ถอดรหัสแชมป์ ตอน 1
เรือใบสีฟ้าของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้างมาตรฐานชั้นเยี่ยมขึ้นมาหลายอย่างจนกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก
ฟุตบอลของแมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้นำเสนอการเล่นอันน่าตื่นตื่นใจ เกมรุกบุกขยี้คู่แข่งในทิศทาง และมีรูปแบบการเข้าทำหลากหลาย มีประสิทธิภาพ และทรงพลังจนยากที่จะหาทางรับมือได้
แต่กว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมจับต้องได้ขนาดนี้คงไม่ใช่เพียงการใช้เงินซื้อผู้เล่นแบบไม่ลืมหูลืมตา หากแต่ต้องเข้าระบบและเล่นในสไตล์ที่ เป๊ป ต้องการได้
การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 3 เป็นการจบภารกิจหลัก แต่ยังมีอีกหลายสถิติที่แมนฯ ซิตี้ กำลังไล่ล่าเพื่อสร้างขึ้นใหม่ไม่ว่าจะเป็นคว้าชัยมากนัดที่สุด, เก็บคะแนนมากที่สุด และยิงได้มากที่สุด ฯลฯ
เคล็ดลับในการสร้างทีมที่ทรงประสิทธิภาพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ทำทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 7 จาก 9 ปีในอาชีพกุนซือคืออะไร วันนี้มีคำตอบในตอน 1
สถิติการยิงประตูและแอสซิสต์ในลีกของผู้เล่นแมนฯ ซิตี้
เริ่มต้นจากข้างหลัง
พื้นฐานการเล่นของทีมเกือบทุกทีมคือ ต้องการเป็นฝ่ายครองบอลและหาโอกาสเข้าทำ เมื่อเสียบอลก็ต้องรีบแย่งกลับมาคืนให้ได้เร็วที่สุด ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ทำได้ดีกว่าหลายทีม
เรือใบสีฟ้า ครองสถิติ 11 จาก 15 นัดของทีมที่ครองบอลมากกว่าคู่แข่งในฤดูกาลนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 71.23 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากฤดูกาลก่อนที่ทำได้ 64.9 เปอร์เซ็นต์
31 เปอร์เซ็นต์ของประตูที่ทำได้มีจุดเริ่มมาจากการแย่งบอลได้ในแดนคู่แข่งแล้วโจมตีทันที ส่วนอีก 34 เปอร์เซ็นต์เป็นการได้บอลคืนในแดนตัวเองก่อนโต้กลับ
ทุกทีมที่คุมไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และแมนฯ ซิตี้ ล้วนมีโครงสร้างคล้ายกันคือเซตบอลมาตั้งแต่แนวรับ นั่นทำให้การผ่านบอลในแต่ละนัดมีเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างสูง
แมนฯ ซิตี้ ผ่านบอลเฉลี่ย 5.2 ครั้งต่อ 1 ประตูที่ทำได้
จุดสำคัญที่ เป๊ป เน้นตั้งแต่ฤดูกาลก่อนและในฤดูกาลนี้คือ ผู้รักษาประตูที่ต้องผ่านบอลให้แม่นยำตามมาตรฐานที่ตั้งเอาไว้ ไม่ใช่เพียงแค่ปัดป้องลูกยิงของฝ่ายตรงข้าม
เขาประเมินในทีแรกว่า โจ ฮาร์ท ไม่ใช่คำตอบจึงดึง เคลาดิโอ บราโว่ มาแทน นักข่าวอังกฤษนิยามผู้รักษาประตูที่ต้องทำให้ได้ตามสไตล์เป๊ปว่า "Playmaker Keeper" แต่อดีตนายทวารบาร์เซโลน่าก็ยังไมได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ หลายนัดจึงเสียตำแหน่งให้ วิลลี่ กาบาเยโร่
ฤดูกาลนี้เราจึงได้เห็น เอแดร์ซอน เข้ามาเป็นมือหนึ่งคนใหม่ซึ่งนายทวารบราซิเลียนก็ตอบโจทย์เกือบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าที่หลักเซฟประตู และอ็อปชั่นเสริมการเปิดบอลทั้งมือและเท้า
สถิติของ เอแดร์ซอน เหนือกว่า บราโว่ และ กาบาเยโร่ ในเรื่องการผ่านบอล
ความเข้าใจในเกม รู้จังหวะเล่นเร็ว-ช้า และความแม่นยำในการผ่านบอลเหมือนเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่อยู่สุดเส้นหลังคือจุดเด่นของ เอแดร์ซอน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้
เอแดร์ซอน (เบอร์ 31) ขว้างบอลเร็วอย่างมีประสิทธิภาพให้ เควิน เดอ บรอยน์ (17) ทางกราบซ้าย ก่อนบอลต่อไปถึง ลีรอย ซาเน่ ที่หาโอกาสเปิดให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำประตูในเกมชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1
ประตูที่ 2 ในเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 มาจากการเปิดบอลของ เอแดร์ซอน ไปถึง ซาเน่ ตรงกลางสนามและจบโดย กาเบรียล เชซุส
การเล่นบอลได้เชื่องเท้าของ เอแดร์ซอน ทำให้แมนฯ ซิตี้ สามารถเซตเกมได้แต่แดนหลังอย่างที่เล่นกับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ที่เป็นจุดเริ่มต้นการได้ประตูทั้งในเกมชนะอาร์เซน่อล 3-0 และชนะ เวสต์บรอมวิช 3-2 ในเดือนมีนาคม
การต่อบอลในเกมกับอาร์เซน่อล
การต่อบอลในเกมกับเวสต์บรอมวิช
แท็กติกการเล่นแบบนี้จำเป็นต้องมีกองหลังที่จับบอลเล่นได้ดีด้วย ซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป๊ป ไม่ได้ซื้อปราการหลังตัวกลางเข้ามาเพิ่ม แต่ด้วยมาตรฐานการเล่นที่ดีขึ้นของ นิโกลัส โอตาเมนดี้ กับ จอห์น สโตนส์ ก็ทำให้วางใจในสไตล์ที่ต้องการได้
โอตาเมนดี้ กลายเป็นนักเตะที่ผ่านบอลมากกว่าทุกคนในลีกตอนนี้ที่ 2,902 ครั้ง ขณะที่ สโตนส์ ก็ผ่านบอลแม่นยำถึง 96.26 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่มีนักเตะพรีเมียร์ลีกคนใดที่ผ่านบอลในระดับ 1,000 ครั้งขึ้นไปทำได้เท่านี้
นิโกลัส โอตาเมนดี้ กลายเป็นผู้เล่นที่ผ่านบอลมากสุดในลีก
จริงอยู่ว่าในช่วงสัปดาห์นรกที่ แมนฯ ซิตี้ แพ้ 3 นัดติดต่อ ลิเวอร์พูล 2 นัดของถ้วยยุโรป และ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก โอตาเมนดี้ จะกลายเป็นจุดที่ถูกคู่แข่งโจมตี แต่ผลงานโดยรวมต้องยอมรับว่าปราการหลังอาร์เจนไตน์ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาอย่างมาก
(โปรดติดตามต่อในตอนที่ 2 วันศุกร์นี้)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT