ชัยชนะที่ล้ำค่ามากกว่าสามแต้ม

การเจอ ฟูแล่ม ทีมน้องใหม่ในบ้านตัวเองไม่ควรเป็นงานที่ยากจนเกินไป แต่ฟุตบอลไม่ใช่ตรรกะที่ตัดสินกันเพียงชื่อชั้นสโมสรหรือโปรไฟล์นักเตะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในการแข่งขันจริง 

ฟูแล่ม ทำให้เห็นกันไปแล้วกับการเริ่มต้นฤดูกาลที่ไม่แพ้เลยใน 3 นัดแรก พวกเขาแบ่งแต้ม ลิเวอร์พูล 2-2 ในแบบที่น่าชนะ อีกสองนัดบุกเสมอ วูล์ฟส์ 0-0 และเฉือนชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

ขณะที่ อาร์เซน่อล ชนะรวด 3 นัดแรก แต่ มิเกล อาร์เตต้า มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนชุดตัวจริงเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้หลัง โธมัส ปาร์เตย์ กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ มีอาการบาดเจ็บ

ในตอนแถลงข่าวก่อนเกมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อาร์เตต้า เพิ่งยืนยันว่าทุกคนสมบูรณ์พร้อมลงสนาม ยกเว้นเพียง รีสส์ เนลสัน ปีกตัวสำรองที่เจ็บอยู่แล้วและไม่ได้ส่งผลต่อการจัดทัพ

นั่นทำให้การขาดหายไปของ ปาร์เตย์ ที่เจ็บต้นขา และ ซินเชนโก้ ที่เจ็บเข่า เป็นปัญหาใหม่ให้ต้องแก้ไขเฉพาะหน้า ซึ่ง อาร์เตต้า เลือกเปลี่ยนตามตำแหน่ง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ลงแทน ปาร์เตย์ ส่วน คีแรน เทียร์นีย์ ลงแทน ซินเชนโก้ ไม่ได้ปรับระบบการเล่น

ด้วยฟอร์มโดยรวมที่ดีกว่าและได้เล่นในบ้านตัวเอง อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายคอนโทรลเกมเอาไว้ได้ตามคาด สัดส่วนการครองบอลเหนือกว่าชัดเจน และเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ได้ต่อเนื่องมากกว่า

แต่ ฟูแล่ม ก็เตรียมตัวมาสำหรับเกมในรูปแบบนี้อยู่แล้ว คุณภาพนักเตะโดยรวมเป็นรองจึงต้องเน้นเกมรับและหาจังหวะสวนกลับที่มีเป้าใหญ่ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ค้ำอยู่ข้างหน้า

แข้งเจ้าสัวยืนตำแหน่งเกมรับกันได้ดีมาก ไม่ได้เปิดพื้นที่ให้ปืนใหญ่ได้ยิงถนัดถนี่ สามารถขัดขวาง ตามเบียด ตามแซะในจังหวะสุดท้ายได้ตลอด 

กาเบรียล ผิดพลาดก่อนแก้ตัวได้

อาร์เซน่อล ครองบอลมากถึง 74 เปอร์เซ็นต์ และได้ยิง 8 ครั้งในครึ่งแรก แต่มีเพียงครั้งเดียวที่เข้ากรอบคือการหลุดเดี่ยวของ ซาก้า ที่ล็อกยิงด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่านมือเพื่อนเก่า แบรนด์ เลโน่ ที่กลับมาเยือนถิ่นเก่าหลังเพิ่งย้ายออกไปในซัมเมอร์นี้ 

เกมรุกปืนใหญ่ที่เคยลื่นไหลยิงประตูคู่แข่งภายในเวลาไม่เกิน 23 นาทีตลอด 3 นัดที่ผ่านมา (รวมถึง 3 นัดสุดท้ายของปรี-ซีซั่น) จึงออกมาอึดอัด ติดๆ ขัดๆ ขาดนิด เกินหน่อย ยังไม่ลงล็อกอย่างที่ต้องการ ทำให้ผ่าน 45 นาทีแรกโดยที่เจาะประตูไม่ได้ 

อาร์เซน่อล ลุยต่อในครึ่งหลัง แต่แล้วก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อ กาเบรียล มากัลเญส เล่นติดประมาทจนโดน มิโตรวิช ฉกบอลไปยิงประตูให้ทีมเยือนพลิกนำก่อน 

ปืนใหญ่ไม่เคยแพ้น้องใหม่ในบ้านตัวเองมา 33 นัดติดต่อกัน หรือนาน 12 ปีเต็ม และฤดูกาลนี้ก็ยังไม่เคยตามหลังคู่แข่งแม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้พวกเขากำลังถูกท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว

"เราก่อความผิดพลาดขึ้น แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ดีสุดหลังจากนั้นคือวิธีการตอบสนองของทีม และ กาบี้ ก็ตอบสนองจนก้าวผ่านสถานการณ์ได้ ความผิดพลาดถือเป็นส่วนหนึ่งในเกมฟุตบอล ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่ที่ว่า คุณจะกลับมาได้อย่างไร" อาร์เตต้า กล่าว

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อาร์เซน่อล พวกเขาไม่ถอดใจและเดินหน้าลุยต่อจนสามารถตามตีเสมอได้ในเวลาเพียง 8 นาทีหลังเสียประตูไปก่อน

มาร์ติน โอเดการ์ด ทำประตูสุดสำคัญให้ทีม และจุดประกายความหวังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ คนที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมอย่างเขาก็คือคนที่แฟนบอลคาดหวังเอาไว้ไม่น้อยว่าจะพาทีมกลับมาได้

ผลเสมอไม่เพียงพอที่จะทำให้ อาร์เซน่อล กลับไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้งเพราะประตูได้-เสียเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ ที่แซงชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2 ปืนใหญ่ต้องชนะให้ได้เท่านั้น 

กัปตันโอเดการ์ดพาทีมกลับมาได้

เหมือนเขียนบทเอาไว้ว่าคนที่ควรทำประตูชัยก็ควรต้องคนที่เล่นผิดพลาดจนทีมเป็นฝ่ายตามหลัง และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ 

กาเบรียล มากัลเญส แก้ตัวได้สำเร็จทำประตูชัยก่อนหมดเวลา 5 นาทีหลังเก็บตกจังหวะเตะมุมที่ เลโน่ ซึ่งเล่นดีเซฟไปหลายครั้งตลอดทั้งเกม แต่มาพลาดในจังหวะนี้ 

จากคนที่กำลังกลายเป็นจำเลย แต่สามารถไถ่บาปให้ตัวเองด้วยประตูสุดสำคัญที่ทำให้ทีมกลับมาเก็บสามคะแนนเอาไว้ได้ นี่คือโมเมนต์ กาเบรียล จะไม่มีวันลืมแน่นอน 

"หลังจากที่เสียประตูไปก่อน แฟนบอลในสนามยังคงให้กำลังใจนักเตะ หลังจากนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวนักเตะที่จะต้องแสดงความกล้าหาญในการเล่นต่อ ผมแฮปปี้มากๆ กับฟอร์มการเล่น และทัศนคติที่ทีมเราแสดงออกมาให้เห็น" อาร์เตต้า ชื่นชมลูกทีมหลังจบเกม

อาร์เซน่อล กลับมาชนะและรักษาสถิติร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า ได้ฉลองการคุมทีมในลีกครบ 100 นัด โดยที่เอาชนะได้ 53 นัด มากสุดอันดับสองตลอดกาลของสโมสรรองจาก อาร์แซน เวนเกอร์ เพียงคนเดียว (ชนะ 54 นัดจาก 100 นัดแรกในลีก)

เป็นเกมที่ไม่ง่ายและต้องลุ้นเหนื่อยใจหายใจคว่ำ แต่การกลับมาได้ในเกมแบบนี้ถือว่าสำคัญสุดๆ และมีความหมายมากกว่าสามคะแนนโดยทั่วไป

มันคือการก้าวผ่านบททดสอบที่ท้าทายทั้งหัวจิตหัวใจนักสู้ สปิริตในทีม ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน วุฒิภาวะ และ "ความเชื่อ" ที่ทุกคนได้เห็นด้วยตัวเองว่าโอกาสยังมีเสมอหากไม่ถอดใจง่ายๆ 

"ผมคิดว่าตอนนี้ทีมเราเก๋าเกมขึ้น เรามีความเป็นผู้ใหญ่" อาร์เตต้า กล่าวถึงข้อดีที่นักเตะได้รับหลังชัยชนะนัดล่าสุด

ลงเล่น 4 นัด ชนะ 4 นัด อาร์เซน่อล เริ่มต้นฤดูกาลได้ดีมาก แต่เส้นทางยังอีกยาวไกล และจะมีบททดสอบที่ยากกว่านี้อีกหลายครั้ง

แต่หากพวกเขาจดจำความรู้สึก ความเชื่อจากนัดล่าสุด และยังคงมีศรัทธาต่อกันแม้บางอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ต่อให้ภารกิจจะยากแค่ไหนก็ยังมีโอกาสเอาชนะได้ 

เพราะพวกเขาเคยทำได้มาแล้ว