:::     :::

5 แข้งสิงโตชุดขาวก่อนถึง 'จู๊ด'

วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2566 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
1,118
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนล่าสุดที่ย้ายร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมากถึง 103 ล้านยูโร และอาจเพิ่มเป็น 133 ล้านยูโรตามเงื่อนไขในสัญญา

กองกลางวัยย่าง 20 ปี เริ่มฉายแววกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ก่อนถูก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดึงไปขัดเกลาเพิ่มเติมจนกลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดในยุโรป 

3 ปีเต็มในการเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ จู๊ด เบลลิงแฮม เติบโตและยกระดับขึ้นอย่างมากทั้งเรื่องฝีเท้า ประสบการณ์ และความเป็นผู้นำในทีม 

ทั้งหมดทั้งมวลมากพอทำให้ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มทุนสร้างเพื่อกระชากตัวเข้าสู่รังซานติอาโก้ เบร์นาเบว หลังตกเป็นข่าวให้ความสนใจมานาน 

นอกจากเป็นแข้งรายล่าสุดที่ค่าตัวทะลุร้อยล้านยูโรแล้ว เบลลิงแฮม ยังเป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ที่ได้โอกาสค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ตามรอยสตาร์รุ่นพี่ในอดีต

วันนี้เราจะไปทบทวนกันอีกครั้งว่ามีนักเตะสายพันธุ์สิงโตคำรามคนใดบ้างที่เคยเล่นให้ "ราชันชุดขาว" และผลงานออกมา "ปัง" หรือ "พัง" กันบ้าง 


∎ ลอรี่ คันนิ่งแฮม (1979-1984)

  นี่คือนักเตะอังกฤษคนแรกที่เคยเล่นให้ เรอัล มาดริด หลังย้ายจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปสวมชุดขาวในปี 1979 ด้วยค่าตัว 950,000 ปอนด์ซึ่งถือว่าแพงทีเดียวในสมัยนั้น 

อดีตปีกซ้ายทีมชาติอังกฤษประสบความสำเร็จตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ช่วยทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งลา ลีกา และ โกปา เดล เรย์ จากการลงสนาม 41 นัด ยิงได้ 12 ประตู


ฤดูกาลต่อมา คันนิ่งแฮม มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่หายทันลงตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ ที่พบ ลิเวอร์พูล ทว่าทัพราชันพ่ายไป 0-1 ทำให้ได้เพียงรองแชมป์ยุโรป

จากนั้น เจ้าตัวเผชิญกับปัญหาบาดเจ็บตามเล่นงานต่อเนื่องจนแทบไม่ได้ลงสนาม และช่วงสองฤดูกาลสุดท้ายก็ถูกปล่อยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ สปอร์ติ้ง กีฆอน ยืมใช้งาน ก่อนย้ายขาดร่วมทีม โอลิมปิก มาร์กเซย ในฝรั่งเศสเมื่อปี 1984 

ลอรี่ คันนิ่งแฮม ได้กลับมาเล่นในสเปนอีกครั้งกับ ราโย่ บาเยกาโน่ เมื่อปี 1988 ทว่ากลับต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้าจากอุบัติทางรถยนต์ในวันที่ 15 กรกฎาคมของปีถัดมา ขณะอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น

 

สตีฟ แม็คมานามาน (1999-2003)

หลังหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล ในปี 1999 สตีฟ แม็คมานามาน ตัดสินใจย้ายร่วมทีม เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัว โดยนอกจากเป็นนักเตะอังกฤษคนที่สองในประวัติศาสตร์มาดริดแล้วยังเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกคนแรกที่เซ็นสัญญากับทีมดังแห่งเมืองหลวงสเปนอีกด้วย

"แม็คก้า" ใช้เวลาสักพักก่อนปรับตัวกับการเล่นในสเปนจนกลายเป็นอีกหนึ่งตัวหลักของทีมที่ได้ลงสนามรวม 50 นัดในทุกรายการ และสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองด้วยการเอาชนะ บาเลนเซีย 3-0

แม็คมานามาน ประสานแดนกลางกับ เฟร์นานโด เรดอนโด้ ได้อย่างลงตัวพาทีมผ่านด่านแชมป์เก่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อด้วย บาเยิร์น มิวนิค ก่อนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดชิงชนะเลิศกับทัพค้างคาวแถมเป็นคนยิงประตูปิดท้ายจากการกระโดดสลับยิงประตูอย่างสุดสวย


ฤดูกาลต่อมา เรอัล มาดริด ได้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เข้ามาเป็นประธานสโมสรคนใหม่ และต้องการปล่อย แม็คมานามาน ออกจากทีมเพื่อลดค่าเหนื่อยจากการที่สโมสรมีหนี้สิ้นก้อนโต ทว่าปีกจอมเลื้อยปฏิเสธย้ายทีมและขอสู้แย่งตำแหน่งตัวจริงในยุคเริ่มต้น 'กาลาติกอส' ที่นำร่องโดย หลุยส์ ฟิโก้ สตาร์คนใหม่ที่ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า 

  แม้เป็นตัวจริงบ้าง สำรองบ้าง แต่ แม็คมานามาน ก็มีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน สองสมัยในปี 2001 และ 2003 รวมถึงแชมป์ยุโรปสมัยสองในปี 2002 ที่เขาได้ลงเล่นถึง 13 นัดซึ่งรวมถึงนัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 

แม็คมานามาน อำลา เรอัล มาดริด ในปี 2003 ด้วยสถิติลงสนามทั้งหมด 158 นัด ทำได้ 14 ประตู และ 20 แอสซิสต์ ได้แชมป์ร่วมกับทีมทั้งหมด 6 รายการในช่วงเวลา 4 ปี


เดวิด เบ็คแฮม (2003-2007)

เดวิด เบ็คแฮม อำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2003 เพื่อเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ของยุค "กาลาติกอส" เคียงข้างกับ หลุยส์ ฟิโก้, โรนัลโด้ และ ซีเนดีน ซีดาน รวมถึง ราอูล กอนซาเลซ และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ที่อยู่กับทีมก่อนแล้ว 

สถิติการเล่นของ เบ็คแฮม ที่ย้ายด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร ใกล้เคียงกับ สตีฟ แม็คมานามาน เพราะได้ลงสนาม 155 นัด ทำได้ 20 ประตู และค้าแข้งกับทัพราชัน 4 ปีเท่ากัน


แม้จำนวนแชมป์อาจสู้อดีตแข้งลิเวอร์พูลไม่ได้จากการได้เพียง ลา ลีกา และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า อย่างละสมัย แต่ผลงานในสนามก็ได้รับคำชมไม่น้อย และตอบโจทย์ความเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างที่ประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ต้องการ

ฟรีคิกสุดฉมังและการวางบอลยาวอันแม่นยำยังคงเป็นเครื่องหมายการค้าของ "หนุ่มเบ็คส์" ที่ทำให้แฟนบอลชุดขาวได้ฮือฮาอยู่เรื่อยๆ เขาเป็นอีกหนึ่งขวัญใจของสาวกมาดริดดิสต้าและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมทีมอย่างมาก 

เบ็คแฮม อำลาชุดขาวในปี 2007 เพื่อไปลุยเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ กับ แอลเอ แกแล็กซี่ ก่อนแขวนสตั๊ดกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2013 ตอนอายุมากถึง 38 ปีเลยทีเดียว 


ไมเคิ่ล โอเว่น (2004-2005)

เพียงปีเดียวหลังจาก เดวิด เบ็คแฮม ย้ายร่วมทีม เรอัล มาดริด ไมเคิ่ล โอเว่น ก็เป็นแข้งอังกฤษรายต่อมาที่เดินตามรอยเล่นให้กับทัพราชันชุดขาวหลังย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์

โอเว่น ประสบความสำเร็จอย่างมากกับหงส์แดง แต่ชีวิตใหม่ในสเปนไม่สวยงามนัก เขาไม่ใช่ตัวเลือกแรกในตำแหน่งกองหน้าที่มีโคตรดาวยิง ราอูล กอนซาเลซ และ โรนัลโด้ ขวางหน้าถึงสองราย 


ดาวยิงความเร็วสูงได้ลงตัวจริง 26 นัดจากทั้งหมด 45 นัด ทำได้ 16 ประตู และเป็นการยิงในลา ลีกา สเปน 12 ประตูซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยดีสุดในทีมหากเทียบกับเวลาที่อยู่ในสนาม

น่าเสียดายที่ โอเว่น ได้ค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด เพียงฤดูกาลเดียวก็ย้ายกลับอังกฤษไปร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล โดยที่ไม่ได้แชมป์ใดๆ กับทีม 

 

โจนาธาน วู้ดเกต (2004-2007)

ปราการหลังทีมชาติอังกฤษย้ายเข้าสู่ชายคามาดริดในซัมเมอร์ 2004 ปีเดียวกับ ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งถือเป็นดีลที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ทีเดียว 

ที่ว่าเซอร์ไพรส์ไม่ใช่เพราะฝีเท้าไม่ถึงขั้น หากแต่เป็นสภาพร่างกายที่บาดเจ็บบ่อยครั้ง และได้เล่นให้ นิวคาสเซิ่ล เพียง 37 นัดในสองฤดูกาลก่อนย้ายร่วมทีมมาดริดด้วยค่าตัว 13.5 ล้านปอนด์  

วู้ดเกต ที่เคยช่วยให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด เข้ารอบตัดเชือกยูฟ่า คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วงเริ่มต้นอาชีพ ไม่ได้ลงสนามให้ทัพราชันแม้แต่นัดเดียวในฤดูกาลแรกเนื่องจากพักยาวเพราะอาการบาดเจ็บ  


นัดแรกของ วู้ดเกต ในสีเสื้อราชันเป็นเกมพบ แอธเลติก บิลเบา ในเดือนกันยายน ของฤดูกาลต่อมา หรือ 13 เดือนหลังเซ็นสัญญา และกลายเป็นการประเดิมสนามเลวร้ายสุดที่เคยเกิดขึ้นเพราะเจ้าตัวสกัดบอลเข้าประตูตัวเองตามด้วยได้ใบแดงโดนไล่ออกจากสนาม 

หลังจากนั้น วู้ดเกต ได้เล่นให้ทีมอีกเพียง 13 นัด ก่อนถูกปล่อยตัวกลับอังกฤษร่วมทีม มิดเดิลสโบรช์ โดยที่ไม่มีความสำเร็จอันใดติดมือ แถมในปี 2007 ก็ถูกแฟนบอลโหวตผ่าน มาร์ก้า สื่อดังของสเปนให้เป็นการเซ็นสัญญาที่ห่วยแตกสุดของศตวรรษที่ 21 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด