ก้าวแรกสำเร็จ ก้าวต่อไปต้องแชมป์กลุ่ม
ทีมปืนใหญ่เปิดรังเอาชนะ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น 1-0 ในนัดตกค้างที่เลื่อนมาจากเดือนที่แล้วเนื่องจากขาดแคลนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเตรียมงานพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบ็ธที่ 2
ชัยชนะนัดนี้ทำให้รักษาสถิติ 100 เปอร์เซ็นต์ในยูโรปา ลีก ด้วยการชนะ 4 นัดรวด เก็บไป 12 คะแนนเต็ม รั้งจ่าฝูงของกลุ่มเหนือ พีเอสวี 5 คะแนน และทิ้งห่าง โบโด กลิมท์ 9 คะแนน การันตีการจบสองอันดับแรกแน่นอนทำให้ผ่านเข้ารอบทันที
การเจอกับ พีเอสวี เป็นเกมสำคัญมากเพราะเหมือนแย่งแชมป์กลุ่มกันโดยตรงจากการที่ห่างกันเพียง 2 คะแนนก่อนเริ่มเกม มิเกล อาร์เตต้า จึงส่งตัวหลักลงหลายคน
ในแนวรุก กาเบรียล เชซุส ลงตัวจริงครั้งแรกในยูโรปา ลีก เพื่อเล่นร่วมกับ บูคาโย่ ซาก้า เจ้าของประตูชัยสองนัดหลังสุด และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ โดยมี ฟาบิโอ วิเอร่า กับ กรานิต ชาก้า ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง ส่วนหน้าที่เกมรับเป็น แซมบี้ โลคองก้า
ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ กลับไปประจำแบ็กขวาอีกครั้งเปิดทางให้ คีแรน เทียร์นี่ย์ ได้กลับมาลงเล่นแบ็กซ้าย ส่วนคู่เซนเตอร์เป็น ร็อบ โฮลดิ้ง กับ กาเบรียล มากัลเญส ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นโควตาของ แม็ตต์ เทอร์เนอร์
ทีมเยือนของกุนซือ รุด ฟาน นิสเตลรอย นำมาโดย โคดี้ กั๊กโป ที่ทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้ร้อนแรงยิงไป 13 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์จาก 18 นัดในทุกรายการ ขณะที่ผลงานของทีมอยู่ในฟอร์มที่ดีชนะมา 4 นัดรวด ยิงรวม 17 ประตู และเสียเพียงประตูเดียว
ทว่าเริ่มเกมจนกระทั่งจบเกม อาร์เซน่อล เหนือกว่า พีเอสวี ชัดเจน เป็นบอลคนละเกรดที่หากจังหวะสุดท้ายคมกว่านี้ก็น่าจะยิงชนะขาด 3-4 ลูกด้วยซ้ำ
เอ็นเคเทียห์ มีโอกาสเพียบแต่ไม่เข้าเป้า
อาร์เซน่อล คอนโทรลเกมได้ตั้งแต่แรก เป็นฝ่ายครองเกมรุกบุกใส่แทบฝ่ายเดียว การลงตัวจริงของ เชซุส ช่วยได้อย่างมากเพราะป่วนแนวรับพีเอสวีได้ตลอด
หัวหอกบราซิเลียนมีความขยันและเล่นด้วยความมุ่งมั่นเต็มร้อย ทำให้ดึงตัวประกบได้ดี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ถ่างออกด้านซ้าย และ บูคาโย่ ซาก้า ทางด้านขวาจึงมีพื้นที่เล่นพอสมควร
สิ่งที่ อาร์เซน่อล ขาดไปใน 45 นาทีแรกมีเพียงจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่ลงล็อกเพราะโอกาสลุ้นยิง 9 ครั้งไม่ตรงกรอบเลย ส่วนทีมเยือนจากฮอลแลนด์ที่ครองบอลเพียง 35 เปอร์เซ็นต์ ได้สวนกลับครั้งเดียวจบที่ลูกยิงของ ชาบี ซิมอนส์ ในเขตโทษที่ข้ามคาน
ในช่วงพักครึ่ง กรานิต ชาก้า เปิดเผยสิ่งที่พูดกันในห้องแต่งตัวว่า "ลุยต่อไป ทำเหมือนครึ่งแรก สร้างความกดดันและโอกาสให้ได้เยอะๆ ด้วยความเชื่อแบบนั้น โอกาสจะเข้าทางและยิงได้แน่"
อาร์เซน่อล เดินหน้าลุยต่อในครึ่งหลังที่จังหวะในพื้นที่สุดท้ายแม่นยำมากขึ้น ได้ลุ้นยิง 16 ครั้ง เข้ากรอบมากถึง 8 ครั้ง ทว่าเกือบทั้งหมดติดเซฟของ วอลเตอร์ เบนิเตซ นายทวารพีเอสวี
ประตูเดียวชี้ขาดเกมทำได้ในช่วงยี่สิบนาทีสุดท้ายหลัง อาร์เตต้า ทิ้งไพ่สำคัญส่งตัวหลักทั้ง มาร์ติน โอเดการ์ด และ โธมัส ปาร์เตย์ ลงมาช่วยซึ่งทั้งคู่มีส่วนกับประตูด้วยจากการเคาะบอลหน้าเขตโทษก่อนเป็น โอเดการ์ด ไหลออกขวาให้ โทมิยาสึ เติมขึ้นมาเปิดเข้ากลางถึง กรานิต ชาก้า ตวัดวอลเลย์ด้วยขวาตุงตาข่าย
"เรามีโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีโชคที่จะยิงได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ทว่าเรามีพาสชั่นในครองบอลเล่น สร้างโอกาสไม่หยุด และผมคิดว่าเราสมควรชนะ" ชาก้า กล่าว
ประตูล่าสุดของ ชาก้า คือประตูที่ 3 ในฤดูกาลนี้ เป็นจำนวนเท่ากับที่ยิงได้ 3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้รวมกัน นี่คือสถิติยืนยันชัดเจนถึงการเล่นของกองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่ทำได้ดีจริงๆ และมีส่วนกับเกมรุกมากขึ้น
นานๆ ทีจะได้เห็นลูกยิงเท้าขวาของ กรานิต ชาก้า
ชาก้า ได้ลุ้นยิง 4 ครั้งเป็นหนึ่งประตูพาทีมชนะ ส่วน บูคาโย่ ซาก้า กับ กาเบรียล เชซุส มีโอกาสคนละ 5 ครั้ง เขากรอบ 3 ครั้งเท่ากันแต่ติดเซฟทั้งหมด
คนที่น่าผิดหวังมากสุดในแนวรุกคือ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ได้ง้างมากกว่าเพื่อนถึง 6 ครั้ง แต่ยิงหลุดกรอบไปหมด แถมหลายจังหวะในการเล่นก็ไม่เข้าขาเพื่อนร่วมทีมเท่าที่ควร
ส่วนเกมรับตลอดครึ่งหลังไม่ได้ถูกกดดันมากนัก โอกาสลุ้นจะแจ้งครั้งเดียวของพีเอสวีมาจาก ชาบี ซิมอนส์ คนเดิมที่ลุยเข้าเขตโทษก่อนยิงทะลุแนวรับไปได้ แต่ไม่ผ่านมือ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ ที่แม้นานๆ ได้ออกแรงทีแต่ก็เซฟได้อย่างมั่นใจ
ความหวังสูงสุดอย่าง โคดี้ กั๊กโป ไม่ได้มีเกมน่าประทับใจนัก ครึ่งแรกแทบไม่ผ่าน โทมิยาสึ ส่วนท้ายเกมก็เจอ เบน ไวท์ ตามประกบจนแทบกระดิกไม่ออก
อาร์เซน่อล ทำได้เพียงประตูเดียวจากโอากสทั้งหมด 25 ครั้ง แต่ก็เพียงพอต่อการเอาชนะได้เข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอน ลุ้นแค่ว่าจะเป็นอันดับหนึ่งหรือสองของกลุ่ม
อาร์เตต้า พูดชัดเจนหลังเกมว่าการเข้ารอบเป็นเพียงสเต็ปแรก ภารกิจยังไม่จบเพราะต้องการพาทีมคว้าแชมป์กลุ่มให้ได้เพื่อเลี่ยงรอบเพลย์ออฟ
หากเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มจะทำให้ได้ตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายอัตโนมัติ แต่หากเป็นรองแชมป์กลุ่มจะต้องไปเล่นในรอบเพลย์ออฟสองนัดเจอทีมที่หล่นมาจากถ้วยใหญ่แชมเปี้ยนส์ ลีก บางคนอาจเรียกง่ายๆ ให้เข้าใจว่าเป็นรอบ 32 ทีมสุดท้าย
"เรามีช่วงเวลาที่ดีกับการคอนโทรลเกมเหนือทีมที่ดีมากๆ เพียงแต่เราขาดการผ่านบอลและยิงประตูในจังหวะสุดท้าย เรามีความสุขที่ชนะและเข้ารอบต่อไปซึ่งเป็นสเต็ปแรก" อาร์เตต้า กล่าว
"เราผ่านเข้ารอบได้ แต่ตอนนี้เราต้องการจบตำแหน่งแชมป์กลุ่มเพราะเรารู้ว่าจะมีความแตกต่างในแง่จำนวนเกมที่ต้องลงเล่น"
"มันเป็นข้อแตกต่างอย่างมากระหว่างการจบอันดับหนึ่งและสองของกลุ่ม ดังนั้นเราจึงต้องการปิดจ๊อบให้สำเร็จในสัปดาห์หน้า"
"โทมิ" จัดการ กั๊คโป อยู่หมัด
เงื่อนไขนัดหน้าที่ อาร์เซน่อล ต้องเป็นฝ่ายไปเยือน พีเอสวี คือจะคว้าแชมป์กลุ่มทันทีหากไม่แพ้กลับออกมา แต่หากพลาดท่า ก็ยังมีโอกาสอีกนัดในเกมสุดท้ายที่จะกลับมาเล่นในบ้านพบ ซูริค ทีมบ๊วยของกลุ่มที่แพ้ 4 นัดรวด ยังไม่มีคะแนน
ผลเสมอไม่ใช่ภารกิจที่ยากเกินไปสำหรับ อาร์เซน่อล ในชั่วโมงนี้ที่ กรานิต ชาก้า กล่าวอย่างมั่นใจหลังเก็บชัยชนะได้ 13 จาก 14 นัดในทุกรายการ
"เราเป็นทีมที่อันตรายสุดๆ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับเรา"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT