กลับมาชนะอีกครั้ง
อาร์เซน่อล กลับมาชนะเป็นนัดแรกในรอบ 5 นัดหลังสุดที่สถานการณ์ลุ้นแชมป์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมไม่ได้กุมชะตาตัวเองเอาไว้เหมือนอย่างเคยเป็นมาเกือบตลอดฤดูกาล หลังปราชัยในเกมสำคัญต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว
เรือใบสีฟ้าในฐานะแชมป์เก่ากลายเป็นเต็งจ๋าที่จะป้องกันแชมป์ และอาจทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนหากเปิดรังไล่อัด เวสต์แฮม ในคืนวันพุธนี้
สิ่งที่ อาร์เซน่อล ทำได้ใน 5 นัดสุดท้ายคือจัดการภารกิจของตัวเองให้ดีที่สุด และหวังให้ แมนฯ ซิตี้ ทำแต้มหล่น...บ้าง
การกลับมาเล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เจอกับ เชลซี ที่ออกทะเลไปไกลในฤดูกาลนี้ คือโอกาสดีสุด และลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ก็ทำได้สำเร็จแม้ไม่ได้เรียบร้อยไร้ที่ติตลอด 90 นาทีก็ตาม
อาร์เตต้า ทำเซอร์ไพรส์ไม่น้อยในการจัดทัพที่เปลี่ยนถึง 3 ตำแหน่งจากเกมพ่ายเรือใบสีฟ้าโดยให้โอกาส ยาคุบ คีวิออร์ เซนเตอร์ทีมชาติโปแลนด์ลงตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกครั้งแรก
ส่วน จอร์จินโญ่ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ได้ออกสตาร์ตแทนตำแหน่งของ โธมัส ปาร์เตย์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
ขณะที่ เชลซี ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตัดสินใจให้โอกาส ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หัวหอกจอมเก๋าลงตัวจริงเจอทีมเก่าในสนามที่เขาคุ้นเคยมากกว่านักเตะเจ้าถิ่นหลายคนเพราะเคยค้าแข้งกับทีมปืนใหญ่นาน 4 ปีเต็ม
ทั้งสองทีมต่างต้องการกลับมาชนะ แต่เป็น อาร์เซน่อล ที่เค้นฟอร์มออกมาได้โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่เหนือกว่ามากทั้งรูปแบบและผลการแข่งขัน
นี่คือฟอร์มการเล่นที่ อาร์เซน่อล ทำให้เห็นบ่อยครั้งในฤดูกาลนี้ และเป็นเหตุผลสำคัญพาทีมยืนหยัดลุ้นแชมป์จนถึงเดือนสุดท้าย
คุณภาพการเล่นของ อาร์เซน่อล กับ เชลซี ต่างกันอย่างมากใน 45 นาทีแรก เหมือนวันที่ อาร์เซน่อล ไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่เราทุกคนได้เห็นว่าปืนใหญ่เป็นรองเรือใบสีฟ้าทุกกระบวนท่า
ทรอสซาร์ ป่วนแนวรับ เชลซี ได้อย่างมาก
หลังจากแพ้มาแบบสู้ไม่ได้ในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายที่กดคู่แข่งคืนได้บ้างจากการคอนโทรลเกมตั้งแต่เริ่ม
การปรับทัพของ อาร์เตต้า ได้ผลดีเยี่ยมโดยเฉพาะในรายของ ทรอสซาร์ ที่ทำให้เกมรุกฝั่งซ้ายลื่นไหล และมีมิติกว่าเดิม
สไตลการเล่นของ ทรอสซาร์ แตกต่างจาก มาร์ติเนลลี่ ตรงที่เล่นตามจังหวะได้ต่อเนื่องมากกว่า รู้ว่าตอนไหนควรจ่าย ตอนไหนควรครองบอล หรือเลี้ยงลุยไปเอง
ส่วน มาร์ติเนลลี่ ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่เก่งขึ้นมากในฤดูกาลนี้ ทว่าหลายครั้งมักฝืนไปเอง ทำให้บางครั้งเพื่อนร่วมทีมก็ตีรถเปล่าทั้งที่วิ่งทำทางสร้างตัวเลือกในการจ่ายบอลให้แล้ว
ทรอสซาร์ สามารถโยกเข้าในและออกด้านข้างได้เป็นธรรมชาติ ไม่ประจำตำแหน่งเดียว และเป็นนักเตะที่ครองบอลดี เสียยาก การเล่นจึงลื่นไหลไม่สะดุด
สองประตูแรกของ อาร์เซน่อล มีการเข้าทำคล้ายกันคือ กรานิต ชาคา จ่ายจากฝั่งซ้ายให้ มาร์ติน โอเดการ์ด วิ่งในเขตโทษแบบไม่ต้องจับ
แต่ถ้าสังเกตใหดีจะเห็นว่าในจังหวะที่ ชาคา เตรียมเปิดจากฝั่งซ้ายจะมี ทรอสซาร์ วิ่งฉีกเข้าเขตโทษตลอด ไม่ใช่ไปค้างอยู่ฝั่งซ้ายด้วยกัน
ตรงนี้ช่วยดึงความสนใจจากกองหลังเชลซีที่ต้องคอยพะวงและขยับตาม ช่องว่างก็เลยเกิดขึ้น บอลเปิดจากฝั่งซ้ายของ ชาคา จึงทะลุช่องยาวมาถึง โอเดการ์ด ที่จบสกอร์ได้เฉียบขาดทั้งสองลูก
โอเดการ์ด มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก เป็นฤดูกาลที่ดีสุดในอาชีพค้าแข้งก็ว่าได้
สองประตูล่าสุดนี้ทำให้ตัวเลขในลีกฤดูกาลนี้เพิ่มเป็น 14 ประตูเข้าให้แล้ว
เทียบกับบรรดากองกองกลางอาร์เซน่อลในยุคพรีเมียร์ลีกก็มีเพียง เชส ฟาเบรกาส คนเดียวที่เคยยิงได้มากกว่าที่จำนวน 15 ประตูในฤดูกาล 2009/10
ยาคุบ คีวิออร์ สอบผ่านกับการเป็นตัวจริงนัดแรกในลีก
สัดส่วนครองบอลของ อาร์เซน่อล ในครึ่งแรกไม่ต่างจาก เชลซี มากนัก แต่ที่เหนือกว่ามากคือการต่อบอลเพื่อสร้างโอกาสลุ้นยิงประตู และสามารถยิงเข้ากรอบได้ถึง 5 ครั้งจาก 8 ครั้ง และได้ 3 ประตู
ส่วนโอกาสลุ้นจะแจ้งของ เชลซี มีเพียงการเติมเกมรุกจนทะลุเข้าไปยิงในเขตโทษของ เบน ชิลเวลล์ ที่ทำให้ อารอน แรมส์เดล ต้องออกแรงเซฟหวุดหวิด
เป็น 45 นาทีแรกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ อาร์เซน่อล การต่อบอลมีความแม่นยำ จังหวะจบสกอร์เด็ดขาด คอนโทรลจังหวะการเล่นได้ และปิดโอกาสของ เชลซี ได้เกือบหมด
แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะ เชลซี เองด้วยซึ่งเห็นได้ชัดว่าคุณภาพในการเล่นมีปัญหาจริงๆ
รูปแบบในการเล่นไม่มีความชัดเจน ขาดความเข้าใจกันและกันทำให้การเล่นร่วมกันมีไม่มีประสิทธิภาพ และแทบไม่มีจังหวะต่อบอลถึง 10 ครั้งได้เลย
เกมรับมีพื้นที่ว่างให้โดนโจมตีตลอด ส่วนเกมรุกก็เหมือนต่างคนต่างเล่น หลายต่อหลายครั้ง โนนี่ มาดูเอเก้ ปีกขวาดาวรุ่งต้องเลี้ยงลุยสร้างโอกาสเอง
ส่วน โอบาเมย็อง กับการลงเล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมอีกครั้งก็ดูโดดเดี่ยวเหลือเกิน
มีสถิติน่าตกใจของ โอบา คือตลอดครึ่งแรก เขาได้สัมผัสบอลเพียง 9 ครั้ง และ 4 ครั้งเป็นการเขี่ยเริ่มเกม
แต่บางคนอาจบอกว่าไม่ได้เซอร์ไพรส์นักเพราะอดีตดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกรายนี้พ้นช่วงเวลาที่ดีสุดไปนานแล้ว และแฟนเชลซีบางคนอาจลืมไปด้วยซ้ำว่ายังมีอยู่ในทีม
รูปเกมที่เป็นรองบวกกับอีก 3 ประตูที่เกิดขึ้นทำให้เกมแทบจะจบทันที โอกาสที่ เชลซี จะกลับมาได้มีน้อยมาก ยิ่งเป็นกับสภาพทีมและความมั่นใจในปัจจุบันยิ่งยาก
หากเป็นในฤดูกาลอื่นที่มาตรฐานการเล่นของ เชลซี ดีกว่านี้และอยู่ในกลุ่มนำอย่างที่ควรจะเป็น พวกเขาลุ้นกลับมาได้แน่เพราะ อาร์เซน่อล ก็ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นเรื่อยๆ
เชลซี ทำได้ดีขึ้นจริงในครึ่งหลังที่พาบอลเข้าพื้นที่อันตรายของปืนใหญ่ได้หลายครั้ง และสามารถทวงคืนมาหนึ่งประตู แต่นั่นก็คือดีสุดที่ทำได้ในฤดูกาลที่มีเรื่องน่าผิดหวังมากมายเกิดขึ้น
ส่วน อาร์เซน่อล กับฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงในครึ่งหลังเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง การรักษาระดับการเล่นให้คงเส้นคงวาตลอด 90 นาทีเป็นอีกจุดที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้
ในหลายนัด อาร์เซน่อล เริ่มต้นดีและน่าจะเก็บชัยชนะไม่ยาก แต่ก็แผ่วไปเองจนคู่แข่งมีความหวัง บางครั้งก็ทำให้ตัวเองเจอความลำบากแบบไม่จำเป็นจากความผิดพลาดง่ายๆ
โอเดการ์ด จบสกอร์ได้เฉียบขาดสุดๆ
จากที่ควรยิงเพิ่มลูกที่ 4 หรือ 5 เพื่อให้ประตูได้-เสียใกล้เคียงกับ แมนฯ ซิตี้ มากขึ้น แต่กลับมาเสียประตูตีไข่แตกจนไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้
ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เสียประตูในบ้านมากกว่านอกบ้านที่ 22 ต่อ 17 ประตู และใน 12 อันดับแรกของตารางก็มีเพียง ฟูแล่ม ที่เสียประตูในบ้านมากกว่า
อาร์เซน่อล ยังมีจุดที่ต้องปรับแก้พอสมควรเพื่อก้าวไปสู่ทีมระดับท็อปอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ และไม่ว่าฤดูกาลนี้จะจบอย่างไร การเสริมทัพครั้งใหญ่คือสิ่งที่ต้องทำในซัมเมอร์นี้
ยาคุบ คีวิออร์ กับการประเดิมตัวจริงครั้งแรกถือว่าสอบผ่าน แต่เกมนี้เขาไม่ได้เจอบททดสอบที่ยากนักด้วยการที่ เชลซี ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดี
นัดต่อไปที่ต้องไปเยือน นิวคาสเซิ่ล จะเป็นความท้าทายที่ยากกว่ามาก แถมอาจต้องจับคู่กับ ร็อบ โฮลดิ้ง เนื่อ่งจาก กาเบรียล มากัลเญส เซนเตอร์ตัวหลักได้รับบาดเจ็บไปอีกรายตามหลัง วิลเลี่ยม ซาลีบา ที่น่าจะหมดสิทธิ์กลับมาเล่นอีกครั้งในฤดูกาลนี้
เป็นเรื่องสำคัญที่ อาร์เซน่อล กลับมาชนะได้ มันเป็น 3 คะแนนที่ทำให้ความหวังลุ้นแชมป์ยังคงมีอยู่หลังก่อนหน้านี้ทำแต้มหล่นไปหลายนัด แต่นัดต่อไปที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค จะเป็นงานหนักสุดๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT