เส้นทางลูกหนังของ มิเกล เมรีโน่

เมรีโน่ เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ โอซาซูน่า ก่อนได้โอกาสค้าแข้งต่างแดนกับ โบรุสเซีย ดร์ทมุนด์ และ นิวคาสเซิ่ล ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่สโมสรที่สร้างชื่อได้จริงจริงคือ เรอัล โซเซียดาด ในบ้านเกิด 

เส้นทางลูกหนังของกองกลางตัวใหม่ อาร์เซน่อล เป็นมาอย่างไร ก่อนถึงลอนดอนเหนือในปัจจุบัน

เมรีโน่ เริ่มเล่นฟุตบอลกับ อมิโก้ ก่อนย้ายสู่สโมสรใหญ่ประจำเมืองอย่าง โอซาซูน่า ซึ่งหนึ่งในโค้ชที่ดูแลเยาวชนของสโมสรไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น อังเคล มิเกล เมรีโน่ คุณพ่อแท้ๆ ที่สมัยค้าแข้งผ่านการเล่นในลา ลีกา ให้กับ โอซาซูน่า และ เซลต้า บีโก้ เกือบสามร้อยนัด 

ครอบครัวของ มิเกล เมรีโน่ เป็นครอบครัวนักกีฬาโดยแท้จริงเพราะนอกจากคุณพ่อที่เล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว คุณแม่ก็เป็นนักบาสเกตบอลอาชีพ ส่วนน้องชายสองคนก็เล่นกีฬาทั้งสองประเภท 

ช่วงก่อนขึ้นสู่การเล่นอาชีพเต็มตัว เมรีโน่ เก็บประสบการณ์กับทีมชุดสำรองในลีก เตร์เซร่า ดิบิซิออน หรือ ดิวิชั่น 3 ของสเปน ก่อนได้เล่นชุดใหญ่ ฤดูกาล 2014/15 ที่ตอนนั้นอยู่ในลีกเซกุนด้า  

เขาลงเล่นไป 29 นัดในฤดูกาลแรก ช่วยทีมรอดตกชั้นสำเร็จด้วยหนึ่งคะแนนเหนือพื้นที่สีแดง ก่อนยกระดับความสำคัญขึ้นอีกด้วยผลงาน 4 ประตูใน 34 นัด พาทีมพุ่งไปจบอันดับ 6 ในฤดูกาล 2015/16

ฤดูกาล 2015/16 นับเป็นจุดเปลี่ยนของ เมรีโน่ อย่างแท้จริง เพราะด้วยผลงานอันโดดเด่นเกินอายุ 19 ปี โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังแห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี จึงเซ็นสัญญาล่วงหน้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

เด็กหนุ่มจากปามโปลน่า ตอกย้ำคุณภาพด้วยการพาทีมคว้าแชมป์รอบเพลย์ออฟของเซกุนด้า โดยยิงประตูในรอบตัดเชือกที่พบ กิมนาสติก เด ตาร์ราโกนา ได้ทั้งสองนัดรวม 3 ประตู ก่อนพาทีมเอาชนะ จีโรน่า 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ 

เมรีโน่ จึงปิดฉากกับ โอซาซูน่า ได้สวยงามส่งทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลา ลีกา สำเร็จ ก่อนโบกมือลาไปพิสูจน์ฝีเท้าในต่างแดนเป็นครั้งแรก

ช่วงเริ่มต้นกับ โอซาซูน่า

เขาเซ็นสัญญายาว 5 ปีกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และได้ร่วมงานกับ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือหนุ่มไฟแรงที่กำลังคุมทีมเป็นฤดูกาลที่สอง

เด็กหนุ่มจากสเปนคือหนึ่งในแข้งใหม่ของทีมร่วมกับ อุสมาน เดมเบเล่, มาร์ค บาร์ทรา, เอ็มเร่ มอร์, มาริโอ เกิทเซ่, ราฟาเอล เกร์เรยโร่ และ อันเดร เชือร์เล่ ส่วนสตาร์ดังที่อยู่กับทีมอยู่แล้วคือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, มาร์โค รอยส์, คริสเตียน พูลิซิช และ ชินจิ คางาวะ 

ชีวิตในต่างแดนครั้งแรกของ เมรีโน่ ไม่ง่าย เขาต้องแย่งตำแหน่งกับหลายคนในแดนกลาง และในบางครั้งถูก ทูเคิ่ล จับไปเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก

ฤดูกาลแรกในเยอรมันเต็มไปด้วยความยากลำบาก เมรีโน่ ลงสนามไปเพียง 9 นัด ขณะที่เสือเหลืองได้แชมป์เดเอฟเบ โพคาล แต่กองกลางชาวสเปนมีส่วนร่วมน้อยนิด 19 นาทีในฐานะสำรอง 

นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมที่เผชิญกับเหตุการณ์ร้ายถูกโจมตีด้วยระเบิดระหว่างอยู่บนรถบัสที่กำลังเดินทางไปสนาม เวสต์ฟาเล่นสตาดิโอน เพื่อลงเตะรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรกกับ โมนาโก แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

เมรีโน่ ได้โอกาสจาก ดอร์ทมุนด์ เพียงฤดูกาลเดียวก็ถูกปล่อยตัวไปเล่นที่ นิวคาสเซิ่ล ในอังกฤษ ขณะที่ ทูเคิ่ล ถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือ หลังมีความเห็นไม่ตรงกับฝ่ายบริหาร

ร่วมงาน โธมัส ทูเคิ่ล ที่ ดอร์ทมุนด์

ในวัย 21 ปี มิเกล เมรีโน่ เริ่มต้นใหม่ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งฤดูกาลกับ นิวคาสเซิ่ล ที่ตอนนั้นมี ราฟา เบนิเตซ กุนซือชาวเดียวกันกุมบังเหียน และผ่านไปไม่ถึงสิบนัดด้วยซ้ำ ทัพสาลิกาก็ใช้เงื่อนไขเซ็นสัญญาร่วมทีมแบบถาวรเป็นเวลา 5 ปี 

เบนิเตซ กล่าวถึงกองกลางดาวรุ่งว่า "เขาสร้างความประทับใจได้ยอดเยี่ยมที่สโมสร เขามีความมั่นใจ แต่เขาก็ยังอายุน้อย และมีหลายสิ่งที่ต้องพัฒนา"

การเริ่มต้นในลีกใหม่ที่ไปได้สวยจนได้สัญญาระยะยาว มีอันต้องชะงักเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บที่หลัง และเริ่มเสียตำแหน่งตัวจริงที่ ราฟา เลือกใช้ จอนโจ เชลวี่ย์ จับคู่ตรงกลางกับ โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ เป็นหลัก

อดีตดาวรุ่ง โอซาซูน่า จึงได้ลงสนามให้ไปทั้งหมดเพียง 25 นัดซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมเยือน อาร์เซน่อล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำได้ประตูเดียวในพรีเมียร์ลีกที่พบ คริสตัล พาเลซ 

แต่ในบรรดาผู้เล่นที่ลงสนามอย่างน้อย 5 นัดในฤดูกาลนั้น เมรีโน่ เป็นอันดับหนึ่งของทีมทั้งเรื่องการตัดบอล (2.3 ครั้ง), เก็บบอลกลับมาครอง (9.5 ครั้ง) และผ่านบอล (55.7 ครั้ง) ต่อค่าเฉลี่ย 90 นาที และผ่านบอลแม่นยำที่ 79.8 เปอร์เซ็นต์

ช่วงสั้นๆ กับ นิวคาสเซิ่ล

สองฤดูกาลผ่านไปกับสองสโมสรในต่างแดน เมรีโน่ ได้หวนคืนสเปนอีกครั้งด้วยการเซ็นสัญญากับ เรอัล โซเซียดาด ในซัมเมอร์ 2018 

ไม่เพียงแค่การได้กลับมาเล่นในสเปน แต่ มิเกล เมรีโน่ ยังรู้เหมือนว่าได้ "กลับบ้าน" ที่ช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเดินหน้าได้ราบรื่นจนกระทั่งค้าแข้งกับ โซเซียดาด นานถึง 6 ปี 

เมรีโน่ ช่วยให้ โซเซียดาด ยกระดับขึ้นเป็นทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ของตารางแบบจริงจัง เขาพาทีมกลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลที่แล้ว หลังจากจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2022/23 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลา ลีกา 

ในปี 2020 ที่ทั้งโลกกำลังเผชิญหน้ากับไว้รัสโควิด เมรีโน่ ช่วยให้ โซเซียดาด ฝ่าด่านหลายทีมดังซึ่งรวมถึง เรอัล มาดริด คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ มาครองได้สำเร็จซึ่งนับเป็นแชมป์แรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1982  

โซเซียดาด เอาชนะคู่ปรับร่วมแคว้นอย่าง แอธเลติก บิลเบา 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศซึ่ง เมรีโน่ กุมแดนกลางได้อย่างแข็งแกร่งจนคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง

เส้นทางสู่แชมป์แรกของสโมสรในรอบ 38 ปี มิเกล เมรีโน่ ได้ร่วมเล่นกับ มาร์ติน โอเดการ์ด ด้วยเพราะฤดูกาลนั้นถูกยืมตัวมาจาก เรอัล มาดริด 

พา โซเซียดาด คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ 

ฉลองแชมป์ยูโร 2024 เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ทั้งสองเล่นด้วยกันทั้งหมด 34 นัดในทุกรายการ พาทีมจบอันดับ 6 ของตาราง โดยที่ โอเดการ์ด ยิงได้ถึง 3 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จาก 5 นัดในโกปา เดล เรย์ แต่ไม่ได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศซึ่งด้วยผลกระทบจากโควิดทำให้ถูกเลื่อนการแข่งขันข้ามปีมาแข่งในเดือนเมษายนของปี 2021 ซึ่งตอนนั้น โอเดการ์ด มาอยู่กับ อาร์เซน่อล แล้ว 

นอกจาก โอเดการ์ด แล้ว เมรีโน่ ยังเคยเล่นกับ คีแรน เทียร์นีย์ แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ที่ไปอยู่กับ โซเซียดาด ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลที่แล้ว รวมถึง เดวิด ราย่า ในทีมชาติสเปน

เมรีโน่ ลงเล่นให้ โซเซียดาด มากถึง 242 นัด ตลอด 6 ฤดูกาล ทำไป 27 ประตู ก่อนช่วยให้ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ยูโร 2024 ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นใบเบิกทางสู่เวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ อาร์เซน่อล

และนี่ก็คือเส้นทางอาชีพของ มิเกล เมรีโน่ ที่สั่งสมประสบการณ์และฝีเท้ามานานนับทศวรรษ และตอนนี้กำลังพิสูจน์ตัวเองกับทีมที่พร้อมลุ้นแชมป์ในทุกรายการที่ลงสนาม