น็อกเอาต์แค่เอื้อม
"ปืนใหญ่" ของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมือในการเก็บชัยชนะตามเป้า และเป็นการแก้ตัวหลังแพ้มาสองนัดติดต่อกัน
หลังปราชัยต่อ เวสต์แฮม ในคาราบาว คัพ ต่อด้วยความพ่ายแพ้นัดแรกในลีกที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เดแคลน ไรซ์ เน้นย้ำว่าทีมอย่าง อาร์เซน่อล จะแพ้สามนัดติดไม่ได้
อาร์เตต้า และลูกทีมเข้าใจตรงกันว่าต้องกลับมาชนะและก็ทำได้สำเร็จในเกมที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่เหนือกว่าผู้มาเยือนจากสเปนอย่างชัดเจน
เกมริมเส้นที่เป็นจุดแข็งของ อาร์เซน่อล สามารถโจมตีแนวรับ เซบีย่า ได้ต่อเนื่องก่อนได้สองประตูจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ และ บูคาโย่ ซาก้า
ปืนใหญ่น่าจะยิงได้มากกว่านี้เพราะโอกาสเยอะมาก เพียงแต่ไม่เด็ดขาดในการจบสกอร์ที่ยิงทิ้งยิงขว้างไปน่าเสียดาย
โอกาสของ ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล มากัลเญส, จอร์จินโญ่ และฟรีคิกของ ซาก้า หลุดกรอบไปทั้งหมด ไม่ได้ใกล้เคียงกับการได้ประตู แต่ครั้งแรกที่ยิงเข้ากรอบก็เป็นสกอร์ทันที
อาร์เซน่อล เข้าทำประตูแรกได้สุดยอดมากโดยเฉพาะลูกเปิดทะลุช่องของ จอร์จินโญ่ ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ซาก้า จึงได้โอกาสวิ่งสอดเข้าเขตโทษก่อนตบบอลจังหวะเดียวทันทีให้ ทรอสซาร์ แปง่ายดายตุงตาข่าย
ก่อนหน้านี้ในช่วงยี่สิบนาทีแรก ซาก้า ไม่มีโอกาสได้เปิดบอลเข้ากลางเลยเพราะโดนตัดฟาวล์ถึง 4 ครั้ง เนมานย่า กูเดลจ์ และ กีเก้ ซาลาส สลับกันเข้ามาตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้ปีกชาวอังกฤษได้เล่นง่าย
ประตูแรกเข้าทำยอดเยี่ยมจบที่ ทรอสซาร์
แต่การที่มัวพะวงตามประกบ ซาก้า ทำให้มีช่องว่างระหว่างแบ็กซ้ายกับเซนเตอร์ จอร์จินโญ่ จึงได้แทงบอลเข้าไปพอดิบพอดี
เกมรับเซบีย่ายืนตำแหน่งกันหละหลวมพอสมควร หาก อาร์เซน่อล เด็ดขาดกว่านี้ในหลายจังหวะก่อนหน้าก็มีโอกาสนำ 2-3 ลูกตั้งแต่ 45 นาทีแรกแล้ว
ดีเอโก้ อลอนโซ่ เลือกปรับทีมหลายตำแหน่ง ถ้าเทียบกับนัดแรกที่เจอกันเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็เปลี่ยนถึง 8 ตัว ความเข้าใจในการเล่นจึงไม่ได้มีมากนัก
'Diario de Sevilla' สื่อท้องถิ่นวิจารณ์ว่าการเปลี่ยนทีมเยอะด้วยเพราะมีดาร์บี้แมตช์กับ เรอัล เบติส รออยู่ในสุดสัปดาห์ เป็นอีกจุดที่ทำให้ เซบีย่า เล่นได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา
แบ็กสองข้างทั้ง กีเก้ ซาลาส ในตำแหน่งแบ็กซ้าย และ ฆวนลู ซานเชซ ทางฝั่งขวา อายุเพียง 20-21 ปี ประสบการณ์น้อยมากเมื่อเทียบกับตัวหลักอย่าง มาร์กอส อากุนญ่า และ เฆซุส นาบาส
กีเก้ ซาลาส เบรกฟาวล์ ซาก้า ได้ช่วงต้น แต่พอยืนตำแหน่งพลาดนิดเดียวก็โดนลงโทษทันที เช่นเดียวกับประตู 2-0 ที่ดันสูงลงไม่ทัน ซาก้า จึงได้หลุดเข้าเขตโทษ และเป็น อาเดรีย เปโดรซ่า ที่เล่นตัวรุกฝั่งซ้าย วิ่งตามมาช่วยบล็อก แต่ก็โดน ซาก้า ล็อกหนีง่ายดายก่อนยิงเข้าไป
ส่วน ฆวนลู ซานเชซ ก็หัวหมุนกับการรับมือ มาร์ติเนลลี่ ก่อนโดนเลี้ยงถึง 8 ครั้ง มากสุดในบรรดาผู้เล่นกองหลังตลอด 8 ฤดูกาลหลังสุดของแชมเปี้ยนส์ ลีก
ซาก้า ทั้งยิงทั้งจ่าย
น่าเสียดายที่จังหวะเปิดบอลจากสุดเส้นหลังมาหน้าประตูของ มาร์ติเนลลี่ "ไม่คลิก" กับเพื่อนร่วมทีมเท่าที่ควร
หาก อาร์เซน่อล มีหน้าเป้าธรรมชาติลงเล่นก็อาจได้ลุ้นมากกว่านี้ แต่โชคร้ายที่ทั้ง กาเบรียล เชซุส และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ต่างมีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ต้องขยับ ทรอสซาร์ ยืนแก้ขัด
ทรอสซาร์ ทำได้ดีในฐานะอะไหล่คุณภาพ และนัดนี้ก็ยิงประตูที่ 5 ในฤดูกาลทั้งที่ลงตัวจริงแค่ 5 นัด แต่เขาก็ไม่ใช่มือสังหารตามแบบฉบับกองหน้าอาชีพ
แต่แม้ไร้หน้าเป้า รวมถึงตัวหลักอีกหลายคนอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ โธมัส ปาร์เตย์ แต่การเล่นของ อาร์เซน่อล ก็ยังเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมเอาไว้ได้หมด เกมรุกต่อบอลได้ ขณะที่เกมรับก็ปิดโอกาสผู้มาเยือนได้สนิท
เซบีย่า มีโอกาสลุ้นยิงเพียงครั้งเดียวตลอดทั้งเกมและเกิดขึ้นในช่วง "ทดเจ็บครึ่งหลัง" จากการยิงหน้าเขตโทษของตัวสำรอง มาเรียโน่ ดีอาซ ที่ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงของ ดาบิด ราย่า
หากไม่นับอาการบาดเจ็บของ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่ถูกเปลี่ยนหลังจบครึ่งแรก และ ซาก้า (อีกแล้ว) นี่คือเกมที่ อาร์เซน่อล ไม่ได้บอบช้ำมากนักกับการเอาชนะทีมดังจากสเปนเจ้าของแชมป์ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลที่แล้ว
อาการของทั้งคู่ไม่ได้รุนแรงมากนัก และโชคดีที่จบโปรแกรมลีกสุดสัปดาห์นี้ก็จะเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติที่ได้มีเวลาพักฟื้นมากขึ้นหากตัดสินใจถอนตัวจากภารกิจกับบ้านเกิด
ทั้ง ซาก้า และ โทมิ ต่างมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษและญี่ปุ่นในการประกาศตัวล่าสุด ต้องตามข่าวต่อว่าจะมีการถอนตัวหรือไม่ซึ่งหากยังลุยทีมชาติต่อก็น่ากังวลอยู่ไม่น้อย
มาร์ติเนลลี่ พาทัวร์ถึงใจ
ชัยชนะเหนือ เซบีย่า สองนัดไป-กลับทำให้สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล ดูดีมากกับการลุ้นตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
นัดหน้าอาจการันตีได้ตั๋วตั้งแต่ก่อนก้าวเท้าลงสนามด้วยซ้ำหาก เซบีย่า ที่คิกออฟก่อน ไม่แพ้คาบ้านต่อ พีเอสวี
หรือหากยังต้องพึ่งตัวเองในการเล่นในบ้านอีกนัดพบ ล็องส์ อาร์เตต้าและลูกทีมก็ขอเพียงคะแนนเดียวก็ลอยลำ และหากชนะได้ก็จบตำแหน่งแชมป์กลุ่มด้วย
ปิดจ๊อบให้ได้ในเกมเปิดรังรอล้างตา ล็องส์ เพื่อที่นัดสุดท้ายซึ่งต้องไปเยือน พีเอสวี จะได้พักตัวหลักได้แบบไม่คิดมากเพราะเป็นโปรแกรมคั่นกลางสองเกมสำคัญในพรีเมียร์ลีกทั้งไปเยือน แอสตัน วิลล่า และเปิดรังรับมือ ไบรท์ตัน
ห่างหายเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปหลายปี แต่กลับมาอีกครั้ง อาร์เซน่อล ก็มีโอกาสแค่เอื้อมที่จะทะลุเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ตามเป้า
ใครยังมีความแค้นฝังใจกับ บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า โปรดอดใจรออีกนิด ปืนใหญ่ไปตามนัดแน่นอน!
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT