ผ่าทัพปืนชุดท้าลุ้นแชมป์อีกครั้ง

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมชาวสแปนนิช และ เอดู ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร จัดการดึงแข้งใหม่มาร่วมทีมได้หลายคนด้วยค่าตัวรวมทะลุ 200 ล้านปอนด์ มากกว่าทุกทีมในลีก

เดแคลน ไรซ์ กองกลางกัปตันทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ย้ายเข้ามาด้วยสถิติแพงสุดของสโมสร 105 ล้านปอนด์ 

ไค ฮาแวร์ตซ์ แนวรุกทีมชาติเยอรมนีจาก เชลซี ในราคา 65 ล้านปอนด์ 

และ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังทีมเนเธอร์แลนด์ที่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในราคาเบื้องต้น 34 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 38.5 ล้านปอนด์

ล่าสุด เพิ่งปิดดีลดึง ดาบิด ราย่า นายทวารทีมชาติสเปนมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ด้วยสัญญายืมตัว 3 ล้านปอนด์ พร้อมมีเงื่อนไขซื้อขาด 27 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์หน้า

ส่วนตัวหลักที่ย้ายออกไปมีเพียง กรานิต ชาก้า กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่กลับไปเล่นในบุนเดสลีกาอีกครั้งกับ เลเวอร์คูเซ่น

อาร์เตต้า รักษาแกนหลักจากฤดูกาลที่แล้วเอาไว้ได้เกือบครบ แถมจับต่อสัญญาใหม่อีกเพียบไม่ว่าจะเป็น อารอน แรมส์เดล, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มากัลเญส, รีสส์ เนลสัน และ วิลเลี่ยม ซาลีบา

ตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้เหลือเวลาอีกพอสมควรจนกว่าจะปิดตัวลงในวันที่ 1 กันยายน ทำให้มีความเป็นไปได้อีกมากมายทั้ง "ขาเข้า" และ "ขาออก" แต่หากประเมินตัวผู้เล่นตอนนี้ของ อาร์เซน่อล ถือว่าค่อนข้างพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ที่เป้าหมายของทีมเป็นอื่นใดไม่ได้นอกจาก "ลุ้นแชมป์" เท่านั้น 

เราจะมีวิเคราะห์กันว่าขุมกำลังของปืนใหญ่มีจุดแข็ง หรือจุดอ่อนแค่ไหนอย่างไรกันบ้างในฤดูกาลใหม่ที่จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในสุดสัปดาห์นี้กันแล้ว

เริ่มที่ตำแหน่ง "ผู้รักษาประตู"

อารอน แรมส์เดล ยังคงเป็นมือหนึ่งเหมือนสองฤดูกาลที่ผ่านมา โดยฤดูกาลที่แล้วลงเล่นครบ 38 นัดในลีก เก็บไป 14 คลีนชีต และเสียไป 43 ประตู ดีสุดเป็นอันดับ 3 ของลีกรองจาก แมนฯ ซิตี้ กับ นิวคาสเซิ่ล 

แต่มือสองเปลี่ยนจาก แมตต์ เทอร์เนอร์ ที่ย้ายไป น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เป็น ดาบิด ราย่า นายทวารคนใหม่ที่เพิ่งตกลงย้ายมาจาก เบรนท์ฟอร์ด

ดาบิด ราย่า เข้ามาแย่งมือหนึ่งกับ อารอน แรมส์เดล

ดาบิด ราย่า เป็นมือสองในช่วงแรก แต่มีศักยภาพลุ้นเบียดมือหนึ่งจาก แรมส์เดล ได้เลยเพราะฝีมือใกล้เคียงกันมาก แถมมีสถิติบางอย่างเช่นกันเปิดบอล การเซฟ ฯลฯน ที่ดีกว่าด้วยซ้ำ

ถือว่าเป็นฤดูกาลที่มือหนึ่งกับมือสองมีคุณภาพสูสีกันมากสุดในรอบหลายปี สามารถทดแทนกันได้สบาย รวมถึงช่วยทีมมีลุ้นเข้ารอบลึกๆ ในบอลถ้วยได้มากขึ้น

ความพร้อมของผู้รักษาประตู : A+

ส่วนในตำแหน่ง "กองหลัง" ได้ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และยังไม่เสียใครไปจนถึงตอนนี้

ทิมเบอร์ แสดงให้เห็นในทันทีทันใดว่าคุณภาพคับแก้วสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทักษะส่วนตัว การปรับตัวเข้ากับทีม และความหลากหลายในการเล่น

แนวรับชาวดัตช์วัย 22 ปี เล่นเซนเตอร์แบ็กเป็นส่วนใหญ่ให้ อาแจ็กซ์ แต่สามารถเล่นแบ็กขวาได้ด้วยซึ่งในช่วงปรีซีซั่นแรกๆ อาร์เตต้า ก็จับเล่นแบ็กขวา พร้อมกับขยับเป็นอินเวิร์ทฟูลแบ็กได้อีกด้วย 

ทว่าที่เซอร์ไพรส์สุดคือโยกมาเล่นแบ็กซ้ายตลอด 3 นัดหลังในการเตรียมทีมก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ แถมทำผลงานได้เด่นสุดๆ 

ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (ขวา) เสริมเกมรับให้แกร่งมากขึ้น

ว่ากันว่าตอนนี้ แฟนบอลต่างยกให้ ทิมเบอร์ เป็นตัวเลือกแบ็กซ้ายอันดับหนึ่งไปแล้วโดยเฉพาะในช่วงที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ยังไม่ฟิตเต็มร้อย 

การมาของ ทิมเบอร์ รวมถึง ยาคุบ คีวิออร์ ในตลาดหน้าหนาวกลางฤดูกาลที่แล้วทำให้ตัวเลือกในเกมรับของ อาร์เซน่อล พร้อมมากยิ่งขึ้น สามารถจัดได้สองชุดสบาย และหลายคนก็เล่นได้สารพัดตำแหน่ง

แบ็กขวามี เบน ไวท์ เป็นตัวเลือกแรก ตามด้วย ยูร์เรียน ทิมเบอร์ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ

แบ็กซ้ายมี โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่เบียดกับ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ พร้อมกับมี คีแรน เทียร์นีย์ กับ โทมิยาสึ เป็นอีกสองตัวเลือก นอกจากนี้ ยาคุบ คีวิออร์ ก็เคยถูกจับลงเล่นตำแหน่งนี้ในหลายนัด 

ส่วนคู่เซนเตอร์แบ็กมี วิลเลี่ยม ซาลีบา กับ กาเบรียล มากัลเญส เป็นตัวยืนซึ่งหากใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบน เบน ไวท์ จะถูกขยับเข้าไปทำหน้าที่แทนได้ง่ายขึ้นเพราะมี ทิมเบอร์ คอยสแตนด์บายแบ็กขวาอยู่แล้ว อีกคนคือ ยาคุบ คีวิออร์ ที่น่าจะเป็นอะไหล่ให้กับ มากัลเญส 

นอกจากยังมี ร็อบ โฮลดิ้ง ที่แม้คุณภาพดูจะเป็นรองทุกคนในเกมรับ แต่ด้วยการที่ไม่มีปัญหาใดๆ กับบทบาทในทีมไม่ว่าจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่น ก็ทำให้เขายังไม่ถูกปล่อยตัวออกไปไหน

อีกจุดสำคัญคือหาก วิลเลี่ยม ซาลีบา สามารถยืนระยะช่วยทีมได้ต่อเนื่อง ไม่บาดเจ็บเหมือนท้ายฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล จะมีโอกาสอย่างมากในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ 

ความพร้อมของกองหลัง : A+

ต่อกันที่ตำแหน่ง "กองกลาง" 

เดแคลน ไรซ์ เป็นเป้าหมายหลักของ มิเกล อาร์เตต้า ในการเสริมทัพซัมเมอร์นี้ และสามารถคว้าตัวมาร่วมทีมได้ในที่สุดแม้ต้องเจรจากับ เวสต์แฮม หลายต่อหลายรอบจนสุดท้ายยอมกัดฟันจ่ายถึงหนึ่งร้อยล้านปอนด์สำหรับนักเตะเพียงคนเดียวเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

อาร์เตต้า ต้องการกองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้มาร่วมทีมนานแล้วเพราะมองว่าสามารถเป็นตัวแทนของ กรานิต ชาก้า และ โธมัส ปาร์เตย์ ที่เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพ 

เดแคลน ไรซ์ เป้าหมายอันดับหนึ่งที่ดึงร่วมทีมได้สำเร็จ

ตอนนี้เหลือ ปาร์เตย์ ที่ยังไม่ได้ย้ายออกไป และ อาร์เตต้า ก็พอใจเก็บเอาไว้ใช้งานต่อหากไม่ได้ข้อเสนอก้อนโตจริงๆ ขณะที่ตัวของ ปาร์เตย์ ก็แฮปปี้ที่ได้อยู่ค้าแข้งในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกฤดูกาล 

อาร์เตต้า เริ่มให้ ปาร์เตย์ เล่นร่วมกับ ไรซ์ ในช่วงหลังโดยที่กองกลางทีมชาติกานาปักหลักต่ำสุดเหมือนที่เล่นมาอยู่แล้ว ส่วน ไรซ์ ขยับสูงกว่าเหมือนเล่นแทนตำแหน่งของ ชาก้า ในฤดูกาลที่แล้ว

การประสานงานกันของทั้งคู่ยังต้องดูในระยะยาวต่อไป แต่จากผลงานในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และ ไรซ์ ก็ช่วยแบ่งเบาภาระของ ปาร์เตย์ ได้อย่างมากเพราะมีเซนซ์การเล่นเกมรับโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

หาก ปาร์เตย์ บาดเจ็บซึ่งเกิดขึ้นบ่อยใน 1-2 ฤดูกาลหลังที่ผ่านมา ไรซ์ น่าจะถูกถอยลงมาเล่นแทนซึ่งเป็นตำแหน่งที่เล่นประจำอยู่แล้วตอนอยู่ เวสต์แฮม รวมถึงทีมชาติอังกฤษ หรือหากเจอคู่แข่งที่ไม่หนักมาก และเน้นการจ่ายบอลเพื่อทลายการตั้งรับต่ำในแดนตัวเอง จอร์จินโญ่ ที่มาจาก เชลซี กลางฤดูกาลที่แล้วก็มีโอกาสได้ลงแทน ปาร์เตย์ 

ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เตต้า ปรับมาเล่น 4-3-3 ชัดเจนมากขึ้นโดยการมี กรานิต ชาก้า กับ มาร์ติน โอเดการ์ด ยืนขนาบข้าง โธมัส ปาร์เตย์ แต่ในระนาบสูงกว่า ส่วนฤดูกาลใหม่นี้มีโอกาสใช้แท็กติกนี้เหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนจาก ชาก้า เป็น ไรซ์ 

หรือหากต้องการใช้ ไรซ์ เล่นในตำแหน่ง ปาร์เตย์ ตำแหน่งหมายเลข 8 ที่ว่างลงก็จะมี ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ พร้อมทำหน้าที่แทน 

ฮาแวร์ตซ์ อาจต้องเล่นหน้าเป้าบ่อยครั้งในช่วงต้นฤดูกาล

ฮาแวร์ตซ์ กับ ทรอสซาร์ ต่างถูกทดลองเล่นในตำแหน่งนี้มาแล้วช่วงปรีซีซั่นโดยเฉพาะ ทรอสซาร์ ที่ต้องปรับตัวมากกว่าเพราะปกติเล่นตำแหน่งปีก ทว่ากลับทำผลงานได้ดีเหลือเชื่อ และมีลุ้นเบียดตัวจริงได้เช่นกัน 

ความพร้อมของกองกลาง : A

กองหน้า/ปีก 

เกมรุกของ อาร์เซน่อล เป็นรองแค่ แมนฯ ซิตี้ ทีมเดียวในฤดูกาลที่แล้ว มาร์ติน โอเดการ์ด, บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ต่างทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ขณะที่ กาเบรียล เชซุส ที่ย้ายมาฤดูกาลแรกก็ถือว่าน่าพอใจแต่โชคร้ายเจ็บหนักพักไปหลายเดือน

เอมิล สมิธ โรว์ ที่แทบไม่มีบทบาทในฤดูกาลล่าสุดเพราะบาดเจ็บ ฟิตกลับมาพร้อมลุยอีกครั้ง และหวังจะเรียกช่วงเวลาดีๆ ของตัวเองคืนให้ได้ หากเล่นได้เหมือนฤดูกาล 2021/22 ที่สวมหมายเลข 10 เป็นครั้งแรกก็ช่วยทีมได้เยอะแน่นอน

ส่วน เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่เข้ามาเสริมทีมในช่วงกลางฤดูกาล เป็นคนที่น่าจับตามองอย่างมากในฤดูกาลใหม่นี้หลังผ่านปรีซีซั่นด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ในฤดูกาลก่อนที่ย้ายมาช่วง 4-5 เดือนหลังก็ทำแอสซิสต์ไปเพียบทีเดียว

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, รีสส์ เนลสัน และ ฟาบิโอ วิเอร่า เป็นกลุ่มสำรองที่ทำได้ดีบ้างในบางนัด แต่จำเป็นต้องเค้นฟอร์มและมีความสม่ำเสมอให้มากกว่านี้ 

ผู้มาใหม่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ถูกคาดหวังพอสมควรเพราะย้ายมาราคาแพงเอาเรื่อง แต่บทบาทการเล่นของ ฮาแวร์ตซ์ ยังไม่ชัดเจนในเรื่องตำแหน่งในสนาม

อาร์เตต้า ต้องลุ้นให้ เชซุส ช่วยทีมได้ตลอดฤดูกาล

เขาถูกจับเล่นทั้งกองกลางหมายเลข 8 และกองกลางตัวรุก รวมไปถึงช่วงนี้ที่อาจต้องรับหน้าที่กองหน้าตัวเป้าไปสักระยะระหว่างรอ กาเบรียล เชซุส หายเจ็บกลับมา

ตำแหน่งหน้าเป้าของ อาร์เซน่อล ยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่พอสมควรเพราะรายของ เชซุส แม้ภาพรวมค่อนข้างโอเค แต่พอเทียบกับ "ตัวเดียวจบครบทุกฟังก์ชั่น" แบบ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ของ แมนฯ ซิตี้  ก็ต้องยอมรับว่าหัวหอกทีมชาติบราซิลเป็นรองอยู่มาก ขณะที่ ฮาแวร์ตซ์ ก็ไม่ใช่ตัวเป้าธรรมชาติแม้เล่นบ่อยครั้งตอนอยู่ เชลซี ก็ตาม  

แฟนบอลไม่น้อยจึงอยากได้กองหน้ารายใหม่เพิ่มในตลาดซัมเมอร์นี้ หรือไม่ก็ลองให้โอกาส โฟลาริน โบลากุน แบบเต็มๆ หลังปล่อยพลังอย่างเต็มที่ในฤดูกาลก่อนที่เล่นให้ แร็งส์ ด้วยสัญญายืมตัว 

อย่างไรก็ตาม บาโลกุน อยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่ อาร์เซน่อล พิจารณาปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อรายได้เข้าสโมสรหลังจากทุ่มไปเยอะในซัมเมอร์นี้ แถมในช่วงปรีซีซั่นก็ได้เล่นเพียงนิดเดียวเพราะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน  

เทียบกับตำแหน่งอื่นแล้ว แนวรุก อาร์เซน่อล มีความพร้อมระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีสุดโดยเฉพาะสำรองหลายคนที่คุณภาพยังห่างจากตัวจริงอยู่มาก ดังนั้น อาร์เตต้า ต้องหวังให้แกนหลักอย่าง ซาก้า, มาร์ติเนลลี่ และ เชซุส อยู่ในสภาพความฟิตที่ดีที่สุดและสามารถช่วยทีมได้ตลอดฤดูกาล 

ความพร้อมของกองหน้า/ปีก : B+