รู้จัก ดาบิด ราย่า ให้มากขึ้น

อาร์เตต้า ต้องการให้มีผู้รักษาประตูฝีมือใกล้เคียงกันอยู่ในทีมสองคนเพื่อสามารถสลับกันลงเล่นได้ในเวลาจำเป็นไม่ต่างจากผู้เล่นตำแหน่งเอาต์ฟิลด์อื่นๆ 

ราย่า ตอบโจทย์ดังกล่าวได้ตั้งแต่นัดแรกที่ได้โอกาสในเกมพรีเมียร์ลีกนัดบุกชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ต่อด้วยพาทีมไล่อัด พีเอสวี 4-0 ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นการคัมแบ็กถ้วยใหญ่ยุโรปนัดแรกในรอบเกือบ 7 ปีของสโมสร

เช่นเดียวกับนัดล่าสุดที่แม้เสมอ สเปอร์ส 2-2 ในนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ แต่นายทวารวัย 28 ปีก็งัดซูเปอร์เซฟออกมาให้แฟนบอลได้เห็นถึงคุณภาพในการป้องกันประตูที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากการเปิดบอลจากแนวลึกที่เป็นจุดเด่นอยู่แล้ว

หลายคนเห็นฝีมือและฝีเท้าของ รายา มาตลอดหลายปี แต่อาจไม่ได้รู้จักจุดเริ่มต้นและเส้นทางค้าแข้งของนายทวารทีมชาติสเปนรายนี้มากนัก 

***

พื้่นฐานจาก "ฟุตซอล"

ดาบิด ราย่า เริ่มต้นการเป็นผู้รักษาประตูแบบจำยอมจากการถูกพี่ชายยัดเยียดให้เล่น แต่เขายอมรับว่าอยากมีอิสระในการเล่นเอาต์ฟิลด์มากกว่า

"พี่ชายของผมมักจับผมยืนโกล" ราย่า เล่าความหลัง "แต่หากเล่นกับเพื่อนๆ ผมมักเล่นตำแหน่งเอาต์ฟิลด์เสมอ ผมสนุกกับการขยับขึ้นข้างบน และเป็นเหตุผลที่ผมเล่นกับบอลได้สบาย"

"ข้างๆ บ้านผมจะมีพวกวัยรุ่นเล่นกันบนสนามฟุตซอล ผมมักเล่นเป็นเอาต์ฟิลด์เสมอในช่วงเวลานั้น" 

ไอดอล 

ดาบิด เติบโตในย่านปาเยฆ่าทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปนซึ่งห่างจาก บาร์เซโลน่า ประมาณ 20 ไมล์ แต่กระนั้นครอบครัวของเขาก็เป็นแฟนบอล เรอัล มาดริด ซึ่งทำให้เขาโตมากับการมี อีเกร์ กาซียาส ตำนานนายทวารทีมชาติสเปนเป็นไอดอล

นอกจากนี้ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ และ ฟาเบียง บาร์กเตซ สองอดีตผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นต้นแบบที่เขาเฝ้าติดตามผลงานด้วยเช่นกัน

กาซียาส ไอดอลของ ราย่า

จุดเปลี่ยน

ในวัยเพียง 16 ปี ดาบิด ราย่า ได้โอกาสเดินทางมาอังกฤษหลังจากโค้ชผู้รักษาประตูของ กอร์เนย่า ที่เขาสังกัดในตอนนั้นแนะนำให้ แบล็คเบิร์น ดึงไปทดสอบฝีเท้า

ราย่า ทำได้น่าประทับในการทดสอบฝีเท้าเป็นเวลา 4 วัน ทำให้ได้โอกาสปล่อยของเพิ่มอีก 4 สัปดาห์ก่อนเซ็นสัญญาร่วมทีมกุหลาบไฟในเดือนกรกฎาคมปี 2012 

เขายอมรับว่าหากตอนนั้นทดสอบฝีเท้าไม่ผ่านก็อาจไปเอาดีในงานด้านทรัพยากรมนุษย์และการจัดการ

เริ่มต้นที่ เซาธ์พอร์ท

ในฤดูกาล 2014/15 ดาบิด ราย่า ถูกปล่อยไปให้ เซาธ์พอร์ท ทีมในระดับดิวิชั่น 5 ของอังกฤษยืมใช้งานเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

เขาได้ลงเฝ้าเสามากถึง 24 นัด และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนเกือบโค่น ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทีมในระดับแชมเปี้ยนชิพ ในถ้วยเอฟเอ คัพ ที่มาโดนจุดโทษช่วงทดเจ็บจนพ่ายไปหวุดหวิด 0-1 

พาทัพกุหลาบเลื่อนชั้น 

หลังจากฟูมฟักฝีเท้าในทีมเยาวชนอยู่หลายปีและโผล่ขึ้นชุดใหญ่ แบล็คเบิร์น เป็นครั้งคราว ในที่สุด ดายิด ราย่า ก็ได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องในฤดูกาล 2017/18 ที่เฝ้าเสาในลีก 45 นัด พาทีมเก็บไปได้ 96 คะแนน คว้าตั๋วเลื่อนชั้นจากลีก วัน ขึ้นสู่ลีกแชมเปี้ยนชิพได้สำเร็จ 

ร่วมงานคนคุ้นเคย

ในการย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล ดาบิด ราย่า ไม่ใช่หน้าใหม่เอี่ยมอ๋องที่ไม่รู้จักใครเลยเพราะมีหนึ่งคนในทีมสตาฟฟ์ของ มิเกล อาร์เตต้า ที่รู้จักมักคุ้นกับเขาเป็นอย่างดีนั่นคือ อินญากี้ กาน่า 

โค้ชผู้รักษาประตูของ อาร์เซน่อล คือคนที่เคยทำงานให้ เบรนท์ฟอร์ด และเป็นคนแนะนำสโมสรให้ดัง ราย่า มาจาก แบล็คเบิร์น ในซัมเมอร์ 2019 และหลังจากนั้นไม่กี่เดือน กาน่า ก็ถูก มิเกล อาร์เตต้า ที่เพิ่งรับตำแหน่งผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ดึงมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน

"เขาช่วยเหลือผมอย่างมาก เขามีแคแร็กเตอร์ในสนามที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง เป็นคนทำงานหนักมาก และก็เขี้ยวสุดๆ ผมคิดว่าผู้รักษาประตูทุกคนที่ทำงานร่วมกับเขาก็คงบอกแบบเดียวกัน" ราย่า กล่าวถึงโค้ชคนบ้านเดียวกัน

เคล็ดลับเปิดบอลยาว 

  ตอนที่ยังอยู่กับ แบล็คเบิร์น ดาบิด ราย่า ฝึกฝนการเปิดบอลยาวด้วยการเตะ "ฟุตกอล์ฟ" ที่ต้องเตะลูกฟุตบอลให้ลงหลุมกอล์ฟ โดยฝึกซ้อมร่วมกับโค้ชผู้รักษาประตูอย่าง สตีเว่น เดรนช์ 

นี่จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการเปิดบอลอันแม่นยำของ ราย่า ที่ในฤดูกาลก่อนเป็นผู้รักษาประตูที่เปิดบอลยาวสำเร็จไปถึงเพื่อนร่วมทีมได้มากกว่าทุกคนในลีกที่ 42 เปอร์เซ็นต์

รอยสักแห่งความทรงจำ

ราย่า ลงเฝ้าเสาพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2021/22 หลังพา เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกแชมเปี้ยนชิพ และทำให้เขาได้ลงเล่นถึง 4 จาก 5 ดิวิชั่นของอังกฤษทั้่งนอกลีก (คอนเฟอเรนซ์), ลีก วัน, แชมเปี้ยนชิพ และ พรีเมียร์ลีก

คู่แข่งนัดแรกในลีกสูงสุดไม่ใช่ทีมอื่นใดแต่เป็น อาร์เซน่อล ในนัดเปิดฤดูกาลซึ่ง ราย่า ก็พาทีมพลิกชนะปืนใหญ่ไปได้ 2-0 ก่อนจารึกความทรงจำสุดสำคัญในอาชีพค้าแข้งด้วยการสักวันที่ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกเอาไว้ที่ต้นคอ ก่อนที่ในเวลาต่อมาโชคชะตาก็ได้ลิขิตให้ย้ายมาร่วมทีม "ปืนใหญ่" ในฤดูกาลนี้

นายทวารหมายเลข 10 

ดาบิด ราย่า โชว์ฟอร์มสุดยอดอีกนัดในเกม เบรนท์ฟอร์ด เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ราวหนึ่งเดือนหลังขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดงถึงกับเอ่ยปากชมหลังจบเกม

"ผู้รักษาประตูคนนี้สามารถสวมหมายเลข 10 ได้เลย เขาเปิดบอลที่น่าทึ่งได้หลายต่อหลายครั้งซึ่งเป็นสิ่งที่คุณควรทำในเวลาที่เล่นกับเรา" คล็อปป์ กล่าว 

ถึงเวลาช่วยชาติ

หลังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องกับต้นสังกัด ราย่า ก็ได้โอกาสในทีมชาติสเปนชุดใหญ่ที่ประเดิมเฝ้าเสาพบ แอลเบเนีย ในแมตช์อุ่นเครื่องเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2022 ซึ่งแข่งกันที่ อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม รังเหย้าของ เอสปันญ่อล ซึ่งห่างจากปาเยฆ่าบ้านเกิดของ ราย่า เพียง 7 ไมล์เท่านั้น

เดิมที ราย่า ไม่ได้มีชื่อในทัพกระทิงดุชุดดังกล่าว แต่ด้วยการที่ โรเบิร์ต ซานเชซ ที่ตอนนั้นอยู่กับ ไบรท์ตัน ติดโควิดจึงต้องถอนตัว ทำให้โอกาสตกเป็นของ ราย่า ที่ได้เฝ้าเสาให้ทีมชาติในเกมที่ครอบครัวและเพื่อนๆ แห่มาให้กำลังใจกันล้นหลาม

เล็กๆไม่ ใหญ่ๆ ลง

จากนั้นเป็นต้นมา ราย่า ก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติมาโดยตลอด และอยู่ในชุดคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และลุยรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ที่ไม่น่าเชื่อคือ ราย่า ไม่เคยลงเล่นให้ทีมชาติสเปนในชุดเยาวชนมาก่อน พอถึงเวลาได้โอกาสในทีมชาติครั้งแรกก็เป็นชุดใหญ่เลย และยังเป็นผู้รักษาประตู เบรนท์ฟอร์ด คนแรกที่ติดทีมชาติ

สถิติยืนหนึ่ง

ฤดูกาลที่แล้ว ดาบิด ราย่า โดดเด่นอย่างมากและครองสถิติอันดับหนึ่งในหลายด้าน

เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ต้องรับมือกับโอกาสส่องประตูของคู่แข่งมากสุดในพรีเมียร์ลีก และทำให้ได้ออกแรงเซฟมากกว่าใครที่เฉลี่ย 4.1 ครั้งต่อนัดซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์เซฟดีสุดที่ 77 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้้ยังสามารถเซฟโอกาสที่น่าจะเป็นประตู (xG) ของคู่แข่งได้ถึง 6 ครั้ง และออกมาตัดบอลเปิดจากด้านข้างได้มากสุดเป็นอันดับสองของลีก 

รวมถึงยืนหนึ่งในการเป็นผู้รักษาประตูที่สัมผัสบอลมากสุดในฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย