:::     :::

JOB DONE เจอกันอีกทีมีนาคม

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้ต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้าย แต่ อาร์เซน่อล ก็ปิดจ๊อบยูโรปา ลีก ได้ตามเป้าคว้าตำแหน่ง "แชมป์กลุ่ม" ได้สำเร็จ

มิเกล อาร์เตต้า พาทีมผ่านเข้ารอบตั้งแต่จบนัดสี่ที่เปิดรังชนะ พีเอสวี 1-0 แต่ยังไม่การันตีแชมป์กลุ่ม และต้องมาลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายหลังโดน พีเอสวี เอาคืน 2-0 ในสัปดาห์ที่แล้ว 

อาร์เตต้า พูดชัดเจนก่อนหน้านี้ว่าต้องการคว้าอันดับหนึ่งของกลุ่มให้ได้เพื่อหลีกเลี่ยงโปรแกรมที่จะเพิ่มมาอีก 2 นัดในรอบน็อกเอาต์เพลย์ออฟซึ่งต้องเจองานหนักดวลกับทีมที่หล่นมาจากถ้วยใหญ่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

ปีนี้ หลายทีมใหญ่เหมือนนัดกันมาร่วมสนุกในยูโรปา ลีกไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า, เซบีย่า, ยูเวนตุส ฯลฯ 

แม้ทีมเหล่านี้จะทำผลงานไม่ดีในแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่พอมาอยู่ในยูโรปา ลีก ก็ยังแข็งโป๊กเป็นทีมเต็งแชมป์เช่นเดียวกับ อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ โรม่า 

ดังนั้น แม้แข้งปืนใหญ่ต้องเหนื่อยจนถึงสุดท้าย แต่ก็ยังต้องเต็มที่เพื่อเป็นแชมป์กลุ่มที่จะทำให้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ 

อาร์เตต้า มีข่าวดีในการจัดทัพที่ได้ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ หายเจ็บกลับมาลงตัวจริงอีกครั้งหลังหายหน้าไปหลายสัปดาห์ 

การกลับมาของ "บังเอล" ที่จับคู่กับ แซมบี้ โลคองก้า ในแดนกลาง เปิดโอกาสให้ โธมัส ปาร์เตย์ ได้พักเป็นสำรอง ไม่ต้องลงแบกทีมตั้งแต่นาทีแรกในวันที่ กรานิต ชาก้า ลงไม่ได้แน่ๆ จากการติดโทษแบน 

แนวรุกใช้ รีสส์ เนลสัน ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเด่นในเกมชนะ ฟอเรสต์ 5-0 ลงเล่นร่วมกับ ฟาบิโอ วิเอร่า, กาเบรียล เชซุส และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ โดยการเล่นของ เชซุส กับ เอ็นเคเทียห์ สลับกันออกด้านข้าง


ส่วนเกมรับมี เบน ไวท์ ประจำการแบ็กขวา ฝั่งซ้ายเป็น คีแรน เทียร์นีย์ คู่เซนเตอร์วาง กาเบรียล มากัลเญส เล่นร่วมกับ ร็อบ โฮลดิ้ง โดยมี อารอน  แรมส์เดล เฝ้าเสาอีกครั้งเพราะ แมตต์ เทอร์เนอร์ ยังไม่หายเจ็บ

แม้มีสำรองลงบางรายแต่ก็เป็นชุดที่ อาร์เตต้า มองว่า "เอาอยู่" กับภารกิจสำคัญที่มีเงื่อนไขไม่ยาก ขอเพียง "ชนะ" ซูริค ให้ได้ก็จะคว้าแชมป์กลุ่มทันที ไม่ต้องสนใจผลคู่ พีเอสวี ไปเยือน โบโด/กลิมท์

อาร์เซน่อล ใช้เวลาราวสิบนาทีในการตั้งเกมของตัวเองเพราะเปิดฉากช่วงแรก ซูริค วิ่งไล่บอลดีมาก ทำให้แข้งปืนยังต่อบอลตามถนัดไม่ได้มากนัก

เป็นอีกครั้งที่ อาร์เซน่อล นำเร็วตั้งแต่ 17 นาทีแรก บอลเริ่มต้นจากฝั่งขวาที่ เนลสัน แทงให้ เบน ไวท์ ตามขึ้นมาเปิดติดบล็อกเข้าทาง วิเอร่า ได้ยิงติดอีก ก่อนบอลเด้งเข้าทาง เทียร์นีย์ วอลเลย์เต็มข้อหน้าเขตโทษส่งบอลเข้าประตูอย่างแม่นยำและเด็ดขาดสุดๆ

เทียร์นีย์ ได้โอกาสยิงไกลอยู่เรื่อยๆ มีชนเสาไปบ้าง แต่ประตูแรกของฤดูกาลลูกนี้สวยงามหมดจดจริงๆ อีกทั้งสำคัญต่อทีมสุดๆ

อาร์เซน่อล เดินหน้าลุยต่อ พวกเขาได้ครองบอล 61 เปอร์เซ็นต์ และหาโอกาสยิง 12 ครั้งในครึ่งแรก ทว่าความแม่นยำไม่มากนักเข้ากรอบเพียง 3 ครั้ง 

มีหลายนัดที่ อาร์เซน่อล นำเร็ว แต่บวกเพิ่มไม่ได้ทำให้ต้องลุ้นหนักตลอดช่วงเวลาที่เหลือโดยเฉพาะครึ่งหลังที่ผลงานมักดร็อปลง ระดับการเล่นไม่เหมือนเดิม และเปิดโอกาสให้คู่แข่งมีลุ้นกลับมา

นัดนี้เป็นแบบนั้นอีกครั้ง 

จากครึ่งแรกที่ต่อบอลสำเร็จ 181 ครั้ง มากกว่า ซูริค เกือบร้อยครั้ง การผ่านบอลสำเร็จในครึ่งหลังของ อาร์เซน่อล เหลือเพียง 114 ครั้ง มากกว่าผู้มาเยือนเพียง 10 ครั้ง 


เทียร์นีย์ ซัดงามหยดตั้งแต่ 17 นาทีแรก

โอกาสยิง 12 ครั้ง ลดเหลือเพียง 5 ครั้ง และเข้ากรอบครั้งเดียว เช่นเดียวกับสถิติอื่นๆ ที่ลดลงจากครึ่งแรกเกือบทั้งหมด

ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตทีมเยือนจากสวิตเซอร์แลนด์ที่แม้ไม่ได้ลุ้นเข้ารอบแล้ว แต่ก็เล่นด้วยความมุ่งมั่นเต็มร้อย บวกกับพลังเชียร์จากแฟนบอลตัวเองหลายพันคนที่ตามมาให้กำลังใจทีมถึงขอบสนาม 

แฟนบอลซูริคเชียร์ได้ถึงใจจริงๆ แม้ปริมาณน้อยกว่าแต่เสียงดังข่มเจ้าถิ่นเลยทีเดียว แถมช่วงต้นเกมแอบจุดพลุด้วยจนควันลอยเต็มสนาม 

การที่ อาร์เตต้า ต้องส่ง ปาร์เตย์ รวมถึง บูคาโย่ ซาก้า ที่ผ่านความฟิตหวุดหวิดลงเล่นตั้งแต่นาที 63 ก่อนตามด้วย มาร์ติน โอเดการ์ด อีก 10 นาทีถัดมา เห็นชัดเจนว่า อาร์เซน่อล ยังไม่สามารถคอนโทรลเกมได้ดีนักเพื่อลุ้นประตูที่สอง

การนำประตูเดียวเป็นบทเรียนมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง นัดนี้โดน ซูริค ส่งบอลตุงตาข่ายได้ด้วย แต่รอดตัวไปเพราะล้ำหน้าเสียก่อน

เอ็นเคเทียห์ ที่ได้โอกาสเต็มๆ ยังทำได้ไม่ดีนักในเกมที่กดดันและต้องการประตูจากเขา หลายจังหวะจับบอลลั่นง่ายๆ และไม่ได้กดดันแนวรับทีมเยือนมากพอ 

ส่วน เนลสัน ทำได้ดีในจังหวะเริ่มต้นนำไปสู่ประตูแรก แต่โดยรวมยังไม่ใกล้เคียงกับผลงานมาสเตอร์พีซใน 4 วันก่อนหน้าที่ยิง 2 จ่าย 1 ถล่มเจ้าป่า

"ผมคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นเกมที่ยาก ผมดูพวกเขาเล่นในสองนัดหลังสุด การเปลี่ยนแปลงนับตังแต่โค้ชใหม่พวกเขาเข้ามา วิธีการเล่นในเกมกับ โบโด" อาร์เตต้า กล่าวหลังเกม

"มันยากมากๆ ในการหาโมเมนตัมให้ได้จริงๆ ในขณะที่การแข่งขันดำเนินไป เราต้องปรับตัวตาม เรามีโอกาสงามๆ แต่ไม่สามารถทำได้ และมันก็ทำให้เกมยากขึ้นในช่วง 15-20 นาทีสุดท้าย"

"เราไม่ได้คอนโทรลเกมในสถานการณ์สำคัญ และเราต้องพยายามซึ่งเราทำได้ เราหาทางเอาชนะจนได้และเป็นแชมป์กลุ่ม" 

ในเกมที่ยาก และไม่ได้คอนโทรลเกมแบบเบ็ดเสร็จ สิ่งสำคัญสุดคือการหาทางเอาชนะให้ได้ซึ่ง อาร์เซน่อล ทำสำเร็จ 

การเป็นแชมป์กลุ่มสำคัญอย่างมากเพราะหลีกเลี่ยงโปรแกรมเพิ่มอีกสองนัดซึ่งเสี่ยงต่อการตกรอบมาก และตอนนี้ก็สามารถโฟกัสเกมพรีเมียร์ลีกได้อย่างเต็มที่ เริ่มจากโปรแกรมต่อไปเยือนสแตมฟอร์ด บริจด์ ของ เชลซี ในวันอาทิตย์นี้

ส่วนเรื่องยูโรปา ลีก ก็พักเอาไว้ยาวๆ เจอกันอีกทีมีนาคมในรอบ 16 ทีมสุดท้าย


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด