ความผิดพลาดที่รับไม่ได้

เกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายสนามที่การตัดสิน "ค้านสายตา" และส่งผลต่อโฉมหน้าของเกมไม่ว่าจะเป็นเกมระหว่าง เวสต์แฮม กับ เชลซี ที่บอลโดนมือ โทมัส ซูเช็ค แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าว่าเป็นแฮนด์บอลและจุดโทษให้กับ เชลซี

เช่นเดียวกับเกมระหว่าง คริสตัล พาเลซ กับ ไบรท์ตัน ที่มีการเช็คล้ำหน้าผิดพลาดจนทำให้ ไบรท์ตัน อดได้ประตูชัย 

และที่เป็นประเด็นมากสุดคือเกมระหว่าง อาร์เซน่อล กับ เบรนท์ฟอร์ด ที่ผู้ตัดสิน "ลืม" ตีเส้นเช็กล้ำหน้า

ทั้งสามคู่นี้ควรมีทีมที่ชนะ แต่ลงเอยด้วยการเสมอทั้งหมด และเป็นผลมาจากความผิดพลาดของผู้ตัดสินล้วนๆ 

สมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (PGMOL) เจอกระแสโจมตีอย่างหนักจนต้องออกมายอมรับในความผิดพลาดและต่อสายตรงคุยกับสโมสรที่เสียประโยชน์ 

ฮาเวิร์ด เว็บบ์ อดีตผู้ตัดสินชื่อดังที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าของ PGMOL ได้ติดต่อไปยัง อาร์เซน่อล และ ไบรท์ตัน เพื่อขอโทษและอธิบายว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นในขั้นตอนการใช้ วีเออาร์

ไล่เรียงรายละเอียดของสองทีมที่เสียหายจากความผิดพลาดของผู้ตัดสินอีกครั้ง

อาร์เซน่อล เสียประตูตีเสมอให้ เบรนท์ฟอร์ด ในจังหวะที่ คริสเตียน นอร์การ์ด ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนตวัดบอลให้ ไอแวน โทนี่ย์ โหม่งเข้าประตู

ผู้ตัดสินมีการเช็ควีเออาร์จากจังหวะแรกที่ อีธาน พินน็อค เบียดกับ กาเบรียล มากัลเญส ซึ่งตัวของ พินน็อค ดูจะเหลื่อมมากกว่า และน่าจะล้ำหน้า 

จังหวะนี้ไม่มีการตีเส้นเช็คล้ำหน้า

เช่นเดียวกับอีกจังหวะต่อเนื่องที่ พินน็อค โหม่งบอลให้ นอร์การ์ด ซึ่งจากภาพช้า นอร์การ์ด ล้ำหน้าที่ชัดเจนมากกว่ากว่าจังหวะแรกอีก 

ทว่าผู้ตัดสินวีเออาร์บอกว่าไม่ล้ำ และมีการเปิดเผยในภายหลังว่า "ลืม" ตีเส้นเช็คล้ำหน้า

"ลืม"!!!

นี่คือความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่ อาร์เซน่อล หรือทีมใดก็ตามที่เจอเหตุการณ์กับตัวคงไม่มีทางรับได้ 

สิ่งแรกที่ทีมงานวีเออาร์ต้องทำเมื่อต้องเช็คเหตุการณ์ล้ำหน้าก็คือ "ตีเส้น" เพื่อความแม่นยำและยุติธรรมมากขึ้น 

แต่ทว่าผู้ตัดสินวีเออาร์ในเกมดังกล่าวที่นำ ลี เมสัน กลับลืมในสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก

ส่วน ไบรท์ตัน ที่พลาดได้ประตูชัยในเกมเสมอ คริสตัล พาเลซ ก็ไม่พอใจเช่นกันในจังหวะที่ เปอร์วิส เอสตูปินญาน ส่งบอลตุงตาข่ายแต่กลับไม่ได้ประตู

จอห์น บรู๊คส์ ผู้ตัดสินวีเออาร์ ตีเส้นตำแหน่งการยืนของ เอสตูปิยาน เทียบกับ เจมส์ ทอมกิ้นส์ กองหลัง พาเลซ เพื่อเช็คล้ำหน้า ซึ่ง เอสตูปิยาน ยืนต่ำกว่า และผู้ตัดสินก็บอกว่า "ล้ำหน้า" 

แต่สิ่งที่ผิดพลาดคือ ตีเส้นผิดคน! เพราะยังมีผู้เล่นพาเลซอีกคนที่ยืนต่ำกว่าคือ มาร์ค เกฮี 

ผู้ตัดสินต้องตีเส้นเทียบระหว่าง เอสตูปิยาน กับ เกฮี ซึ่ง เอสตูปิยาน ไม่ล้ำ และทำประตูได้อย่างใสสะอาดซึ่งควรเป็นประตูชัยให้ ไบรท์ตัน เก็บสามคะแนนกลับออกไป

ไบรท์ตัน พลาดได้ประตูที่ควรได้

ฮาเวิร์ด เว็บบ์ จึงต้องรีบขอโทษกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้่นจากคนของตัวเอง และเตรียมตรวจสอบเหตุการณ์เพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป

ทว่าบางส่วนในแถลงการณ์ของ PGMOL ที่เป็นประเด็นให้ถกเถียงกันคือการระบุว่าความผิดพลาดนี้เป็น "ความผิดพลาดของมนุษย์" (Human Error) 

มิเกล อาร์เตต้า สัมภาษณ์ก่อนเกมเจอ แมนฯ ซิตี้ ในวันพุธนี้ว่า "นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดของมนุษย์ และเป็นเรื่องใหญ่มากๆ มันแสดงให้เห็นว่าคุณ (ผู้ตัดสิน) ไม่เข้าใจในงานของตัวเองซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ผมขอโทษที่ต้องพูด เพราะนั่นทำให้ อาร์เซน่อลเสีย 2 แต้ม และที่จะไม่ได้กลับคืนมา"

"ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้เราเสีย 2 คะแนน หลังจากวิเคราะห์ด้วยหลักฐานและรูปภาพ เราต่างรู้สึกโกรธและความผิดหวังอย่างมาก"

การบอกว่าเป็น "ความผิดพลาดของมนุษย์" เป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น และไม่น่าแปลกในเลยที่ อาร์เตต้า จะหัวเสียสุดๆ 

หากเป็นผู้ตัดสินในสนาม หรือไลน์แมนตัดสินผิดพลาดก็พอเข้าใจได้ (จริงๆ แล้วก็ไม่ควรพลาด) เพราะมีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการชี้ขาด และไม่มีภาพช้าให้ดู ยกเว้นเดินมาเช็คจอข้างสนามหลังได้สัญญาณวีเออาร์

ลี เมสัน ผู้ตัดสินต้นเหตุ

แต่ผู้ตัดสินในห้องวีเออาร์มีทั้งเวลา ภาพช้า และเทคโนโลยีต่างๆ ในการพิจารณาเหตุการณ์ แต่กลับผิดเหลือเชื่อทั้งตีเส้นผิดคน หรือ "ลืมตีเส้น"

การยอมรับผิดของ PGMOLจะไม่มีประโยชน์เลยหากไม่มีการแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และลงโทษผู้เกี่ยวข้องให้เหมาะสม

เมื่อผู้จัดการทีม และนักเตะ ทำผิดพลาดหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมล้วนได้รับการลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นโทษแบน ปรับเงิน ฯลฯ 

แต่เวลาที่ผู้ตัดสินพลาดมีบทลงโทษที่ควรจะเป็นอย่างไร? เพราะการพักงานแค่ 1-2 สัปดาห์คงไม่ได้ช่วยให้ผู้กระทำผิดสำนึกและตระหนักมากขึ้นในการทำหน้าที่ครั้งต่อไป แถมผู้ตัดสินบางคนยังทำผิดพลาดแบบเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก 

อาร์เตต้า ทิ้งท้ายว่า "พวกเขาขอโทษจริงจัง ตรงไปตรงมาและจริงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ แต่นั่นไม่ได้พรากจากความจริงที่ว่าเราควรมีอีก 2 แต้มในตารางคะแนน"