สิ้นปีสิ้นไอเดีย
อาร์เซน่อล ปราชัยต่อ ฟูแล่ม 1-2 ชนิดไร้ข้อโต้แย้งใดๆ
หลังพ่ายแพ้คาบ้านต่อ เวสต์แฮม 0-2 ในโปรแกรมบ็อกซิ่งเดย์ มิเกล อาร์เต้า และลูกทีมมุ่งมั่นอย่างมากที่จะแก้ตัวให้ได้เพื่อปิดท้ายปี 2023 ให้สวยงามพร้อมกลับไปนำจ่าฝูง
อาร์เตต้า เลือกปรับทีม 3 จุดส่ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เล่นหน้าเป้าแทน กาเบรียล เชซุส ขณะที่ตรงกลางได้ ไค ฮาแวร์ตซ์ พ้นโทษแบนกลับมาทวงตำแหน่งจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ และแบ็กซ้ายให้ ยาคุบ คีวิออร์ เล่นแทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่เจ็บน่อง
ตำแหน่งหน้าเป้าที่ให้ เอ็นเคเทียห์ ลงตัวจริงถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควรเพราะหัวหอกชาวอังกฤษไม่สามารถยิงประตูในเกมลีกนอกบ้านมานาน 1 ปีเต็มแล้ว
ประตูนัดเยือนในลีกล่าสุดที่ทำได้ก็คือวันสุดท้ายของปี 2022 ที่ อาร์เซน่อล บุกชนะ ไบรท์ตัน 4-2
"ปืนใหญ่" เริ่มต้นดีออกนำตั้งแต่ 5 นาทีแรกจากการตะลุขึ้นทางกราบซ้ายของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ทะลุเข้าถึงเขตโทษก่อนโยกยิงด้วยขวาติดเซฟ บอลเด้งเข้าทาง บูคาโย่ ซาก้า ซ้ำจังหวะสองตุงตาข่าย
การได้ประตูแรกรวดเร็วคือสิ่งที่ อาร์เซน่อล ต้องการอย่างยิ่ง ที่เหลือก็เพียงแค่คอนโทรลสถานการณ์ที่ได้เปรียบเอาไว้ให้ได้ซึ่งไม่น่ายากเกินไปเพราะผลงานช่วงหลังของ ฟูแล่ม แผ่วลงชัดเจนแพ้มา 3 นัดติด เสียรวม 8 ประตู และยิงไม่ได้เลย
ทว่าในความเป็นจริงไม่เป็นแบบนั้น
ฟูแล่ม เริ่มต่อบอลกันได้ และใช้การเปิดบอลจากด้านข้างโจมตีผู้มาเยือนจากลอนดอนเหนือ พวกเขาเริ่มส่งสัญญาณเตือนจากโอกาสจะแจ้งสองครั้งแรกของ ราอูล ฮิเมเนซ ที่ติดเซฟ และ วิลเลี่ยน ที่ปั่นหลุดเสานิดเดียว
พอถึงครั้งที่ 3 ก็ไม่พลาด วิลเลี่ยน ไหลให้ ทอม แคร์นีย์ เติมขึ้นมาเปิดบอลจากซ้ายเข้ากลางเลยถึงเสาไกล ยาคุบ คีวิออร์ หวดสกัดไม่โดน ราอูล ฮิเมเนซ จึงได้ชาร์จเน้นๆ ตุงตาข่าย
อาร์เซน่อล พยายามเร่งเครื่องท้ายครึ่งแรก แต่ก็ยังไม่มีจังหวะโจมตีที่น่าจะได้ประตู
ในครึ่งหลัง อาร์เตต้า ต้องปรับแบ็กซ้ายทันทีส่ง ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ลงแทนยาคุบ คีวิออร์ ที่ค่อนข้างช้าและการยืนตำแหน่งไม่ดีทำให้โดน อเล็กซ์ อีโวบี้ กับ บ็อบบี้ เด คอร์โดว่า-รีด สลับกันเล่นงานหลายรอบ
โทมิยาสึ เพิ่งหายเจ็บกลับมา ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยนัก แต่จำเป็นต้องเพราะอย่างน้อยมีความเข้าใจเกมมากกว่าทาง คีวิออร์
ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ยิ่งเล่นลำบากมากขึ้นเพราะฝนเทลงมาอย่างหนักเป็นอุปสวรรคในการต่อบอลบนพื้น ต่างจาก ฟูแล่ม ที่มีบอลวางยาวออกด้านข้าง ไม่ได้มากจังหวะเท่าทีมเยือน
สิ่งที่แฟนบอลปืนใหญ่กังวลเกิดขึ้นจนได้เมื่อเป็นทาง ฟูแล่ม ที่แซงนำ 2-1 หลังจากเคลียร์ลูกเตะมุมไม่เด็ดขาด กาเบรียล มากัลเญส สกัดบอลไปโดน โทมิยาสึ ก่อนตกตรงหน้า บ็อบบี้ เด คอร์โดว่า-รีด ตวัดจ่อๆ สวนตัว ดาบิด ราย่า เข้าไป
ฟูแล่ม มีจังหวะเคลียร์บอลไม่ดีเช่นกันเปิดโอกาสทองให้ บูคาโย่ ซาก้า ได้ยิงโล่งๆ ซึ่งน่าจะเป็นประตูอย่างยิ่ง แต่ลูกยิงของปีกทีมชาติอังกฤษข้ามคานไปอย่างเสียของ
ประตูนำของ ฟูแล่ม กับโอกาสที่น่าจะตีเสมอได้ของ อาร์เซน่อล คือข้อแตกต่างของเกมนี้ในเรื่องการฉวยโอกาสเมื่อคู่แข่งพลาด
อาร์เตต้า ตัดสินใจเสี่ยงมากขึ้นปรับเล่นหลังสามด้วยการถอดแบ็กขวา เบน ไวท์ ออกแล้วส่ง กาเบรียล เชซุส ลงมาเพิ่มแดนหน้า แต่การเล่นเกมรุกก็ไม่ได้มีโอกาสมากขึ้นแต่อย่างใด
มีการเปิดเผยสถิติหลังปรับแท็กติกนี้ในนาที 67 จนถึงจบเกม อาร์เซน่อล จ่ายบอลสำเร็จในเขตโทษเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น และจ่ายบอลเสียมากถึง 14 ครั้ง
ในเกมกับ เวสต์แฮม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ได้จับบอลเล่นในเขตโทษขุนค้อนมากถึง 77 ครั้ง ต่างจากช่วง 23 นาทีสุดท้ายของเกมนี้ (ไม่รวมทดเจ็บ) ที่แทบไม่ได้เล่นบอลในเขตโทษเลย
อาร์เซน่อล ไม่มีไอเดียใหม่ใดๆ ในการเล่นเกมรุก หลายต่อหลายครั้งเอาแต่ส่งบอลให้ ซาก้า ที่หากไม่มีประตูช่วงต้นเกมก็ไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรมากนัก จังหวะอื่นที่เหลือค่อนข้างน่าผิดหวัง
ยิ่งอีกฟากอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี เขาไม่สามารถพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายเพื่อลุ้นยิงประตูหรือเปิดบอลแบบได้เสียได้เลยในช่วงที่ทีมกำลังหาทางตามตีเสมอให้ได้
คนอื่นในเกมรุกก็น่าผิดหวังไม่แพ้กัน เอ็นเคเทียห์ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนเช่นเคย พอมีโอกาสได้ลุ้นยิงในเขตโทษก็ห่างไกลจากการลุ้นเป็นประตู
นี่คือเกมที่ทำผลงานกันได้ย่ำแย่ที่สุดในฤดูกาลอย่างที่ มิเกล อาร์เตต้า ว่าเอาไว้หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาว
"เรามีโอกาสขึ้นจ่าฝูงหลังผ่าน 20 เกมด้วยความสม่ำเสมอที่เราแสดงให้เห็น แต่เราไม่ได้ทำผลงานได้ดีพอที่จะชนะได้"
"สามวันก่อนเราแพ้แต่ก็ตั้งใจเอาชนะให้ได้ แต่วันนี้ต่างออกไปมากๆ มันเป็นฟอร์มการเล่นที่แย่สุดของฤดูกาลเลย" อาร์เตต้า กล่าว
ปืนใหญ่ทำบอลเสียเยอะมากในนาที 67 จนถึงจบเกม
ในเกมบิ๊กแมตช์ที่บุกเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 คว้าหนึ่งคะแนนในสนามที่ยากกลับออกมาได้ สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล ดูดีทีเดียวเพราะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาเอาไว้ได้
แต่ความปราชัยสองนัดติดต่อคู่แข่งในลอนดอนด้วยกันทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างมาก เช่นเดียวกับอันดับในตารางที่หล่นมาอยู่ที่ 4 และมีโอกาสถูก ลิเวอร์พูล ทิ้่งห่างเป็น 5 คะแนนหากลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้ในคืนวันจ้นทร์
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ อาร์เซน่อล กำลังเจอความกดดันเล่นงาน และออกอาการชัดเจน
ผลงานโดยรวมต่ำกว่ามาตรฐานโดยเฉพาะเกมรุกที่ขาดประสิทธิภาพ ขาดความหลากหลาย และขาดความมั่นใจ
ขนาดในวันที่สร้างโอกาสได้ก็จบสกอร์ไม่ได้ ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องพูดถึงเลยกับวันที่ "แย่สุด" ของฤดูกาลแบบนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT