งานยากที่กัดฟันผ่านไปได้
"พาเลซ เป็นทีมที่ดีมาก คุณเห็นบรรยากาศตั้งแต่เริ่มอยู่แล้วซึ่งไม่น่าจะมีที่ไหนที่มีบรรยากาศดั้งเดิมและมีความเป็นอังกฤษมากไปกว่านี้อีกแล้ว ผมดีใจที่เราเอาชนะได้"
มิเกล อาร์เตต้า สรุปหลังเกมที่นำ อาร์เซน่อล บุกควัก 3 คะแนนกลับออกมาได้หวุดหวิดด้วยชัยชนะ 1-0 ในเกมที่ต้องเล่นเพียง 10 คนนานครึ่งชั่วโมง
ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่ได้โอกาสตัวจริงตำแหน่งแบ็กซ้าย โดนไล่ออกในนาที 67 หลังรับใบเหลืองที่สองต่อจากใบแรกใน 7 นาทีก่อนหน้านั้น
แต่ 10 คนของ อาร์เซน่อล สามารถต้านเกมเกมรุกของเจ้าถิ่นและรักษาสกอร์นำจากจุดโทษของ มาร์ติน โอเดการ์ด เอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งซึ่งรวมถึงช่วงทดเจ็บอีก 7 นาที
ตำแหน่งของ โทมิยาสึ คือจุดเดียวที่ อาร์เตต้า ปรับจากนัดเปิดสนามที่ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังตัวใหม่โชคร้ายบาดเจ็บหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดพักยาวหลายเดือน
โธมัส ปาร์เตย์ ได้เล่นแบ็กขวาอีกนัดเพื่อรับหน้าที่พิเศษ 'อินเวิร์ทฟูลแบ็ก' ทำให้คู่เซนเตอร์เป็น เบน ไวท์ กับ วิลเลียม ซาลีบา เหมือนนัดแรก กาเบรียล มากัลเญส จึงนั่งสำรองเป็นนัดที่สองติดต่อกัน
อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายคอนโทรลเกม และต่อบอลบุกได้มากกว่าตามคาด แต่จาก 9 ครั้งที่มีโอกาสยิงในครึ่งแรกยังไม่ดีพอที่จะเป็นประตู
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ มีโอกาสใกล้เคียงสุดกับ 2 จังหวะที่พลิกเข้าไปยิงชนเสา และหลุดเดี่ยวก่อนชิพบอลข้ามคาน ส่วนลูกยิงไกลของ บูคาโย่ ซาก้า และ มาร์ติน โอเดการ์ด ยังไม่ผ่านมือ แซม จอห์นสตัน นายทวารเจ้าถิ่น
ก่อนลงสนามนัดนี้ มิเกล อาร์เตต้า มีสถิติพาทีมลงเล่นนัดเยือนในคืนวันจันทร์ค่อนข้างเลวร้ายเพราะปราชัยตลอด 4 นัด ไม่สามารถเก็บคะแนนได้เลย
แต่สิ่งที่ อาร์เตต้า และ อาร์เซน่อล ต้องการคือประตูขึ้นนำซึ่งทำได้สำเร็จในต้นครึ่งหลังกับวิธีการเล่นที่พยายามตั้งแต่ครึ่งแรก
อาร์เตต้า รู้ว่าเกมนี้ยากมาก เขาจึงเน้นย้ำกับลูกทีมให้ฉกฉวยโอกาสจากทุกจังหวะที่มีให้ได้ซึ่งรวมถึงการเล่นเร็วหลังได้ฟาวล์เพื่อไม่ให้คู่แข่งตั้งตัวทัน
ในครึ่งแรก อาร์เซน่อล พยายามเล่นฟรีคิกเร็วมาแล้ว และมาลงล็อกในครึ่งหลังที่ มาร์ติเนลลี่ แทงบอลให้ เอ็นเคเทียห์ วิ่งแตะบอลได้ก่อน จอห์นสตัน ที่ช้ากว่าไปนิดเดียว ทำให้กลายเป็นจุดโทษ
ครั้งนี้ มือสังหารเปลี่ยนเป็น มาร์ติน โอเดการ์ด ที่เลือกยิงแทน บูคาโย่ ซาก้า ซึ่งเป็นการตกลงกันเองของนักเตะ มิเกล อาร์เตต้า ไม่ได้กำหนดใหม่ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการตัดสินใจของลูกทีม
จุดสำคัญต่อมาคือการถูกไล่ออกของ โทมิยาสึ ที่ค่อนข้างก่อให้เกิดความเห็นพอสมควรเพราะตามกฎถือว่าให้ใบเหลืองได้จากการเบรกฟาวล์คู่แข่ง แต่พอเป็นเหลืองสองและกลายใบแดงจึงดูโหดร้ายไปหน่อยโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอีกจังหวะที่ จอร์แดน อายิว ไม่ได้ใบเหลืองเลยจากการทำฟาวล์ชัดเจนกว่าใส่ ซาก้า
การเปลี่ยนแปลงแท็กติกของ มิเกล อาร์เตต้า และ ร็อย ฮ็อดจ์สัน เป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาร์เตต้า ส่งตัวรับมาเพิ่มเพื่อรักษาสกอร์ ส่วน พาเลซ ส่งตัวรุกลงมาหวังตีเสมอให้ได้
ไรซ์ สะใจกับ โอเดการ์ด หลังจบเกม
พาเลซ บุกแหลกตลอด 23 นาทีที่เหลือรวมถึง 7 นาทีของช่วงทดเจ็บ ขณะที่ อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายตั้งรับในแดนตัวเองเป็นหลัก
ตัวเลขการครองบอลของ พาเลซ เพิ่มจาก 29 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งแรก เป็น 61 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งหลัง และโอกาสยิงประตูเพิ่มจาก 5 ครั้งเป็น 10 ครั้ง
ทว่าความเฉียบคมในเกมรุกของทัพดิ อีเกิ้ลส์ มีน้อยจากการยิงเข้ากรอบครั้งเดียวและติดบล็อกอีกด้วย
ในสถานการณ์ที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหลังมีผู้เล่นถูกไล่ออก อาร์เซน่อล ทำได้ดีมากกว่าเพราะเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม และปิดโอกาสจะแจ้งของ พาเลซ ได้เกือบหมด
นอกจากจังหวะที่ออกมาตัดลูกครอสแล้ว อาร่อน แรมส์เดล ไม่ได้ออกแรงเซฟเลยในครึ่งหลัง กองหลังเพื่อนร่วมทีมช่วยป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม
กาเบรียล มากัลเญส เป็นคนแรกที่ถูกส่งลงไปช่วยเกมรับ จากนั้นก็เป็น จอร์จินโญ่, ยาคุบ คีวิออร์ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลงไปเสริม และแลกกับตัวรุกอย่าง มาร์ติเนลลี่, เอ็นเคเทียห์, ซาก้า และ โอเดการ์ด ที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก
สำรองที่ อาร์เตต้า ส่งลงช่วยได้เยอะมากในการครองบอลเพราะ 4 คนที่ลงสนามจ่ายบอลจ่ายบอลไม่พลาดเลย สถิติ 100 เปอร์เซ็นต์ทุกคน
ในช่วงท้าย อาร์เซน่อล สามารถลำเลียงบอลขึ้นมาเคาะในแดนของ พาเลซ ได้พักใหญ่ โชว์คุณภาพและความนิ่งให้เห็นราวกับว่าเป็นฝ่ายที่มีผู้เล่นมากกว่า
ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายที่ผู้เล่นน้อยกว่า อาร์เซน่อล เรียกฟาวล์ได้ถึง 4 ครั้ง และเสียฟาวล์เพียง 3 ครั้ง
ตัวสำรองจ่ายบอลไม่พลาดเลย
และสุดท้ายรักษาสกอร์นำจนสิ้นเสียงนกหวีดยาวได้สำเร็จ และได้อีก 3 คะแนนล้ำค่ากลับออกจากเซลเฮิร์สต์ ปาร์ค
นี่เป็นอีกเกมที่ อาร์เซน่อล เจองานที่ยากลำบาก และระหว่างเกมมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับการที่ผู้เล่นถูกไล่ออก แต่การปรับรูปเกมและช่วยกันเล่น สมาธิไม่มีหลุด และสู้ในทุกจังหวะทำให้ได้รับชัยชนะที่คู่ควรและสำคัญที่สุดอีกนัดในฤดูกาล
แน่นอนว่า การชนะได้สวยงาม ยิงประตูขาดลอย ไม่ต้องลุ้นเหนื่อยเป็นสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้ว แต่การชนะได้ในสถานการณ์แบบนี้ก็เป็นการผ่านบททดสอบสำคัญไปได้อีกครั้ง และทำให้นักเตะในทีมเชื่อมั่นซึ่งกันและกันอีกครั้งว่าสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากๆ ได้
"ผมความสุขที่ชนะ มีความสุขเสมอ และยิ่งมีความสุขมาก ๆ กับวิธีการที่เอาชนะด้วยผู้เล่น 11 คนและ 10 คน รวมถึงวิธีที่ทีมปรับตัว และความต้องการของพวกเขาที่จะเอาชนะให้ได้ ผมชอบเลยกับการชนะได้แบบนี้" อาร์เตต้า ชื่นชมลูกทีมหลังเกม
นี่คือ 3 แต้มที่ล้ำค่าอีกนัดสำหรับ อาร์เซน่อล
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT