เก็บตกปืนทัวร์แดนลุงแซม
มิเกล อาร์เตต้า พาทีมลงอุ่นเครื่องที่สหรัฐฯ ทั้งหมด 3 นัด เริ่มด้วยชนะ เอ็มแอลเอส ออลสตาร์ หรือ รวมดาราเมเจอร์ลีก 5-0 ที่วอชิงตัน ดีซี ต่อด้วยพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ที่นิวยอร์ก และปิดทัวร์ที่แอลเอในเกมกับ บาร์เซโลน่า
ตลอด 11 นัดในการทัวร์แดนลุงแซมครั้งนี้ มิเกล อาร์เตต้า ได้เตรียมทีม ทดลองแท็กติก และผู้เล่นอย่างที่ต้องการมากน้อยแค่ไหน รวมถึงข้อดีอะไรบ้างที่ได้กลับมาเพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังเปิดฉาก
ความเข้มข้นจริงจังที่มากกว่าเกมอุ่นเครื่อง
แม้เป็นเกมอุ่นเครื่องแต่เห็นได้ชัดว่ามีความเข้มขันและเอาจริงเอาจังกันอย่างมากโดยเฉพาะในสองนัดหลังที่เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า
เกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แลกแข้งกันราวกับว่าเจอกันจริงใจพรีเมียร์ลีกจนมีการฟาวล์รวมกันมากถึง 37 ครั้ง โดยเป็นทางแข้งปีศาจแดงที่ฟาวล์ 22 ครั้ง เรียกได้ว่าจัดหนักตามที่ เอริค เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่าไม่ได้มองเกมนี้เป็นแค่เกมอุ่นเครื่อง
ส่วนการเจอกับ บาร์เซโลน่า ก็ไม่ต่างกัน มีจังหวะฟาวล์หนักๆ และไม่จำเป็นบ่อยครั้งจนหวิดมีมวยแถมให้ดู
ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือบาร์ซ่าถึงกับบ่นว่าไม่ใช่เกมอุ่นเครื่องทั่วไปเพราะ อาร์เซน่อล เล่นเหมือนกำลังแข่งแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งอันที่จริงลูกทีมของ ชาบี ก็หวดแข้งปืนล้มกลิ้งล้มหงายไปไม่น้อยเช่นกัน
อาร์เตต้า กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "นี่เป็นปรีซีซั่น แต่มีการแข่งขันกันสุดๆ ในตอนท้าย เมื่อคุณลงเล่นกับทีมระดับ บาร์เซโลน่า คุณต้องเต็มที่"
"ผมคิดว่านักเตะแสดงให้เห็นถึงระดับการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีด้วยความจริงจัง ความกระหาย และคุณภาพที่เราแสดงให้เห็นโดยเฉพาะในการเล่นเกมรุกซึ่งน่าประทับใจมาก"
แข้งใหม่ทำผลงานได้น่าพอใจ
กลุ่มผู้เล่นใหม่เดินทางไปทัวร์ในครั้งนี้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์, ยูร์เรียน ทิมเบอร์ และ เดแคลน ไรซ์ โดยที่ ฮาแวร์ตซ์ ได้ชิมลางลงสนามก่อนเล็กน้อยในเกมอุ่นเครื่องกับ เนิร์นแบร์ก ก่อนบินสู่อเมริกา
ทั้งสามได้ลงเป็นสำรองทั้งหมดในนัดแรกกับรวมดาราเมเจอร์ลีกก่อนได้ลงตัวจริงในเกมดวล แมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนนัดสุดท้าย ไรซ์ เป็นคนเดียวที่ไม่ได้เล่นเพราะมีปัญหาบาดเจ็บ
ผลงานโดยรวมของแข้งใหม่ถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ซัดไป 2 ประตูในนัดแรกและนัดปิดท้าย การปรับตัวเข้ากับทีมทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ สอดเข้าเขตโทษได้บ่อยครั้ง และวิ่งลงมาช่วยเกมรับตลอด
ส่วน เดแคลน ไรซ์ ค่อนข้างเด่นในนัดแรกกับรวมดาราเมเจอร์ลีกที่แสดงให้เห็นถึงฝีเท้าและความเป็นผู้นำในทันที แต่ในเกมกับปีศาจแดงไม่ใช่เกมที่ดีมากนักซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะแท็กติกของคู่แข่งที่เน้นตัดเกมและใช้บอลยาวจากหลังไปหน้า
ที่ได้รับคำชมมากสุดคือ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ซึ่งนัดแรกก็โชว์ของทันทีในการเล่นแบ็กขวาที่สามารถขยับไปเป็นอินเวิร์ทฟูลแบ็กอย่างที่ อาร์เตต้า ต้องการเห็น มีความคล่องตัวสูง และปรับตัวเข้ากับการเล่นของทีมได้เร็วมาก
นัดสุดท้ายกับ บาร์เซโลน่า ถือว่าไฮไลต์เลยเพราะ อาร์เตต้า ส่งลงเล่น "แบ็กซ้าย" และอดีตแข้ง อาแจ็กซ์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจัดการเกมรุกของคู่แข่งได้อยู่หมัด พร้อมทั้งเติมเกมรุกและปล่อยบอยสวยๆ การยืนตำแหน่ง และคุมพื้นที่ไม่มีพลาดเลย
การทดลองที่หลากหลาย
โครงสร้างในการเล่นยังเป็นระบบ 4-3-3 แต่ระหว่างเกมมีการขยับตำแหน่งอย่างที่เราเห็นกันในฤดูกาลที่แล้ว และมีความยืดหยุ่นที่ค่อนข้างดี
อาร์เตต้า ได้ทดลองผู้เล่นอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการให้ ยาคุบ คีวิออร์ เล่นอินเวิร์ทฟูลแบ็กซึ่งทำได้ดีขึ้นกว่านัดที่เสมอเนิร์นแบร์กที่เสียบอลบ่อยครั้งและดูจะไม่รู้วิธีการเล่นเท่าที่ควร
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ถูกทดลองในการเล่นฟูลแบ็กตัวในอย่างที่คาดเอาไว้ และที่เซอร์ไพรส์หลายคนคือการลงเล่นแบ็กซ้ายและทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นตัวสารพัดประโยชน์ในเกมรับไปแล้ว
ส่วนในเกมรุก เลอันโดร ทรอสซาร์ ขโมยซีนที่สุดหลังถูกปรับตำแหน่งการเล่นจากปีกเป็นกองกลางแนวบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ที่ต้องช่วยทั้งเกมรุกและเกมรับ
ด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่มีอยู่แล้ว บวกกับความคล่องแคล่วในการเปลี่ยนทิศทางการเล่น และอ่านเกมคู่แข่งทำให้ ทรอสซาร์ สามารถเชื่อมเกมได้ตลอด เป็นตัวที่เพื่อนไว้ใจได้ในการฝากบอลเพราะเอาตัวรอดได้ตลอด เกมไม่มีสะดุด
นัดสุดท้ายกับ บาร์เซโลน่า ทรอสซาร์ ขยับขึ้นมาเล่นปีกแบบที่ถนัดมากขึ้น แต่ก็วิ่งส่ายไปทั่วสลับตำแหน่งกับ กาเบรียล เชซุส และ ไค ฮาแวร์ตซ์ จนกระทั่งกดสองประตูที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง
ขุมกำลังที่เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ
การมาของสามผู้เล่นใหม่ รวมถึงแกนหลักจากฤดูกาลที่แล้วที่ยังอยู่กันเกือบครบยกเว้นเพียง กรานิต ชาก้า ที่ปล่อยไปให้ เลเวอร์คูเซ่น ขุมกำลังของ อาร์เซน่อล ในตอนนี้ถือว่ามีทั้งปริมาณและคุณภาพอย่างมาก
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เข้ามาเติมเต็มเกมรับให้สมบูรณ์มากขึ้นทั้งการเป็นอะไหล่ของ เบน ไวท์ ในตำแหน่งแบ็กขวาที่อาจเบียดตัวจริงได้ด้วยซ้ำ ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กก็เล่นประจำอยู่แล้วตอนค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ ทำให้ อาร์เตต้า ไม่จำเป็นต้องทดลองเพิ่มเติม
และแน่นอนอ็อปชั่นพิเศษกับการเล่นแบ็กซ้ายซึ่งฤดูกาลที่แล้วมักมีปัญหาในเวลาที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ บาดเจ็บ
ตรงกลางมี เดแคลน ไรซ์ เจ้าของค่าตัวสถิติสโมสร 105 ล้านปอนด์ เข้ามาเพิ่ม คุณภาพฝีเท้ามีอยู่แล้วรอแค่ให้เวลาปรับตัวเข้ากับอีกทีมหน่อยก็น่าจะสร้างผลงานอย่างที่หลายคนต้องการเห็นได้
ส่วน ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกในตำแหน่งการเล่นที่ กรานิต ชาก้า ทิ้งเอาไว้ได้โดยที่แย่งตำแหน่งกับ เลอันโดร ทรอสซาร์ และ เอมิล สมิธ โรว์ สนุกแน่นอน หรือการสอดเข้าเขตโทษไปเป็นหน้าเป้าก็เป็นสิ่งที่เคยเล่นบ่อยครั้งตอนอยู่ เชลซี และทำให้เห็นอีกครั้งในนัดสุดท้ายกับบาร์ซ่า
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ทรอสซาร์ ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายที่แทบจะเล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก เป็นผู้เล่นที่ผลงานเด่นสุดในปรีซีซั่นครั้งนี้ก็ว่าได้
อีกคนที่หากอยู่กับทีมต่อก็น่าจะเป็นสิ่งที่แฟนบอลแฮปปี้กันมากคือ โธมัส ปาร์เตย์ ที่ตามไปสมทบกับเพื่อนตอนหลัง และยังคงแสดงให้เห็นว่าสำคัญต่อทีมโดยเฉพาะในเกมกับ บาร์เซโลน่า ที่คุมแดนกลางได้ครบเครื่องต้มยำสุดๆ
จุดน่าเสียดาย
มีหลายคนที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนและความฟิตไม่เต็มที่ทำให้ไม่ได้ลงสนามเลยไม่ว่าจะเป็น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ขณะที่ เดแคลน ไรซ์ ก็พลาดในนัดสุดท้ายเพราะเจ็บน่อง
แต่คนที่น่าเสียดายมากสุดคือ โฟลาริน บาโลกุน กองหน้าดาวรุ่งที่ได้ลงเล่นแค่นัดแรกในฐานะสำรอง ก่อนมีปัญหาความฟิตและไม่มีส่วนร่วมเลยในสองเกมใหญ่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า
บาโลกุน ทำผลงานยอดเยี่ยมในการเล่นให้ แร็งส์ ในลีก เอิง ด้วยสัญญายืมตัวฤดูกาลที่แล้ว และการทัวร์ปรีซีซั่นครั้งนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะแสดงฝีเท้าให้ทุกคนได้เห็นมากขึ้นซึ่งรวมถึงทีมที่กำลังสนใจอยากดึงตัวไปร่วมทีมโดยเฉพาะ อินเตอร์ มิลาน
อนาคตของหัวหอกวัย 22 ปี สามารถออกได้ทุกหน้าไม่ว่าจะเป็นอยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า และย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ แต่พอได้รับบาดเจ็บก็ส่งผลต่อการย้ายทีมที่ชะงักไปพอสมควร
ในแง่ธุรกิจ อาร์เซน่อล ถือว่าเสียโอกาสโชว์สินค้าก่อนเรียกราคาให้มากที่สุดหากต้องปล่อยออกจากทีมจริงๆ ส่วนตัวนักเตะก็ขาดการมีปรีซีซั่นที่ดีเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่
...
ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า ก็ได้กล่าวส่งท้ายการทัวร์ปรีซีซั่นว่า "ผมคิดว่าเป็นความท้าทายนะเพราะเราต้องเดินทางกันมากและต้องปรับตัวหลายอย่าง แต่ทีมก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเข้ากับเวลาที่แตกต่างกัน สนามต่างๆ อุณหภูมิจนถึงคู่แข่งที่ต่างกัน มันเป็นบททดสอบที่ดีมากๆ และผมก็พอใจกับผลลัพธ์สุดๆ"
"แน่นอนว่าตอนนี้เรารู้สึกถึงความแตกต่างอย่างมากในสหรัฐฯกับการสนับสนุนที่เราได้รับ เราอยู่ในสามเมืองทั้งวอชิงตัน ดีซี, นิวยอร์ก และแอลเอซึ่งการสนับสนุนก็เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกคนเพราะเรารู้สึกกับที่นี่ในตอนนี้ว่าเหมือนได้อยู่บ้านจริงๆ"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT