:::     :::

ปืนพลาดเอง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ระหว่างสองคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนตอนเหนือจบด้วยการเสมอกันไปอย่างสุดมันส์และสมศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง

อาร์เซน่อล ขึ้นนำก่อนถึงสองรอบ แต่ สเปอร์ส ก็ตามตีเสมอได้ทั้งสองรอบทำให้แบ่งคะแนนกลับออกไปได้เป็นครั้งแรกหลังมือเปล่าตลอด 3 ครั้งก่อนหน้านี้

ทั้งสองทีมยังรักษาผลงานไร้พ่ายในฤดูกาลนี้เอาไว้ได้ แต่ อาร์เซน่อล ในฐานะเจ้าบ้านย่อมรู้สึกผิดหวังมากกว่าที่ไม่สามารถเอาชนะ 

ที่สำคัญคือ ชัยชนะที่หลุดมือไปมาจากความผิดพลาดของตัวเองอีกด้วย 

ทีมปืนใหญ่มีโอกาสมากมายในการยืดสถิติเปิดบ้านเอาชนะคู่แค้นตลอดกาลเป็นฤดูกาลที่ 4 ติตต่อกัน แต่ก็ทิ้งโอกาสอย่างน่าเสียดาย

มิเกล อาร์เตต้า เลือกเปลี่ยนทีม 2 จุดจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เอาชนะ พีเอสวี สวยงาม 4-0 ด้วยการส่ง กาเบรียล เชซุส ลงเล่นเกมรุกฝั่งซ้ายแทน เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่บาดเจ็บก่อนเกม และอีกตำแหน่งเป็น ฟาบิโอ วิเอร่า ได้เล่นแทน ไค ฮาแวร์ตซ์

ส่วน สเปอร์ส ของกุนซือ แอนจ์ พอสเตโคกลู สลับให้ เบรนแนน จอห์นสัน ลงแทน มาเนอร์ โซโลมอน เพื่อเล่นเกมรุกร่วมกับ เดยัน คูลูเซฟสกี้ และ เจมส์ แมดดิสัน โดยมี ซน ฮึง-มิน เป็นหน้าเป้า ขณะที่ ริชาร์ลิซอน ยังสำรองอีกนัดแม้เป็นซูเปอร์ซับในเกมแซงชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1

อาร์เซน่อล คอนโทรลเกมได้ดีกว่าในช่วงแรกซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้เกือบทุกนัดอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็สามารถไล่เพรสไล่บีบการเปิดบอลของผู้เล่นแนวรับไก่เดือยทองได้ดีทีเดียว ทำให้การขึ้นเกมของทีมเยือนเป็นไปลำบาก 


ราย่า โชว์ซูเปอร์เซฟ แต่สุดท้ายก็โดนยิง 2 ลูกอยู่ดี

ประตูแรกเกิดขึ้นในเวลาไม่นานมาก และเป็น บูคาโย่ ซาก้า ที่คุกคามเกมรับฝั่งซ้ายของ สเปอร์ส ได้ตลอดก่อนมีส่วนกับประตูขึ้นนำในที่สุด 

ซาก้า ได้โอกาสโยกตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายลูกถนัด บอลไปแฉลบ คริสเตียน โรเมโร่ ที่พยายามสกัดแต่กลายเป็นเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองขณะที่ วิคาริโอ ไม่มีทางเซฟได้เพราะขยับตัวไปไปอีกทาง

ก่อนหน้าประตูแรกนี้ ซาก้า ก็มีจังหวะเปิดโด่งข้ามไปให้ กาเบรียล เชซุส สอดมายิงมุมแคบเสาไกลติดเซฟ และอีกจังหวะช่วยบีบแดนบนจนทำให้ เดสตินี่ อูโดกี จ่ายคืนหลังพลาดเปิดโอกาสให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดเดี่ยวก่อนตัดสินใจยิงเองทว่าไม่ผ่าน วิคาริโอ 

35 นาทีแรก สเปอร์ส ไม่มีโอกาสลุ้นจะแจ้งจากจังหวะโอเพ่นเพลย์เลย ครั้งเดียวที่มีลุ้นคือเตะมุมต้นเกมที่ ซน ฮึง-มิน จิ้มจ่อๆ ตุงตาข่าย แต่ก็เป็นจังหวะล้ำหน้า

ทว่าช่วง 10 นาทีสุดท้าย เกมของ สเปอร์ส ดีขึ้นชัดเจน และเกือบตีเสมอได้จากการต่อสุดสวยก่อนเป็น ซน ฮึง-มิน เปิดจากขวาเข้ากลางให้ จอห์นสัน ตวัดยิงเน้นๆ ทว่า ราย่า โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งตัวจากเสาแรกมาควักบอลออกจากเส้นได้อย่างเหลือเชื่อ

นี่คือเซฟระดับโลกของ ราย่า อย่างแท้จริง แม้แต่ อาร่อน แรมส์เดล ที่ตกเป็นสำรองข้างสนามตลอด 3 นัดหลังก็ยังปรบมือให้รัวๆ แม้ในใจลึกๆ อาจรับรู้มากยิ่งขึ้นว่าคงต้องเสียตำแหน่งมือหนึ่งไปแบบถาวร

ราย่า เซฟลูกยิงจ่อๆ ของ จอห์นสัน อีกครั้งในอีกไม่กี่อึดใจถัดมา แต่ เจมส์ แมดดิสัน เก็บบอลจังหวะสองได้ก่อนพลิกหนี ซาก้า แล้วเปิดให้ ซน ฮึง-มิน วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้ายส่งบอลชนเสาไกลเข้าไปทั้งที่มีผู้เล่นปืนใหญ่ถึง 3 คนพยายามเข้าบล็อก แต่ก็ไม่มีใครบล็อกได้เลย


แดนกลางปืนยวบทันทีเมื่อ เดแคลน ไรซ์ บาดเจ็บ

จากรูปเกมที่เป็นรองช่วงแรกกลายเป็นว่าจบ 45 นาทีแรก สเปอร์ส มีสัดส่วนครองบอลมากถึง 61 เปอร์เซ็นต์ซึ่งไม่เคยมีทีมใหนทำได้ขนาดนี้เลยในการมาเยือนเอมิเรตส์นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา

ก่อนเสียประตูตีเสมอ อาร์เซน่อล ก็พลาดโอกาสทองที่น่าจะนำมากกว่าหนึ่งลูกเมื่อ กาเบรียล เชซุส แย่งบอลจาก เจมส์ แมดดิสัน ได้ก่อนยิงโล่งๆ ในเขตโทษ ทว่างัดใต้บอลมากไปหน่อยทำให้บอลลอยโด่งข้ามคานอย่างเหลือเชื่อ 

เป็นครึ่งแรกที่ อาร์เซน่อล หัวเสียมากกว่าจากการโดนตีเสมอช่วงท้าย แถมก่อนกลับออกมาสู้กันต่อในครึ่งหลังก็เจอข่าวร้าย เดแคลน ไรซ์ กองกลางตัวสำคัญบาดเจ็บที่หลังไม่สามารถเล่นต่อได้ทำให้ต้องส่ง จอร์จินโญ่ ลงแทน ขณะที่ ฟาบิโอ วิเอร่า ถูกถอดออกช่วงพักครึ่งเช่นกันหลังแทบไม่มีบทบาทใน 45 นาทีแรก 

อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายโหมบุกใส่ทันทีเมื่อเริ่มครึ่งหลัง และขึ้นอีกรอบจากเตะมุมที่ เบน ไวท์ ได้ยิงในเขตโทษไปติดมือ โรเมโร่ ซึ่งผู้ตัดสินใช้เวลาอยู่นานในเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดเป็นจุดโทษ ซาก้า ซัดเข้าไปไม่พลาด

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ อาร์เซน่อล อีกครั้งเหมือนเช่นหลายนัดที่ผ่านมาคือการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่ได้เปรียบเอาไว้ได้ และครั้งนี้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมเพราะมีความผิดพลาดของตัวเองร่วมด้วย

จอร์จินโญ่ ที่เพิ่งลงแทน ไรซ์ ไม่กี่นาที เล่นมากจังหวะเกินไปทำให้โดน แมดดิสัน พรวดเข้าแซะแย่งบอลได้สำเร็จก่อนไหลให้ ซน ฮึง-มิน ซัดประตูนิ่มๆ 

อาร์เซน่อล ดีใจได้เพียงนาทีครึ่งกับประตูขึ้นนำอีกรอบ ทว่าโดน สเปอร์ส ตามตีเสมออย่างรวดเร็ว


อาร์เตต้า ให้กำลังใจ จอร์จินโญ่ ที่ทำพลาด

ความผิดพลาดจนเสียประตู 2-2 เหมือนกระตุกความมั่นใจของ อาร์เซน่อล ให้ดิ่งลงไปอีก มีความลังเลในการเล่นในหลายจังหวะ แดนกลางที่เคยแข็งแกร่งก็อ่อนยวบลงในครึ่งหลัง

การขาด ไรซ์ ส่งผลอย่างมาก อาร์เซน่อล ไม่สามารถคอนโทรลเกมตรงกลางได้เลย จอร์จินโญ่ มีประสบการณ์มากกว่าก็จริงแต่คุณภาพตอนนี้สู้อดีตกัปตัน เวสต์แฮม ไม่ได้ 

ยิ่งมาพลาดจนทีมเสียประตูก็ยิ่งทำให้กดดันอีกเท่าตัว และไม่มีจังหวะพาบอลลุยขึ้นหน้า และทำได้เพียงจ่ายออกซ้าย-ขวาสั้นๆ เพื่อไม่ให้ผิดพลาดอีก

จังหวะ 50-50 ในแดนกลางซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของการแข่งขันจึงเป็น สเปอร์ส ที่เอาชนะได้บ่อยครั้ง และกว่าที่ อาร์เซน่อล จะมาตั้งลำของตัวเองได้อีกก็เป็นช่วงท้ายเกม

ไค ฮาแวร์ตซ์ มีโอกาสพักอกวอลเลย์แต่ก็ซัดหลุดเป้าไปแบบเสียของ ขณะที่ ซาก้า ได้ส่องไกลมีลุ้นเสียบโคนเสา แต่ วิคาริโอ ก็พุ่งปัดได้อีก

ท้ายที่สุด อาร์เซน่อล ไม่สามารถเอาประตูนำรอบสามได้แม้ทดเจ็บไปเกินสิบนาที และจำต้องยอมรับผลเสมอในเกมที่อาจเรียกได้ว่าไม่ใช่วันที่ดีของทีม

ทรอสซาร์ ที่กำลังเล่นดีก็โชคร้ายมาเจ็บก่อนเกมทำให้ต้องปรับตัวรุกฝั่งซ้ายเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน 

เดแคลน ไรซ์ ที่แทบไม่เคยบาดเจ็บเลยก็ดันมาเจ็บในเกมสำคัญและช่วงเวลาสำคัญ เช่นเดียวกับ บูคาโย่ ซาก้า ที่โดนอัดหลายดอกก็เดี้ยงจนได้ในช่วงท้ายเกม

โอกาสทองของ เชซุส, เอ็นเคเทียห์ หรือกระทั่ง ฮาแวร์ตซ์ ต่างทิ้งไปเสียหมด 

และแน่นอน จอร์จินโญ่ ก็พลาดจนเสียประตูในเวลาไม่ถึงหนึ่งร้อยวินาทีหลังทีมเพิ่งยิงได้หมาดๆ

หรือแม้แต่การเปลี่ยนตัวของ อาร์เตต้า ที่ให้ เอ็นเคเทียห์ เล่นยาวจนจบเกมทั้งที่แทบไม่ได้สร้างปัญหาใดๆ ให้แนวรุกคู่แข่ง ก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกตั้งคำถาม 

แต่ถ้ามองอย่างเข้าใจการแข่งขันตลอด 9 เดือนในหนึ่งฤดูกาล วันแย่ๆ แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกทีม และอย่างน้อยเกมนี้ อาร์เซน่อล ก็ไม่ถึงขั้นแพ้คาบ้าน

มิเกล อาร์เตต้า และรีบลืมความผิดหวังจากเกมนี้ และเก็บความผิดพลาดเอาไปแก้ไข และมองไปข้างหน้ากับโปรแกรมที่รออยู่

ฟุตบอลถ้วยลีกคัพที่ต้องไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในวันพุธนี้ก็น่าจะได้โรเตชั่นเพื่อให้ตัวหลักบางรายได้พักทั้งร่างกายและเรียกสติกลับมา จากนั้นก็ลุยเกมลีกบุกรัง บอร์นมัธ ต่อด้วยเยือน ล็องส์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก 

และสำคัญสุดคือวันที่ 8 ตุลาคม ที่ต้องเปิดรังดวล "แชมป์เก่า" และ "จ่าฝูง" แมนเชสเตอร์ ซิตี้

หาก อาร์เซน่อล ยังเล่นผิดพลาดส่วนบุคคลและทีมแบบนัดล่าสุดนี้อีก บอกได้คำว่า "เละ" 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด