5 นัด 15 คะแนนตามเป้า
อาร์เซน่อล เปิดรังเฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า หวุดหวิด 2-1 ในนัดล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ชนะรวด 5 นัดแรกของฤดูกาลเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี หรือนับตั้งแต่ฤดูกาล 2004/05
ตอนเห็นโปรแกรม 5 นัดแรกคลอดออกมาก่อนเริ่มฤดูกาล "ปืนใหญ่" มองถึง 15 คะแนนเต็มได้เพราะไม่ได้หนักมาก แถมได้เจอน้องใหม่ 2 ทีมคือ บอร์นมัธ และ ฟูแล่ม
3 นัดแรกกับการเจอ คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้ และ บอร์นมัธ ผ่านพ้นด้วยดี อาร์เซน่อล ทำผลงานเหนือกว่าชัดเจน และเอาชนะแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อยมาก เกมรุกยิงรวม 9 ประตู และรักษาคลีนชีตได้ 2 นัด
แต่นัดต่อมายากกว่าที่คาดในการรับมือ ฟูแล่ม ที่เตรียมตัวมาเยือนได้ดีมากและพลิกนำก่อน ทำเอาลูกทีม มิเกล อาร์เตต้า หืดจับต้องไล่ยิงแซงชนะแบบใจหายใจคว่ำ
ขณะที่นัดล่าสุดลงเอยด้วยผลการแข่งขัน 2-1 แต่เจอบททดสอบที่ต่างออกไป
อาร์เตต้า เจอปัญหาตั้งแต่ก่อนเกมเมื่อ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ บาดเจ็บจากนัดชนะเจ้าสัว ขณะที่ โธมัส ปาร์เตย์ ก็ต้องพักสักระยะ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่เล่นกลางรับได้ก็ยังไม่ฟิตเต็มร้อยแม้หายเจ็บกลับมาซ้อมได้
แซมบี้ โลคองก้า จึงได้โอกาสลงตัวจริงนัดแรกของฤดูกาลกับบทบาทสุดสำคัญคอยตัดเกมแดนกลาง
ความแตกต่างระหว่างสองนัดหลังสุดคือ แอสตัน วิลล่า ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือน ฟูแล่ม ในการมาเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และกุนซือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็กดดันอย่างหนักหลังทีมแพ้ถึง 3 จาก 4 นัดแรก
เอมิ มาร์ติเนซ ปฏิเสธโอกาสทีมเก่าหลายครั้ง
อาร์เซน่อล ไม่ปล่อยโอกาสทองในช่วงที่คู่แข่งกำลังเสียความมั่นใจด้วยการโขยกใส่อย่างเมามันส์ตั้งแต่เริ่มเกม ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมทั้งหมด เกมรุกสร้างโอกาสได้เพียบ ขณะที่เกมรับก็ปิดช่องทีมเยือนได้สนิท
ตลอด 45 นาทีแรก ปืนใหญ่ได้ลุ้นยิงถึง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ต่างจากเกมกับ ฟูแล่ม ที่ได้ยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียว
ทว่าจากโอกาสมากมาย อาร์เซน่อล นำเพียงประตูเดียวจากลูกยิงของ กาเบรียล เชซุส ส่วนโอกาสอื่นๆ ขาดนิด เกินหน่อย ขณะที่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้งก็ปัดป้องช่วยวิลล่าเอาไว้ได้หลายครั้ง
อาร์เตต้า กล่าวด้วยความเสียดายว่า "ครึ่งแรกน่าจะเป็นผลงานที่พวกเราเล่นได้ดีที่สุดที่เคยทำได้และน่าจะทำประตูได้ 3, 4, 5 ลูก แต่พวกเราปิดเกมไม่ได้ และในลีกนี้ ทุกอย่างยังคงเปิดกว้าง"
กุนซือปืนโตกล่าวถึงความเฉียบขาดที่ขาดหายไปทั้งที่น่าจะนำห่างว่า "สิ่งที่ยากสุดในฟุตบอลคือการทำประตู วันนี้เรามีโอกาสงามๆ หลายครั้ง แต่เราส่งบอลเข้าประตูไม่ได้ แต่แน่นอนว่าความมุ่งมั่นของนักเตะคือการทำประตูให้ได้"
ครึ่งหลังยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิมที่ อาร์เซน่อล คอนโทรลเกมได้ดีกว่า แต่การเล่นของ วิลล่า ก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ สามารถต่อบอลขึ้นหน้าได้หลายจังหวะมากขึ้น ไม่ได้หลังพิงฝาเหมือนครึ่งแรก
สิ่งที่ อาร์เตต้า แอบหวั่นเกิดขึ้นจนได้เมื่อวิลล่าตามตีเสมอจากจังหวะไม่คาดคิดที่ ดั๊กลาส ลุยซ์ เปิดเตะมุมเข้าประตูไปดื้อๆ อารอน แรมส์เดล โดนขวางจึงกระโดดคว้าบอลไม่ได้ และลูกเปิดของ ลุยซ์ ก็โค้งเข้าประตูไปอย่างแม่นยำ
จังหวะนี้น่าจะเป็นการขัดขวางผู้รักษาประตูชัดเจน แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรและไม่ได้เช็กวีเออาร์เพิ่มเติม การประท้วงของผู้เล่นปืนใหญ่ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ อาร์เซน่อล ทำได้อีกอย่างคือการกลับสู่เกมได้เร็ว และใช้เวลาเพียง 151 วินาทีก็ยิงประตูออกนำอีกครั้งจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
ลูกหนักของวิลล่าเล่นเอาแข้งปืนน่วมกันหลายคน
ย้อนไปในเกมชนะ เลสเตอร์ 4-2 อาร์เซน่อล ใช้เวลาเพียง 2 นาที ยิงคืนทั้งสองครั้งที่ปล่อยให้ทัพจิ้งจอกได้ประตู เช่นเดียวกับเกมชนะ ฟูแล่ม 2-1 ที่ยิงตีเสมอในเวลา 8 นาทีก่อนแซงชนะท้ายเกม
นี่คือคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นอีกอย่างในต้นฤดูกาลนี้ของ อาร์เซน่อล ซึ่งต่างจากในฤดูกาลก่อนที่กว่าจะทวงประตูคืนก็เลือดตาแทบกระเด็น
ประตูของ มาร์ติเนลลี่ มาได้ถูกที่ถูกเวลา เหมือนเป็นการกระตุกความมั่นใจของ วิลล่า ที่เหมือนจะมีหวังลงไปในทันที และสามารถควบคุมสถานการณ์จนเอาตัวรอดด้วยชัยชนะในที่สุด
อาร์เตต้า สรุปภาพรวมหลังเกมว่าทีมยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้ต้องปรับปรุง แต่กระนั้นการเก็บชัยชนะได้ก็เป็นสิ่งที่กุนซือหนุ่มย้ำว่า "ผมมีความสุขกับผลการแข่งขันจริงๆ การเอาชนะในลีกนี้เป็นเรื่องยากมาก"
ถ้าไม่นับการเปลี่ยนโอกาสที่มีให้เป็นประตูมากกว่านี้ การเล่นของ อาร์เซน่อล ยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ลุยทุกจังหวะ แทบไม่ได้หายใจหายคอ เวลาเสียบอลก็ช่วยกันวิ่งไล่เอากลับคืนมาได้เร็ว
กาเบรียล เชซุส ที่มีหนึ่งประตูในนัดนี้คือตัวอย่างที่เห็นชัดสำหรับผู้เล่นแนวรุกในอุดมคติของ อาร์เตต้า เพราะไม่ได้ปักหลักรอยิงประตู แต่ช่วยไล่บอลตั้งแต่แดนหน้า มีความขยันเป็นเลิศ
เช่นเดียวกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, บูคาโย่ ซาก้า และ มาร์ติน โอเดการ์ด ซึ่งล้วนช่วยเบรกเกมคู่แข่งได้หลายครั้ง โดยที่ภารกิจหลักกับการทำเกมรุกก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่อง เต็มที่ในทุกวินาทีในสนาม
สิ่งที่น่าเป็นห่วงเพิ่มเติมหลังเอาตัวรอดด้วยชัยชนะนัดล่าสุดคือ อาการบาดเจ็บที่ "น่วม" กันไปหลายคนจากการเจอลูกหนักของผู้เล่นวิลล่าเล่นงานไม่ว่าจะเป็น เบน ไวท์, กาเบรียล เชซุส, มาร์ติน โอเดการ์ด และ อารอน แรมส์เดล
อาร์เตต้า กล่าวถึงอาการของ โอเดการ์ด ว่า "เขาโดนเตะหนัก ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะประเมิน ดังนั้นเราจะรออีกหน่อยว่าอาการเป็นอย่างไร"
ส่วนในรายของ แรมส์เดล อาร์เตต้า เสริมว่า "ผมคิดว่าเขารู้สึกเจ็บ ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไรจริงๆ เขาพยายามเล่นให้จบเกม แต่จะเป็นอีกคนที่เราต้องประเมินอาการ"
มาร์ติน โอเดการ์ด เดินกะเผลกออกจากสนาม
ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ อาร์เซน่อล พลาดเป้าหมายคือ อาการบาดเจ็บของผู้เล่นในช่วงเวลาสำคัญโดยเฉพาะช่วงท้ายฤดูกาล และตอนนี้ปัญหาดังกล่าวก็เริ่มจู่โจมตั้งแต่ต้นฤดูกาลกันเลยทีเดียว
โธมัส ปาร์เตย์ น่าจะต้องพักอีกราวสองสัปดาห์ ขณะที่ โม เอลเนนี่ ก็มีแนวโน้มต้องหายหน้าไปสักพัก อาร์เตต้า ยอมรับว่ามีผลโดยตรงกับตลาดซื้อขายที่วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายนนี้ จะปิดตลาดกันแล้ว (ตี 5 เช้าตรู่วันศุกร์ตามเวลาบ้านเรา)
"มันส่งผลแน่นอนเพราะ โธมัส ก็เจ็บ และทำให้เรามีตัวเลือกในตำแหน่งนั้นค่อนข้างจำกัด เรามี แซมบี้ และ กรานิต ที่เล่นได้ แต่เรากำลังมองหาตัวเลือกเพิ่มในตลาดนักเตะ"
"สโมสรสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอดกับการยกระดับผู้เล่นและทีมให้ดีขึ้น หากมีนักเตะเหมาะสมในตลาด และเราสามารถดึงมาได้ เราก็จะพยายาม" อาร์เตต้า กล่าว
อาร์เซน่อล ทำได้ตามเป้าเก็บชัยชนะ 5 นัดรวด แต่ มิเกล อาร์เตต้า กำลังบททดสอบหนักขึ้นตามลำดับด้วยอาการบาดเจ็บของผู้เล่น และโปรแกรมถัดไปก็น่าจะยากกว่าทุกนัดที่ผ่านมา
Next Station : Old Trafford
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT