"บิ๊กโซล" จูดาสที่รักของปืนใหญ่

  อารมณ์ชิงชังเป็นปฏิปักษ์กันระหว่างสองคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนตอนเหนือทำให้ดูเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะได้เห็นนักเตะคนใดย้ายสังกัดโดยตรงระหว่างทั้งสองสโมสร

  แต่เรื่องนั้นมันเคยเกิดขึ้นกับ โซล แคมป์เบลล์ ผู้กลายเป็น "จูดาส" ตลอดกาลในหมู่แฟนไก่ แต่กลับกันก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนปืนใหญ่หลงรัก 

ย้อนไปเมื่อฤดูร้อนปี 2001 "บิ๊กโซล" หมดสัญญาในเล้าไก่ ไวท์ ฮาร์ท เลน แล้วเลือกหักดิบแปรพักตร์สวมเสื้อเบอร์ 23 ปืนใหญ่พื่อโอกาสประสบความสำเร็จ ได้ลงเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งส่งผลดีต่อการลงเล่นทีมชาติ แม้ในอดีตเคยประกาศกร้าวไม่มีวันย้ายร่วมทัพ อาร์เซน่อล ก็ตาม

เวลาต่อมา อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสเปิดเผยว่าตัดสินใจเซ็นสัญญา แคมป์เบลล์ หลังค้นพบตอนคุมทีมทำศึกนอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้แล้วแนวรุกลูกทีมวิ่งทะลวงผ่านเขาไม่ได้เหมือนเคย และยังดูเหมือน "มีพลังงานบางอย่างที่ทำลายล้างกระจายอยู่รอบตัวเขา" ว่าอย่างนั้น

ปราการหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษประเดิมลงสนามให้กับ "เดอะ กันเนอร์ส" ในเกมเปิดฤดูกาล 2001/02 ถล่ม มิดเดิ้ลสโบรช์ 4-0 ถึงถิ่นริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม และตลอดทั้งซีซั่นนั้นได้สถาปนาตนเป็น "เสาหลัก" จับคู่กับ โทนี่ อดัมส์ กัปตันทีมผู้ประกาศล่วงหน้าเตรียมรีไทร์ตอนสิ้นสุดฤดูกาล หรือ มาร์ติน คีโอว์น สลับกันแล้วแต่สถานการณ์

  แคมป์เบลล์ ได้ฤกษ์รีเทิร์นถิ่นเก่า ไวท์ ฮาร์ท เลน ในช่วงปลายปีเดือนพฤศจิกายนที่จบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 แต่ถึงแม้จะทำผลงานส่วนตัวได้ดี เขาก็ต้องพบกับเรื่องช็อกเมื่อ โทนี่ พี่ชายแท้ๆ ของเขาอยู่ท่ามกลางกลุ่มกองเชียร์ท็อตแน่ม แถมตะโกนด่าทอตอนที่เขาอยู่ในสนาม

เริ่มสร้างชื่อกับไก่เดือยทอง

  อย่างไรก็แล้วแต่การย้ายทีมที่เกิดขึ้นนั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงามเมื่อ บิ๊กโซล ปิดฉากขวบปีแรกได้ทั้งเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ มาคล้องคอ 

โดยในนัดชิงถ้วยเก่าแก่ที่ มิลเลนเนี่ยน สเตเดี้ยม กรุงคาร์ดิฟฟ์นั้น เขาออกสตาร์ตตัวจริงเคียงข้าง อดัมส์ ช่วยทีมเก็บคลีนชีตในชัยชนะเหนือ เชลซี 2-0 ตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม และเพียง 4 วันให้หลัง อาร์เซน่อล ก็การันตีแชมป์ลีกด้วยชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ฤดูกาล 2002/03 ทีมปืนใหญ่ต้องจอดป้ายแชมเปี้ยนส์ ลีก ไว้เพียงรอบแบ่งกลุ่ม แต่ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันดับเบิลแชมป์ อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวของ แคมป์เบลล์ นับว่าน่าผิดหวังเมื่อเขาพลาดมีส่วนร่วมช่วงโค้งสุดท้ายด้วยโทษแบน สุดท้ายกลายเป็นยื่นแชมป์ลีกถึงมืออริอย่าง "ปีศาจแดง"  

ส่วนเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ อาร์เซน่อล ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้เพียงแต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมอยู่ในสนาม

แคมป์เบลล์ ได้รับรางวัลปลอบใจ ติดทีมยอดเยี่ยมประจำปีของ พีเอฟเอ เคียงข้างเพื่อนร่วมทีมทั้ง โลแรน, แอชลี่ย์ โคล, ปาทริค วิเอร่า, โรแบร์ ปิแรส และ เธียร์รี่ อองรี

  ฤดูกาลถัดมา 2003/04 ซึ่งเป็นที่โจษจันสนั่นทุ่งในฐานะ "ฤดูกาลไร้พ่าย" แคมป์เบลล์ ได้พาร์ทเนอร์ใหม่อย่าง โคโล่ ตูเร่ เป็นกำแพงเหล็กหลังบ้านช่วยทีมทวงโทรฟี่ลีกสูงสุดโดยไม่แพ้ใครแม้แต่นัดเดียว!

อาร์เซน่อล การันตีแชมป์แบบสุดพีคด้วยผลเสมอถึงถิ่น สเปอร์ส ทีมเก่าของ บิ๊กโซล 2-2 และตัวเขาเองได้ติดทีม พีเอฟเอ ครั้งที่ 3 ในอาชีพ  

ย้ายช็อกโลกสู่ปืนใหญ่

  หลังเสร็จกิจเพื่อชาติในยูโร 2004 แคมป์เบลล์ ต้องพลาดช่วงเริ่มต้นซีซั่นถัดมาด้วยปัญหาบาดเจ็บหัวเข่า รวมถึงวืดเกมซิวโล่คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด

ครั้นกลับมาลงสนามได้กลับเจอเกมไม่ค่อยน่าจดจำเมื่อทีม "เดอะ กันเนอร์ส" สิ้นสุดสถิติไร้พ่ายลงที่ 49 นัดด้วยน้ำมือ "ปีศาจแดง" ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ในแมตช์ฉาว "สงครามปาพิซซ่า" ที่ซึ่ง บิ๊กโซล ถูกเชิ้ตดำ ไมค์ ไรลี่ย์ เป่าฟาวล์จุดโทษข้อหาทำฟาวล์ เวย์น รูนี่ย์ แม้เขายืนยันหนักแน่นกองหน้าดาวรุ่งผีแดงจงใจพุ่งล้มก็ตามแต่

สุดท้ายแล้ว อาร์เซน่อล จบแค่รองแชมป์ แต่ได้ถ้วยเอฟเอ คัพ หลังชนะจุดโทษ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ตัวของ บิ๊กโซล นั้นแค่นั่งสำรองโดยไม่ได้ถูกใช้งาน

  ฤดูกาล 2005/06 แคมป์เบลล์ ประสบปัญหาทั้งบาดเจ็บบวกฟอร์มตก ในเกมแพ้ เวสต์แฮม คาบ้าน 2-3 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์นั้น เขาต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ กับ 2 ประตูแรกที่เสียไปก่อนขอเปลี่ยนตัวออกเองในช่วงพักครึ่ง ตามด้วยเหตุการณ์ไม่ปกติที่เขาออกจากสนามไม่ยอมอยู่ดู เพื่อนลงเล่นครึ่งหลังที่เหลือ

โรแบร์ ปิแรส ให้ความเห็นว่า บิ๊กโซล กำลังประสบปัญหาน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในชีวิตส่วนตัว เขาขาดการติดต่อกับสโมสรไปหลายวัน ปลีกวิเวกไปเบลเยียมกับเพื่อนๆ เพื่อทบทวนปัญหาชีวิตก่อนกลับมารายงานตัวซ้อมในวันที่ 6 กุมภาพันธ์

กวาดแชมป์มากมายภายใต้เครื่องแบบอาร์เซน่อล

  แคมป์เบลล์ คืนสนามทันลงบู๊เกมสำคัญรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เลกสองบุกเสมอ บียาร์เรอัล 0-0 ช่วยทีมปืนโตเข้าชิงกับ บาร์เซโลน่า ณ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์

  ในนัดชิงเขาทำประตูขึ้นนำด้วยการโหม่งลูกฟรีคิกจาก อองรี ภายหลัง เอ็มมานูแอล เอบูเอ้ โดนทำฟาวล์ แต่น่าเสียดาย อาร์เซน่อล ที่เหลือ 10 คนเมื่อ เยนส์ เลห์มันน์ ถูกไล่ออกตั้งแต่ต้นเกมเสียท่าพ่าย บาร์ซ่า 1-2 หากอย่างน้อยๆ แคมป์เบลล์ ยังได้มีส่วนร่วมทำผลงานเกมรับสุดยอดในประวัติศาสตร์รายการยูซีแอล ไม่ปล่อยให้คู่แข่งเจาะตาข่ายได้นาน 10 นัดติดต่อกัน คิดเป็นเวลารวม 995 นาที

ช่วงซัมเมอร์ปี 2006 แคมป์เบลล์ ได้แยกทางกับ อาร์เซน่อล ด้วยความยินยอมพร้อมใจกัน 2 ฝ่ายไปหาความท้าทายใหม่ ย้ายสู่ พอร์ทสมัธ (2005-09) และ น็อตต์ส เคาน์ตี้ (2009) 

แคมป์เบลล์ หวนคืนรังปืนช่วงครึ่งหลังซีซั่น 2009/10 โดยย้ายฟรีเพื่อเป็นอะไหล่แนวรับ แล้วจังหวะชีวิตดีทั้ง โธมัส แฟร์มาเล่น และ วิลเลี่ยม กัลลาส นัดกันเจ็บช่วงท้ายทำให้ได้ลงตัวจริงบ่อยเกินคาดบนวัยปาเข้าไป 36 ปี

2010/11 กลายเป็นฤดูกาลสุดท้ายในอาชีพของ แคมป์เบลล์ โดยเซ็นสัญญาฟรี 1 ปีร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล แต่ไม่ค่อยได้ลงเล่นมากนัก 

จบซีซั่นทีมสาลิกาดงปฏิเสธใช้อ็อปชั่นขยายสัญญา และหลังจากไร้สังกัดนานร่วมปีเขาก็ประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2012