เยนส์ เลห์มันน์ : ด่านสุดท้ายแชมป์ไร้พ่าย
การก้าวเข้ามาสืบทอดตำแหน่งของ เดวิด ซีแมน ที่ อาร์เซน่อล ไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายสำหรับนายทวารคนใดก็ตาม แต่ เยนส์ เลห์มันน์ ทำได้และทำได้ดีกว่าที่หลายคนคาด
เลห์มันน์ ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ได้อย่างถูกจังหวะเวลาทั้งตำแหน่งเฝ้าเสา ความนิยมในหมู่แฟนบอล และที่สำคัญคือความสำเร็จถ้วยแชมป์
เพียงฤดูกาลแรกนายทวารดีกรีทีมชาติเยอรมันมีส่วนร่วมความสำเร็จประวัติศาสตร์กับแชมป์พรีเมียร์ลีกไร้พ่ายฤดูกาล 2003/04 กลายเป็นสโมสรหนึ่งเดียวที่ทำได้ในยุคโมเดิร์น
เลห์มันน์ ได้สวมถุงมือลงสนามทุกแมตช์บนเส้นทางแชมป์ไร้เทียมทาน แม้ลีลาการเล่นแบบหฤห่ามจะตามมาด้วยความผิดพลาดบ้าง แต่การมาของนายทวารเมด อิน เยอรมนี มีส่วนสำคัญช่วยเติมเต็มความแข็งแกร่งให้ทีมปืนใหญ่ไม่แพ้ใคร 49 เกมลีกติดต่อกันจนถึงฤดูกาลถัดมา
บทสรุปฤดูกาลแรกกับ อาร์เซน่อล เลห์มันน์ ลงเล่นรวม 54 นัดทุกรายการพร้อมเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกคล้องคอ
อย่างไรก็ตามในปีที่ 2 ช่วงกลางทางฤดูกาล 2004/05 เลห์มันน์ ผลงานดร็อปลงจนเสียตำแหน่งให้กับ มานูเอล อัลมูเนีย อยู่หลายเกม ต่อเมื่อ อัลเมูเนีย ก็โชว์เหวอไม่แพ้กันจึงเปิดโอกาสให้ เลห์มันน์ ทวงคืนตำแหน่ง
แม้มีข่าวลือช่วงโค้งสุดท้ายอาจถูกขายทิ้ง แต่แล้วเขาก็จัดการสบข่าวลือทันควันด้วยฟอร์มเซฟคว้ารางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ย้ายร่วมทีมปืนใหญ่ในซัมเมอร์ 2003
เลห์มันน์ ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดช่วยให้ทีมเดอะ กันเนอร์ส รักษาสกอร์ 0-0 หลังต่อเวลาพิเศษ อีกทั้งยังเซฟจุดโทษลูกสุดท้ายจาก พอล สโคลส์ พาอาร์เซน่อลคว้าถ้วยเก่าแก่ได้ในที่สุด
2005/06 เป็นอีกฤดูกาลโดดเด่นจับต้องได้สำหรับ เลห์มันน์ เมื่อเขาทำสถิติเฝ้าเสาครบหลักร้อยกับสโมสรในเกมพบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในช่วงท้ายซีซั่น เหนือสิ่งอื่นใดยังเป็นขุนพลคนสำคัญในทีมชุดเข้าชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน
ระหว่างเส้นทางชิงโทรฟี่หูใหญ่ อาร์เซน่อล ทุบสถิติคลีนชีตติดต่อกันที่ตัวเลข 10 นัด ทำลายของเดิมที่ เอซี มิลาน ทำเอาไว้ 7 แมตช์ในซีซั่นก่อนหน้า โดยคิดเป็นเวลารวม 853 นาที ทำลายสถิติส่วนบุคคลของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อีกต่างหาก
โดยในรอบรองชนะเลิศนัด 2 เลห์มันน์ เซฟจุดโทษจาก ฮวน โรมัน ริเกลเม่ เพลย์เมกเกอร์ บียาร์เรอัล ในนาทีที่ 89 ได้ด้วย
ส่วนนัดชิงกับ บาร์เซโลน่า จะบอกว่า เลห์มันน์ ทำคลีนชีตได้ก็ไม่เชิงเสียทีเดียว เพราะเขาถูกใบแดงตั้งแต่นาทีที่ 18 หลังออกมาตัดฟาวล์ ซามูแอล เอโต้ พร้อมส่งผลให้กลายเป็นนายทวารคนแรกและคนเดียวที่โดนไล่ออกในแมตช์ชิงยุโรปถ้วยใหญ่ แต่สิ่งนั้นไม่ได้หยุดยั้งเขาคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของรายการในซีซั่น 2005/06
ที่สุดแล้วสถิติคลีนชีตยูซีแอลของ เลห์มันน์ ก็จบลงภายในแมตช์แรกรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลต่อมาโดย บูบาการ์ ซาโนโก้ แข้งฮัมบูร์กทำประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 89
เดิมสัญญาของ เลห์มันน์ จะหมดอายุลงในฤดูร้อนปี 2007 ส่งผลให้ตลอดซีซั่นนั้นตกเป็นข่าวย้ายฟรีตามกฎบอสแมนอยู่ตลอด แต่สุดท้ายเขาก็จรดปากกาขยายสัญญาเพิ่มไปอีก 1 ปีด้วยกัน
เหนียวหนึบแม้อยู่ในช่วงปลายอาชีพ
เลห์มันน์ แสดงความอึดอัดใจไม่มีปิดบังที่ต้องตกเป็นมือ 2 รองจาก อัลมูเนีย เหตุเพราะกลัวว่าจะสูญเสียตำแหน่งในทีมชาติชุดลุยศึกยูโร 2008 แต่กระนั้นกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังคงชื่นชมความเป็นมืออาชีพชั้นยอดของนายทวารลูกทีมคนนี้
ในเอฟเอ คัพ รอบ 4 เลห์มันน์ เก็บคลีนชีต 2 นัดติดต่อกันช่วยทีมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0 พร้อมกันนั้น เวนเกอร์ รับปากว่าถ้าอยู่ต่อไม่ย้ายไปไหนจะให้ลงเล่นศึกบอลถ้วยเก่าแก่ทุกนัด ก่อนที่เจ้าตัวเปิดปากยอมอยู่ต่อจนหมดสัญญาด้วยเหตุผลสำคัญคือสายสัมพันธ์กับแฟนบอล, นักเตะ ตลอดจนเรื่องครอบครัว และโอกาสประสบความสำเร็จกับสโมสร ซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้ ณ ตอนนั้น
เวลาต่อมา อัลมูเนีย ได้รับบาดเจ็บเปิดโอกาส เลห์มันน์ คืนเฝ้าเสาพรีเมียร์ลีกนัดเยือน แมนฯ ซิตี้ เป็นเวลากว่า 5 เดือนจากการเฝ้าเสาในลีกก่อนหน้านี้ จากนั้นยึดถุงมือยาวๆ รวมถึงเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมเลกแรกพบ เอซี มิลาน และในเอฟเอ คัพ ที่ตกรอบแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด
อัลมูเนีย ยังคงประสบปัญหาความฟิตเข้าๆ ออกๆ ทีมในช่วงท้ายซีซั่น 07/08 ส่งผลให้ เลห์มันน์ ได้คืนตัวจริงแต่ก็แพ้ทีมปีศาจแดงอีกครั้งในนัดการันตีหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ
นับจากนั้น เลห์มันน์ หลุดมือ 2 อีกรอบจนกระทั่งถึงแมตช์พบ เอฟเวอร์ตัน นัดสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลนั้นเขาถูกส่งลงแทนที่ ฟาเบียนสกี้ ในช่วง 20 นาทีท้าย ก่อนจบเกมปรบมือขอบคุณแฟนบอลที่ทำ "สแตนดิ้ง โอเวชั่น" ตอบแทนให้ด้วย และเพียงวันถัดมา เวนเกอร์ ก็ยืนยันว่านั่นคือเกมอำลามือกาวชาวเยอรมัน
ช่วยทีมคว้าแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003/04
เลห์มันน์ ย้ายกลับบ้านเกิดร่วมทีม สตุ๊ตการ์ท อยู่ได้ 2 ปีก็ประกาศแขวนถุงมือ แต่แล้วในช่วงเดือนมีนาคม 2011 เลห์มันน์ กลับลำมาช่วยทีมปืนใหญ่ต้นสังกัดเก่าแก้วิกฤตเฝ้าเสาเมื่อทั้ง วอยเชียค เซสนี่, ลูคัส ฟาเบียนสกี้ และ วีโต้ มานโนเน่ นัดกันเดี้ยงเหลือเพียง มานูเอล อัลมูเนีย ฟิตอยู่คนเดียว โดยครั้งนี้เซ็นระยะสั้นๆ ระหว่างที่ตัวเขาศึกษาหลักสูตรโค้ชไปด้วย
เลห์มันน์ ได้รับโอกาสลงตัวจริงนัดเยือน แบล็คพูล เนื่องจาก อัลมูเนีย เจ็บระหว่างวอร์ม เป็นเกมที่ 200 พอดีของเขากับ อาร์เซน่อล ทั้งยังกลายเป็นนักเตะอายุมากของทีมปืนใหญ่ที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยวัย 41 ปี
สัญญารอบสองของ เลห์มันน์ สิ้นสุดลงตอนจบฤดูกาล 2010/11 และเขาก็ตัดสินใจรีไทร์อย่างเป็นทางการอีกรอบ
แม้ช่วงท้ายอาชีพกับ อาร์เซน่อล เยนส์ เลห์มันน์ จะเป็นสำรองบ่อยครั้ง แต่การเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกไร้พ่ายก็เป็นสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลไปตลอดกาล
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT