส และเอเยนต์ของเขา เขาแสดงถึงจุดบกพร่องในเกมรุกของทีม และแสดงให้ เชซุส เห็นว่าเขาจะเข้ามาอุดช่องว่างตรงนั้นได้อย่างไร เอดู อธิบายว่า 'ข้อมูลสามารถแสดงได้ว่าทำไมเราถึงไม่ติดท็อปโฟร์'

 

∎ การพลาดนักเตะที่ต้องการ

"ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเอเยนต์และนักเตะ เพราะมันคือส่วนหนึ่งในงานของผม แต่เมื่อผมเริ่มคุยกับพวกเขา พวกเขาก็อธิบายให้ผมฟังเช่นกัน ไม่ใช่แค่ความคิดบางอย่างเกี่ยวกับ อาร์เซน่อล ผมบอกว่า ช่วยพูดตรงๆ กับผม คุณมีข้อเสนออะไรบ้าง? เขาอยากที่จะทำอะไร? ผมสามารถให้ข้อมูลกับพวกเขาได้เช่นกัน"

"ยกตัวอย่าง ราฟินญ่า มีความชัดเจน และผมกับ เดโก้ ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน เขาต้องการไป บาร์เซโลน่า นั่นคือความฝันของเขา ดังนั้นผมก็เลยบอกไปว่า ขอบคุณมากๆ"


ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "ซัมเมอร์ปีที่แล้ว อาร์เซน่อล ให้ความสนใจไปที่นักเตะที่ไม่ได้โด่งดังหรือเป็นที่ต้องการมากนักอย่าง เบน ไวท์ และ อารอน แรมส์เดล แต่ซัมเมอร์นี้พวกเขาสนใจนักเตะที่มีชื่อชั้นแตกต่างออกไป สนใจนักเตะที่ต้องแข่งขันเพื่อแย่งตัวเข้มข้นขึ้น อย่างเช่น ราฟินญา ต้องการไป บาร์เซโลน่า, ลิซานโดร มาร์ติเนซ ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" 

"แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการมีแผนของ อาร์เซน่อล คือเมื่อพวกเขาเข้าใจแล้วว่าการคว้าตัว มาร์ติเนซ จะไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาก็หันไปหา ชินเซนโก้ อย่างรวดเร็ว"


∎ การลดค่าเหนื่อยนักเตะในทีม

"ความคิดแรกของผมเกี่ยวกับคุณภาพในทีม แน่นอนว่าผมต้องตระหนักเกี่ยวกับค่าเหนื่อยด้วย แต่ผมเริ่มคิดว่า 'นักเตะคนนี้ไม่ใช่อย่างที่ผมต้องการ' และเมื่อพวกเขามีค่าเหนื่อยที่สูง คุณก็ต้องตัดสินใจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการลดค่าเหนื่อย 

"มันมีการพูดคุหลายครั้งกันในการจัดการค่าเหนื่อยของเรา แต่ถ้านักเตะคนใดทำผลงานได้และมีค่าเหนื่อยสูง นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เราเต้มใจที่จะจ่ายให้กับนักเตะคนนั้นหากเขายังคงทำผลงานที่ยอดเยี่ยม"

ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : อาร์เซน่อลได้ผ่องถ่ายผู้เล่นที่มีค่าเหนื่อยสูงๆ ออกไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้เล่นอย่าง เมซุต โอซิล, เซอัด โคลาซินัช, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่ล้วนมีค่าเหนื่อยมหาศาล"

"การพลาดไปเล่นในรายการยุโรป และผลกระทบทางการเงินอันเนื่องจากโรคระบาด อาร์เซน่อล จำเป็นต้องปรับสมดุลในบัญชีสโมสร พวกเขาไม่ได้มีเพียงการตัดต้นทุนซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะปรับค่าเหนื่อยเฉลี่ยให้ลดลง แต่ยังต้องการทำให้นักเตะที่เหลืออยู่เป็นที่สนใจและน่าดึงดูดใจสำหรับทีมอื่นด้วย"

"แน่นอนว่าการตัดภาระค่าเหนื่อยที่ค่อนข้างสูงของหลายคนออกไปได้ ก็ทำให้มีที่ว่างสำหรับการต่อสัญญานักเตะสำคัญคนอื่น"


∎ การต่อสัญญากับ บูคาโย่ ซาก้า 

"ดี ดีมากๆ ทุกคนต่างแฮปปี้ เราจะนั่งลงและใส่ความคาดหวังทั้งหมดในทางที่ถูกต้อง ความคาดหวังของเราและของเขา ครอบครัวของเขา รวมถึงของเอเยนต์ ประมวลทุกอย่างเข้าด้วยกัน สิ่งสำคัญคือเขารู้สึกอย่างไร เขารู้สึกสบายใจกับเราหรือไม่ เขามีความสุข เรามีความสุข ดังนั้นมันก็แค่นั่นลง จากนั้นก็หาบทสรุปร่วมกัน" 

ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "นี่จะเป็นข่าวที่แฟนบอล อาร์เซน่อล รอคอยกับการต่อสัญญาใหม่ของ บูคาโย่ ซาก้า ในช่วงซัมเมอร์นี้ที่น่าจะเป็นเรื่องดีพอๆ กับการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ สิ่งสำคัญดูเหมือน เอดู และ อาร์เตต้า ต่างเชื่อมั่นว่า ซาก้า มีความสุขที่ อาร์เซน่อล"

"อาร์เซน่อล มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะรั้ง ซาก้า เอาไว้กับทีม แต่แรงจูงใจในการสร้างมูลค่าให้กับทีมก็คือคุณจะขายนักเตะบางส่วนออกไปเพื่อให้ได้เงินมากที่สุด"


∎ ท้ายที่สุดกับการปล่อยผู้เล่นออกจากทีม 

"มันคือส่วนหนึ่งของแผนเมื่อคุณเริ่มขายนักเตะ มันเป็นความท้าทาย คุณจำเป็นต้องบอกให้นักเตะเตรียมตัว และหากเราสามารถทำได้ก็จะขาย มันเจ๋งนะ เป็นความท้าทายสุดๆ" 

"ยกตัวอย่าง มาพูดถึงฤดูกาลใหม่นี้หรือฤดูกาลอื่นๆ ผมไม่รู้หรอกนะ หากเราขาย บูกาโย่ ซาก้า ซึ่งนั่นจะไม่เกิดขึ้น แต่ผมเพียงแค่ยกเป็นตัวอย่าง เราเป็นสโมสรที่ต้องเตรียมสำหรับการหาคนมาแทนในทันที หากใครสักคนอยู่ในทีมหรือหากเราต้องจัดการในตลาดให้ดี ดังนั้นเราจะหาคนมาแทนทันทีหากขายใครออกไป นั่นคือโมเดลของเรา"

ความเห็นของ เจมส์ แม็คนิโคลัส : "อย่างแรกเลยในการพูดคุยกับ เอดู ชัดเจนอย่างยิ่งว่า ซาก้า ถูกกล่าวขึ้นมาเป็นตัวอย่างเนื่องจากเราเพิ่งคุยกันเรื่องสัญญาฉบับใหม่ของเขา และอาร์เซน่อล ไม่ได้มีแผนที่จะขายเขาในเร็วๆ นี้"

"แต่ประเด็นของ เอดู ยังคงอยู่ที่ว่าไม่ช้าก็เร็ว อาร์เซน่อล ต้องการ หรือต้องการใช้เงินจากมูลค่าที่พวกเขาสร้างกับทีมชุดนี้ และเมื่อจำเป็นที่จะต้องขายแล้วก็ต้องเตรียมความพร้อม"

"เอดู ยกตัวอย่าง ลิเวอร์พูล ที่เซ็น หลุยซ์ ดิอาซ เข้ามาร่วมทีมตอนเดือนมกราคม ก่อนการจากไปของ ซาดิโอ มาเน่ ในซัมเมอร์ซึ่งนั่นเป็นแผนที่ดีมากๆ ในฐานของผู้อำนวยการด้านเทคนิค มันต้องมีการมองทั้งในระยะกลางและระยะยาว และพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง 

 ***


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})